All About Japan

อัพเดทปี 2023! 10 ที่เที่ยวเด่น เดือนเมษายน รอบโตเกียว

Tokyo Kanto
อัพเดทปี 2023! 10 ที่เที่ยวเด่น เดือนเมษายน รอบโตเกียว

ญี่ปุ่นเดือนเมษายนคือฤดูใบไม้ผลิที่อากาศแจ่มใสและเป็นฤดูกาลที่มีดอกไม้หลากหลายสีสันเริ่มผลิบานในหลายๆ พื้นที่ ทำให้มีกิจกรรมท่องเที่ยวและงานเทศกาลมากมาย ให้ได้วางแผนเที่ยว ชิม ช้อป ชมดอกไม้ สำหรับใครที่วางแผนจะไปเที่ยวโตเกียว (Tokyo) รวมถึงพื้นที่รอบๆ ในช่วงเดือนเมษายน ครั้งนี้ก็มีแหล่งท่องเที่ยวน่าสนใจมาแนะนำดังต่อไปนี้

※ หมายเหตุ บทความนี้ได้ทำการเรียบเรียงใหม่ (Re-write) ณ วันที่ 28 มีนาคม 2023

1. ไปกินซูชิและอาหารทะเลสดๆ ที่ตลาดปลาโทโยสุ โตเกียว (Toyosu Fish Market, Tokyo)

1. ไปกินซูชิและอาหารทะเลสดๆ ที่ตลาดปลาโทโยสุ โตเกียว (Toyosu Fish Market, Tokyo)

https://pixta.jp/

ตลาดปลาโทโยสุ (Toyosu Fish Market) เป็นตลาดปลาแห่งใหม่ในโตเกียวที่ย้ายมาจากตลาดปลาซึคิจิ (Tsukiji Market) และได้กลายเป็นตลาดค้าส่งของสดขนาดใหญ่ โดยมีทั้งอาหารทะเลอย่างปลามากุโระ (ปลาทูน่า) ผัก ผลไม้จำหน่ายทุกวันในปริมาณที่มากที่สุดเป็นอันดับหนึ่งของญี่ปุ่น แบ่งเป็น 3 ส่วนหลักๆ คือ

- Fish Intermediate Wholesale Market Building ตึกนี้เป็นจะใช้ซื้อขายอาหารทะเลสำหรับผู้ประกอบธุรกิจหรือร้านค้าปลีกและมีส่วนของร้านซูชิต่างๆ
- Fruit and Vegetable Market Building ตึกนี้จะมีการประมูลผักกับผลไม้สดทั้งจากในและต่างประเทศรวมทั้งช่องทางติดต่อขายส่ง
- Fish Wholesale Market Building ตึกนี้เป็นสถานที่ประมูลปลาทูน่าและมีร้านอาหารทะเลสด เป็นจุดหมายหลักของนักท่องเที่ยว

ตลาดปลาโทโยสุเป็นอาคารใหม่และมีขนาดใหญ่ ซึ่งร้านอาหารที่เคยอยู่ในตลาดปลาสึคิจิเมื่อย้ายมาที่นี่ก็กระจายตัวแยกกันใน 3 อาคาร โดยมีทั้งร้านซูชิ ร้านอาหารทะเลทำสดๆ ใหม่ๆ ร้านอาหารญี่ปุ่นทั่วไปอย่างข้าวแกงกะหรี่ โอมากาเสะและร้านขนมหวานแบบญี่ปุ่น สามารถเลือกชมเลือกชิมร้านโปรดได้ตามต้องการ หรือถ้าสนใจส่วนของการโชว์แล่เนื้อปลา การประมูลต่างๆ จะมีจุดชมตลาด (Observation deck) ที่จัดไว้ให้นักท่องเที่ยวโดยเฉพาะ

เวลาเปิดให้บริการ : 05.00-15.00 น. (ขึ้นอยู่กับแต่ละร้านค้า)
ค่าเข้าชม : ฟรี
การเดินทาง : เดิน 2 นาที จากสถานีชิโจมาเอะ (Shijo-mae Station) สาย Yurikamome

