All About Japan

5 จุดชมใบไม้เปลี่ยนสีก่อนใครในเดือนกันยายน!

ใบไม้แดง
5 จุดชมใบไม้เปลี่ยนสีก่อนใครในเดือนกันยายน!

เดือนกันยายนอาจไม่ใช่ช่วงเวลาเดินทางยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ แต่ก็เป็นช่วงเวลาที่สามารถชมใบไม้เปลี่ยนสีได้ก่อนใคร หลายแห่งเองก็มีบรรยากาศไม่ซ้ำกับใบไม้เปลี่ยนสีตามเมืองใหญ่ และยังถือเป็นช่วงเวลาที่ไม่ต้องเบียดเสียดกับนักท่องเที่ยวจำนวนมาก วันนี้เราจึงแนะนำ 5 จุดชมใบไม้เปลี่ยนสีในเดือนกันยายนเพื่อเป็นอีกทางเลือกสำหรับหลายๆ คน

1. อุทยานแห่งชาติไดเซทสึซัง จ.ฮอกไกโด (Daisetsuzan National Park, Hokkaido)

1. อุทยานแห่งชาติไดเซทสึซัง จ.ฮอกไกโด (Daisetsuzan National Park, Hokkaido)

https://pixta.jp/

อุทยานแห่งชาติไดเซทสึซังถือเป็นพื้นที่แรกๆ ของญี่ปุ่นที่สามารถชมความสวยงามของใบไม้เปลี่ยนสีได้ก่อนใคร โดยนอกจากจะเป็นที่ราบสูงที่รายล้อมไปด้วยภูเขาสูงและมีความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติแล้ว ที่นี่ยังมีภูมิประเทศที่หลากหลาย ทำให้สามารถชมใบไม้เปลี่ยนสีได้หลายรูปแบบ

ไม่ว่าจะเป็นการขึ้นกระเช้าไปยังยอดเขาคุโรดาเกะ (Mt. Kurodake) หรือกระเช้าไปยังยอดเขาอาซาฮิดาเกะ (Mt. Asahidake) หรือเส้นทางเดินเขาที่มีชื่อเสียงอย่างเส้นทางโมโมจิดานิ (Momojidani) หรือกินเซนได (Ginnsendai) ที่นักท่องเที่ยวทั่วไปก็สามารถเดินเที่ยวได้โยไม่ต้องมีอุปกรณ์พิเศษเพิ่มเติม นอกจากนี้ยังมีออนเซ็นที่มีชื่อเสียงอย่างโซอุนเคียวออนเซ็น (Sounkyo Onsen) ที่เหมาะสำหรับการผ่อนคลายหลังการเที่ยวชมธรรมชาติหรือพักค้างคืนอีกด้วย

ค่าเข้าชม : ฟรี (มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมหากขึ้นกระเช้าไฟฟ้า)
เวลาเปิดปิด : เปิดตลอด 24 ชั่วโมง
การเดินทาง : จากสถานี JR Asahikawa ขึ้นรถบัสมายังยังป้าย Asahidake Onsen หรือจากสถานี Kamikawa ขึ้นรถบัสมาลงที่ป้าย Sounkyo Onsen

2. เมืองฮาจิมันไต จ.อิวาเตะ (Hachimantai, Iwate)

2. เมืองฮาจิมันไต จ.อิวาเตะ (Hachimantai, Iwate)

https://pixta.jp/

เมืองฮาจิมันไต เป็นเมืองในจังหวัดอิวาเตะที่มีพื้นที่ส่วนหนึ่งครอบคลุมบริเวณอุทยานแห่งชาติโทวาดะ-ฮะจิมันไต (Towada- Hachimantai Nation Park) ซึ่งมีความโดดเด่นในฐานะพื้นที่ภูเขาไฟ ทำให้ในเมืองนี้มีแหล่งออนเซ็นที่มีชื่อเสียงอย่างฮาจิมันไตออนเซ็น (Hachimantai Onsen) และเป็นหนึ่งในสถานที่ที่สามารถชมความสวยงามของใบไม้เปลี่ยนสีได้อย่างสวยงามและสะดวกสบายที่สุด

ส่วนอีกหนึ่งวิธีชมใบไม้เปลี่ยนสีอย่างใกล้ชิดก็คือการเดินป่าไปตามเส้นทางสายต่างๆ บริเวณอุทยาน เช่น เส้นทางขึ้นไปยังยอดเขาชะอูสุ (Mt. Chausu) ซึ่งจะได้เห็นวิวมุมสูงและป่าไม้เบื้องล่างที่เปลี่ยนสีสันอย่างสวยงาม หรือเส้นทางไปยังบึงฮะจิมันนุมะ และกะมะนูมะ ซึ่งเป็นเส้นทางเดินง่ายๆ บนที่ราบลุ่ม และจะได้สัมผัสกับทิวทัศน์ของใบไม้เปลี่ยนสีบนแนวภูเขาโดยรอบ