2. อิ่มท้องกับอาหารคนโตเกียวที่ถนนสายมงจายากิย่านสึคิชิมะ โตเกียว (Tsukishima Monja Street, Tokyo)

2. อิ่มท้องกับอาหารคนโตเกียวที่ถนนสายมงจายากิย่านสึคิชิมะ โตเกียว (Tsukishima Monja Street, Tokyo)

https://pixta.jp/

นึกถึงเดือนเมษายน ก็ต้องนึกถึงอากาศดีๆ และอาหารอร่อย หากมาโตเกียวขอแนะนำให้ลองกิน มงจายากิ (Monjayaki) อาหารที่ได้ชื่อว่าเป็นอาหารของคนโตเกียว ทำให้มีย่านร้านมงจายากิสูตรดั้งเดิมที่ได้รับความนิยมอย่างเช่นที่ถนนสายมงจายากิที่ย่านสึคิชิมะ (Tsukishima Monja Street) ถนนที่มีร้านมงจายากิตั้งอยู่เรียงรายเป็นระยะทางประมาณ 500 เมตร ประกอบด้วยร้านเก่าแก่ที่เปิดให้บริการมาตั้งแต่ยุคโชวะจนถึงปัจจุบันรวมกว่า 70 ร้าน ให้ได้ตระเวนเลือกชิมกันอย่างเพลิดเพลิน

จุดเด่นของการรับประทานมงจายากิคือสามารถลงมือปรุงรสชาติและเลือกส่วนผสมได้เองโดยพนักงานร้านจะคอยให้ความช่วยเหลือ ลักษณะหน้าตาของมงจายากิจะดูคล้ายโอโคโนยิมากิแต่ความต่างคือมงจายากิจะรับประทานแบบร้อนๆ จากบนกระทะตอนแป้งยังไม่แข็งตัวมากนัก วัตถุดิบและส่วนผสมก็มีความคล้ายกัน เช่น แป้งผสมโชยุ เนื้อสัตว์ กะหล่ำปลี เส้นอุด้ง ชีส โมจิ เป็นต้น

เวลาเปิดให้บริการ : ขึ้นอยู่กับแต่ละร้าน
การเดินทาง : เดิน 5 นาที จากสถานีสึคิชิมะ (Tsukishima) สาย Tokyo Metro Yurakucho Line

3. ชมดอกซากุระที่สวนโชวะคิเน็น โตเกียว (Showa Kinen Park, Tokyo)

3. ชมดอกซากุระที่สวนโชวะคิเน็น โตเกียว (Showa Kinen Park, Tokyo)

https://pixta.jp/

สวนโชวะคิเน็น (Showa Kinen Park) คือสวนสาธารณะขนาดใหญ่ของกรุงโตเกียวที่มีดอกไม้นานาพรรณให้ได้ชมตลอดทั้งปีในทุกฤดูกาลและในเดือนเมษายนที่นี่ก็เป็นอีกหนึ่งจุดชมซากุระที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวจำนวนมากทั้งชาวญี่ปุ่นและชาวต่างชาติ

จุดเด่นของที่นี่ก็คือทิวทัศน์สีชมพูของดอกซากุระบานสะพรั่งผสมผสานกับสีสันของทุ่งดอกทิวลิปและสีเหลืองสดใสของทุ่งดอกนาโนะฮานะ (Nanohana) หรือดอกมัสตาร์ด ซึ่งเป็นทัศนียภาพที่งดงามอย่างยิ่ง และด้วยความที่สวนแห่งนี้มีบริเวณกว้างใหญ่ กิจกรรมอย่างหนึ่งที่ได้รับความนิยมมากก็คือการปั่นจักรยานชมวิว หรือเตรียมอาหารว่าง เครื่องดื่ม ขนม มานั่งปิกนิกใต้ต้นซากุระก็เป็นอีกบรรยากาศการชมดอกไม้ที่น่าสนใจเช่นกัน

เวลาเปิดให้บริการ : 09.30-18.00 น.
ค่าเข้าชม : เด็กมัธยมปลาย-ผู้ใหญ่ 450 เยน, ผู้สูงอายุ ( 65 ปี ขึ่นไป) 210 เยน
การเดินทาง : เดิน 15 นาที จากสถานีทาชิคาวะ (Tachikawa Station) สาย JR Chuo Line

4. ชมความงามของดอกวิสทีเรียที่สวนดอกไม้อาชิคางะ โทชิงิ (Ashikaga Flower Park, Tochigi)

4. ชมความงามของดอกวิสทีเรียที่สวนดอกไม้อาชิคางะ โทชิงิ (Ashikaga Flower Park, Tochigi)

https://pixta.jp/

สวนดอกไม้อาชิคางะ (Ashikaga Flower Park) ในจังหวัดโทชิงิ (Tochigi) ช่วงกลางเดือนเมษายนเป็นต้นไปในช่วงระยะเวลาประมาณ 1 เดือน จะมีการจัดงานเทศกาลชมดอกวิสทีเรีย (Wisteria) หรือดอกฟูจิ (Fuji) ภายใต้ชื่องาน “ฟูจิโนะฮะนะ โมโนกาตาริ (Fuji no Hana Monogatari) ซึ่งจะได้พบกับทิวทัศน์ของดอกวิสทีเรียสีม่วงกว่า 300 ต้น บานสะพรั่งเป็นสีม่วงทั่วพื้นที่

พิเศษไปกว่านั้นคือต้นวิสทีเรียขนาดใหญ่เก่าแก่อายุมากกว่า 150 ปี ที่ผลิดอกวิสทีเรียบนระแนงไม้ขนาดราว 1,000 ตารางเมตร ให้บรรยากาศเหมือนกำลังเดินอยู่ในอุโมงค์ดอกวิสทีเรีย โดยเรียกกันว่าต้นโอฟูจิ (Ofuji) นอกจากสายพันธ์สีม่วงแล้วที่นี่ก็ยังมีดอกวิสทีเรียสีขาว สีชมพู และซุ้มดอกวิสทีเรียสีเหลืองให้ได้ชมด้วยอีกทั้งในยามค่ำคืนก็จะมีการจัดงานประดับไฟดอกวิสทีเรีย (Light up) กับภาพบรรยากาศทิวทัศน์ที่งดงามแตกต่างจากช่วงกลางวัน

เวลาเปิดให้บริการ : แตกต่างกันไปในแต่ละช่วงเวลา โดยช่วงที่มีเทศกาลชมดอกวิสทีเรียจะเปิดให้บริการตั้งแต่ 07.00-21.00 น.
ค่าเข้าชม : เทศกาลชมดอกวิสทีเรีย กลางวัน 900-1,800 เยน กลางคืน 600-1,500 เยน
การเดินทาง : เดินประมาณ 15 นาที จากสถานีโทมิตะ (Tomita Station) สาย JR Ryomo Line พิเศษเฉพาะช่วงเทศกาลจะมีการเปิดสถานีพิเศษ Ashikaga Flower Park Station ซึ่งเดินเพียง 1 นาทีถึงสวน

5. เดินเที่ยวย่านโยโกฮาม่าไชน่าทาวน์ จังหวัดคานากาวะ (Yokohama Chinatown, Kanagawa)

5. เดินเที่ยวย่านโยโกฮาม่าไชน่าทาวน์ จังหวัดคานากาวะ (Yokohama Chinatown, Kanagawa)

https://pixta.jp/

โยโกฮาม่าไชน่าทาวน์ (Chinatown) เป็นย่านไชน่าทาวน์ที่ใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่นซึ่งอยู่ไม่ไกลจากโตเกียว จุดเด่นของที่นี่คืออาคารสถาปัตยกรรม ถนนหนทางในสไตล์จีนผสมผสานกับความเป็นญี่ปุ่นที่มีความเป็นระเบียบและมีร้านอาหารจีนต้นตำรับกว่า 600 ร้านค้า อัดแน่นทั่วบริเวณ เหมาะกับการมาเดินเล่นชมบรรยากาศสบายๆ ในเดือนเมษายนพร้อมทั้งแวะชิมอาหารจีนอร่อยๆ หลากหลายประเภทตลอดทางเดิน