รวมถึงภาพของภูเขาที่สะท้อนบนบึงน้ำอย่างสวยงาม และปิดท้ายด้วยถนนที่มีชื่อเสียงอย่างฮะจิมันไตแอสไปต์ไลน์ (Hachimantai Aspite Line) ถนนความยาว 27 กิโลเมตรที่ทอดยาวขึ้นมาบนภูเขา และสามารถชมใบไม้เปลี่ยนสีระหว่างเส้นทางได้อย่างเต็มตา

ค่าเข้าชม : ฟรี
เวลาเปิดปิด : เปิดตลอด 24 ชั่วโมง
การเดินทาง : สถานี Hachimantai แล้วต่อรถบัสไปยังจุดหมายต่างๆ ที่ต้องการ

3. อุทยานแห่งชาติโอเซ จ.กุนมะ (Oze National Park, Gunma)

3. อุทยานแห่งชาติโอเซ จ.กุนมะ (Oze National Park, Gunma)

https://pixta.jp/

อุทยานแห่งชาติโอเซ เป็นอุทยานแห่งชาติขนาดใหญ่ที่ครอบคลุมพื้นที่ทั้งจังหวัดกุนมะ ฟุคุชิมะ นีงาตะ และโทชิงิ โดยเอกลักษณ์สำคัญของที่นี่คือเป็นอุทยานที่มีภูมิประเทศส่วนใหญ่เป็นพื้นที่ชุ่มน้ำ แต่ก็ยังห้อมล้อมไปด้วยภูเขาอย่างภูเขาชิบุทสึ (Mt. Shibutsu) หนึ่งในร้อยภูเขาที่มีชื่อเสียงในญี่ปุ่น รวมถึงยอดเขาฮิอุจิงะทะเกะ (Hiuchigatake) ที่มีความสูงมากที่สุดในภูมิภาคโทโฮคุ

รูปแบบการชมใบไม้เปลี่ยนสีที่นี่จึงเป็นการเดินไปตามเส้นทางชมธรรมชาติสายต่างๆ ผ่านที่ลุ่มและบึงน้ำ โดยหนึ่งในจุดชมใบไม้เปลี่ยนสีที่สวยที่สุดคือ "บริเวณบึงโอเซนุมะ (Ozenuma Pond)" โดยนอกจากจะเห็นภูเขาโดยรอบเปลี่ยนสีสันอย่างสวยงามแล้ว ต้นไม้ใบหญ้าบริเวณรอบๆ บึงก็เปลี่ยนสีเป็นสีเหลืองทองซึ่งกลมกลืนไปกับทิวทัศน์โดยรอบ ซึ่งเป็นบรรยากาศที่แตกต่างออกไปจากอุทยานแห่งชาติที่อื่นๆ

ค่าเข้าชม : ฟรี
เวลาเปิดปิด : เปิดตลอด 24 ชั่วโมง (ปิดช่วงฤดูหนาว ต้นเดือนพ.ย. – ปลายเดือนเม.ย)
การเดินทาง : สถานี Numata ต่อรถบัสไปลงที่ป้าย Hatomachitoge-Bus-Renrakujo จากนั้นนั่งบัสต่อไปลงที่ป้าย Hatomachitoge-Kyukeijomae

4. ภูเขาคุริโคมะ จ.อิวาเตะ (Mt. Kurikoma, Iwate)

4.  ภูเขาคุริโคมะ จ.อิวาเตะ (Mt. Kurikoma, Iwate)

https://pixta.jp/

ภูเขาคุริโคมะเป็นภูเขาความสูง 1,626 เมตรที่ครอบคลุมพื้นที่ทั้งจังหวัดอิวาเตะ มิยางิ และอากิตะ และมีชื่อเรียกอีกชื่อหนึ่งว่าภูเขาสุกาวะ (Mt. Sukawa) เนื่องจากเป็นภูเขาที่มีความสูงไม่มาก แต่ห้อมล้อมไปด้วยธรรมชาติที่มีความอุดมสมบูรณ์และมีความสวยงามในช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสี

หนึ่งในวิธีการชมความสวยงามสำหรับนักท่องเที่ยวทั่วไปคือการเดินขึ้นไปยังยอดเขาคุริโคมะ ซึ่งใช้เวลาเพียง 1 ชั่วโมง 30 นาทีเท่านั้น หรือสำหรับใครที่เช่ารถขับ ก็มีถนนขึ้นภูเขาที่สามารถขับรถชมทิวทัศน์สองข้างทาง และไปสิ้นสุดที่ “อิวาคากามิไดระ” ซึ่งเป็นจุดชมวิวที่มีชื่อเสียงของภูเขาลูกนี้ โดยสามารถมองเห็นภาพมุมสูงของภูเขาและพื้นที่โดยรอบซึ่งเปลี่ยนสีสันไปอย่างงงดงาม

นอกจากนี้ บริเวณใกล้เคียงยังเป็นที่ตั้งของสุกาวะออนเซ็น (Sukawa Onsen) แหล่งออนเซ็นชื่อดังที่สามารถแวะพักผ่อนและคลายความเหนื่อยล้าจากการเดินทางได้เป็นอย่างดี และด้วยที่ตั้งซึ่งอยู่บนความสูง 1,126 เมตร จึงมีบ่อออนเซ็นจำนวนมากที่สามารถแช่น้ำไปพร้อมๆ กับชมวิวอันงดงามของใบไม้เปลี่ยนบริเวณภูเขาได้อย่างน่าประทับใจ

ค่าเข้าชม : ฟรี
เวลาเปิดปิด : เปิดตลอด 24 ชั่วโมง
การเดินทาง : วิธีที่สะดวกที่สุดคือการเช่ารถขับ

5. เส้นทางเจแปนแอลป์ ทาเตยามะ-คุโรเบะ จ.โทยาม่า (Tateyama Kurobe Alpine Route, Toyama)

5. เส้นทางเจแปนแอลป์ ทาเตยามะ-คุโรเบะ จ.โทยาม่า (Tateyama Kurobe Alpine Route, Toyama)

https://pixta.jp/

เส้นทางทาเตยามะ-คุโรเบะ เป็นเส้นทางที่เริ่มต้นบริเวณภูเขาทาเทยาม่า (Mount Tateyama) ในจังหวัดโทยาม่า (Toyama) ไปสิ้นสุดที่สถานีโองิซาวะ (Ogisawa) ในจังหวัดนางาโน่ (Nagano) มีระยะทางรวมประมาณ 25 กิโลเมตร เป็นจุดท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงจากกำแพงหิมะในช่วงฤดูหนาว แต่ในฤดูใบไม้ร่วงนั้นก็ถือเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สามารถชมความสวยงามของใบไม้เปลี่ยนสีได้อย่างน่าประทับใจ

ทั้งจากการขึ้นกระเช้าลอยฟ้าชมความสวยงามจากมุมสูง หรือแวะเดินไปตามเส้นทางชมธรรมชาติอย่างพื้นที่ชุ่มน้ำทุ่งมิดางะฮาระ (Midagahara Wetlands) หรือที่ราบมุโระโด (Murodo-daira) ที่สามารถสัมผัสกับแนวภูเขาเจแปนแอลป์ที่กำลังเปลี่ยนสีสันได้อย่างใกล้ชิด

ค่าเข้าชม : ฟรี (เสียเฉพาะค่าบริการระบบขนส่งรูปแบบต่างๆ ระหว่างเส้นทาง)
เวลาเปิดปิด : ระบบขนส่งระหว่างเส้นทางสายนี้มีรอบบริการที่แตกต่างกันไป โปรดตรวจสอบก่อนเดินทางอีกครั้ง
การเดินทาง : สถานี Tateyama

ผู้เขียน: ชินพงศ์ มุ่งศิริ
เริ่มต้นทำงานเป็นช่างภาพอิสระหลังเรียนจบ เดินทางไปถ่ายภาพที่ประเทศญี่ปุ่นบ่อยครั้งจนครบทั้ง 4 ฤดูอันสวยงาม และเกือบครบทุกภูมิภาค มีผลงานภาพถ่ายตีพิมพ์ในไกด์บุ๊คระดับโลกอย่าง Lonely Planet ถึง 3 เล่ม คือ Discovery Japan, Japan และ Kyoto รวมถึงเว็บไซต์ท่องเที่ยวชั้นนำอย่าง National Geographic Traveler UK, BBC Travel, Travel+Leisure, TIME และอีกมาก
นอกจากการถ่ายทอดความสวยงามของประเทศญี่ปุ่นผ่านภาพถ่าย ปัจจุบันยังหันมาถ่ายทอดเรื่องราวผ่านทางตัวอักษรทั้งในฐานะนักเขียนและนักแปลควบคู่กันไปอีกด้วย

know-before-you-go