ไม่ว่าจะเป็นอาหารจีนเซี่ยงไฮ้กับรสชาติเข้มข้นและหวานเล็กน้อยเพราะใช้เครื่องปรุงรสหมัก เช่น เกี๊ยวต้มสไตล์จีนกับซาลาเปาไส้หมูแดงเป็นอาหารขึ้นชื่อที่ไม่ควรพลาด อาหารจีนเสฉวนกับอาหารที่มีรสชาติเผ็ดร้อนซึ่งเมนูที่ได้รับคสามนิยมมากคือเต้าหู้เผ็ดและกุ้งซอสพริก นอกจากนี้ยังมีคาเฟ่เครื่องดื่ม ร้านขนม ร้านขายของที่ระลึก หรือแม้กระทั่งหมอดูที่ให้บริการดูดวงแบบจีนซึ่งได้รับความสนใจจากผู้คนที่มาเที่ยวโยโกฮาม่าไชน่าทาวน์ไม่น้อยเลยทีเดียว

เวลาเปิดให้บริการ : ขึ้นอยู่กับแต่ละร้าน
การเดินทาง : จากสถานี Motomachi-Chukagai เดินประมาณ 3 นาที

6. ชมวิวภูเขาไฟฟูจิ ล่องเรือและชิมไข่ดำที่ฮาโกเนะ จังหวัดคานากาวะ (Hakone, Kanagawa)

6. ชมวิวภูเขาไฟฟูจิ ล่องเรือและชิมไข่ดำที่ฮาโกเนะ จังหวัดคานากาวะ (Hakone, Kanagawa)

https://pixta.jp/

ฮาโกเนะ (Hakone) เป็นแหล่งน้ำพุร้อนชื่อดังของจังหวัดคานากาวะ (Kanagawa) ที่เต็มไปด้วยธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์มีแหล่งท่องเที่ยวและสิ่งน่าสนใจหลากหลายรูปแบบเหมาะกับการท่องเที่ยวทุกฤดูกาลสำหรับฤดูใบไม้ผลิเดือนเมษายนก็มีทั้งจุดชมวิวซากุระ เช่น บริเวณสะพานอาจิไซ ที่ทอดข้ามแม่น้ำฮายะ (Haya River)

เมื่อถึงฤดูใบไม้ผลิจะได้พบกับวิวซากุระจะบานมีสะพานเป็นฉากหลัง นอกจากนี้ก็ยังมี พิพิธภัณฑ์ศิลปะกลางแจ้ง ย่านร้านค้า คาเฟ่ หรือถ้ามีโอกาสได้พักแรมในเรียวกังก็จะได้สัมผัสบรรยากาศการแช่น้ำพุร้อนท่ามกลางทิวทัศน์ธรรมชาติ รวมถึงการล่องเรือนำเที่ยวทะเลสาบอาชิโนะโกะ (Lake Ashinoko) และเที่ยวชมควันสีขาวจากปล่องภูเขาไฟที่โอวะคุดะนิ (Owakudani) ชิมไข่ดำ (Kurotamago) ซึ่งต้มด้วยน้ำแร่กำมะถัน เป็นต้น

การเดินทาง : จากสถานี Shinjuku ขึ้นรถไฟ Odakyu Romance Car ไปลงที่สถานี Hakone Yumoto ใช้เวลา 1 ชั่วโมง 45 นาที

※ แนะนำตั๋วพาสออนไลน์สุดพิเศษสำหรับนักท่องเที่ยวชาวไทย อ่านเพิ่มเติมที่นี่

7. ย้อนเวลาหาอดีตที่ย่านเมืองเก่าคาวาโกเอะ จังหวัดไซตามะ (Kawagoe, Saitama)

7. ย้อนเวลาหาอดีตที่ย่านเมืองเก่าคาวาโกเอะ จังหวัดไซตามะ (Kawagoe, Saitama)

https://pixta.jp/

คาวาโกเอะ (Kawagoe) คือย่านท่องเที่ยวในบรรยากาศเมืองย้อนยุคสมัยเอโดะในจังหวัดไซตามะ (Saitama) มีอะไรให้ดูตลอดปี แต่ในเดือนเมษายน จะเพิ่มความพิเศษตรงที่มีจุดชมากุระอันสวยงามติดอันดับของภูมิภาคคันโต ที่ริมแม่น้ำชิงกะชิ (Shingashi River)

ที่คาวาโกเอะถือเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมที่มีการสืบสานวัฒนธรรมดั้งเดิมของญี่ปุ่นให้ได้ชมกันในหลากหลายแง่มุม ทั้งด้านสถาปัตยกรรมอาคารบ้านเรือน ย่านร้านขายขนมญี่ปุนโบราณกับขนมอิโมะโคอิ (Imokoi) ขนมที่ทำจากมันหวานสอดไส้ถั่วแดงบด เป็นต้น

จุดหนึ่งที่ไม่ควรพลาดคือถนนสายโกดังเก่า (Kuratsukuri no machinami) ที่เต็มไปด้วยอาคารประวัติศาสตร์อายุกว่า 400 ปี รวมทั้งหอระฆัง Toki no kane อาคารโบราณสถานที่เปรียบเหมือนแลนด์มาร์คของคาวาโกเอะ และจากตรงนี้เดินไปประมาณ 500 เมตรก็จะถึงจุดชมซากุระริมแม่น้ำชิงกะชิ

อีกจุดหนึ่งคือ ถนนไทโชโรมันยูเมะ (Taisho Roman Yume dori) กับบรรยากาศแบบดั้งเดิมที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้และมักถูกใช้เป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์กับละครโทรทัศน์หลายเรื่อง ในย่านนี้ส่วนใหญ่จะเป็นร้านค้า ร้านขายของที่ระลึก ร้านขนมและร้านกาแฟสมัยโบราณ เหมาะมากๆ กับการถ่ายรูปย้อนยุค

การเดินทาง : รถไฟสาย Tobu Tojo Line ลงที่สถานีคาวาโกะเอะ (Kawagoe Station)

8. เที่ยวเทศกาลดอกชิบะซากุระและวิวภูเขาไฟฟูจิ ยามานาชิ (Fuji-Shibazakura Festival, Yamanashi)

8. เที่ยวเทศกาลดอกชิบะซากุระและวิวภูเขาไฟฟูจิ ยามานาชิ (Fuji-Shibazakura Festival, Yamanashi)

https://pixta.jp/

เดือนเมษายนนอกจากดอกซากุระแล้วในช่วงปลายเดือนไปจนถึงต้นเดือนพฤษภาคมจะมีเทศกาลชมดอกไม้ประจำฤดูใบไม้ผลิอีกประเภทหนึ่งนั่นคือดอกชิบะซากุระ (Shibazakura หรือ Pink Moss) ซึ่งเป็นดอกไม้รูปร่างคล้ายดอกซากุระแต่มีสีชมพูเข้มกว่าและเวลาบานจะปกคลุมทั่วผืนดิน

จุดชมดอกชิบะซากุระที่ได้รับความนิยมมากแห่งหนึ่งก็คืองานเทศกาลชมดอกชิบะซากุระภูเขาไฟฟูจิ (Fuji Shibazakura Festival) ซึ่งจะได้พบกับทิวทัศน์ดอกชิบะซากุระกว่า 800,000 ดอก บานสะพรั่งย้อมสวนขนาดใหญ่ให้ความรู้สึกเหมือนงานศิลปะที่ถูกสร้างขึ้นบนผืนดินอย่างน่าทึ่งอีกทั้งยังมีภูเขาไฟฟูจิเป็นฉากหลังด้วย โดยภายในงานก็จะมีกิจกรรมและการออกร้านแผงลอยขายอาหารอร่อยขึ้นชื่อ เช่น ยากิโซบะเมืองฟูจิโนะมิยะ (Fujinomiya Yakisoba) และขนมหวานที่ทำเป็นรูปดอกชิบะซากุระกับเครื่องดื่มต่างๆ เป็นต้น

เวลาเปิดให้บริการ : 08.00-17.00 น.
ค่าเข้าชม : นักเรียนมัธยมต้นขึ้นไป 600 เยน, เด็กอายุ 3 ขวบขึ้นไป 200 เยน
การเดินทาง : จากสถานีคาวากูจิโกะ (Kawaguchiko Station) โดยสารรถบัส Shibazakura Liner ไปลงที่ Fuji Shibazakura Matsuri Kaijo ใช้เวลา 30 นาที

9. เดินเล่นกลางทุ่งดอกไม้ขนาดใหญ่ที่สวนฮิตาชิ ซีไซด์ ปาร์ค จังหวัดอิบารากิ (Hitachi Seaside Park, Ibaraki)

9. เดินเล่นกลางทุ่งดอกไม้ขนาดใหญ่ที่สวนฮิตาชิ ซีไซด์ ปาร์ค จังหวัดอิบารากิ (Hitachi Seaside Park, Ibaraki)

https://pixta.jp/

สวนสาธารณะฮิตาชิ ซีไซด์ ปาร์ค (Hitachi Seaside Park) เป็นสวนดอกไม้ริมทะเลขนาดใหญ่ที่ประกอบไปด้วยโซนชมทุ่งดอกไม้ประจำฤดูกาลหลายสายพันธุ์โดยจะบานผลัดเปลี่ยนกันให้ชมตลอดทั้งปี ช่วงฤดูใบไม้ผลิตั้งแต่เดือนเมษายนจะมีดอกไม้สีฟ้าชื่อ เนโมฟิลลา (Nemophila) หรือที่หลายคนเรียกกันว่า Baby Blue Eyes กว่า 4,500,000 ดอก

นอกจากนี้ ยังมีดอกกุหลาบและดอกป๊อปปี้บานในช่วงเวลาเดียวกันอีกด้วย อีกทั้งยังมีพื้นที่กิจกรรมมากมายตามจุดต่างๆ ภายในสวน เช่น โซนเครื่องเล่นขนาดใหญ่ที่มีเครื่องเล่นกว่า 25 ชนิด โดยมีเเลนด์มาร์คเป็นชิงช้าสวรรค์ความสูง 65 เมตรรวมไปถึงร้านอาหารและช็อปของที่ระลึก โซน Dune Garden ที่มีคาเฟ่เปิดทำการในอาคารเรือนกระจกขนาดใหญ่ล้อมรอบด้วยสายน้ำ พร้อมวิวชายทะเลและท้องฟ้าชื่อว่า Glass House ถือเป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวซึ่งเหมาะกับการวางแผนมาเที่ยวกันทั้งครอบครัว

เวลาเปิดให้บริการ : 09.30-17.00 น.
ค่าเข้าชม : เด็กและผู้ใหญ่ 700 เยน ผู้สูงอายุ (65 ปี ขึ้นไป) 460 เยน
การเดินทาง : จากสถานี Katsuta ขึ้นรถบัส Ibaraki Kotsu Bus มาลงที่ป้าย Kaihin Koen Nishiguchi ใช้เวลาประมาณ 25 นาที

10. ล่องเรือชมวิวเมืองและเที่ยวเทศกาลดอกซากุระเมืองซาวาระ ชิบะ (Sawara, Chiba)

10. ล่องเรือชมวิวเมืองและเที่ยวเทศกาลดอกซากุระเมืองซาวาระ ชิบะ (Sawara, Chiba)

https://pixta.jp/

เมืองซาวาระ (Sawara) ในจังหวัดชิบะ (Chiba) เป็นย่านบ้านเมืองเก่าย้อนยุคริมสองฝั่งคลอง ที่มีบรรยากาศเหมือนได้ย้อนยุคกลับไปในสมัยเอโดะและมีกิจกรรมท่องเที่ยวเด่นๆ คือการล่องเรือชมวิวสองฝั่งคลอง ซึ่งในช่วงเดือนเมษายนที่เมืองซาวาระก็จะมีการจัดงานเทศกาลชมดอกซากุระราวๆ 2 สัปดาห์แรกของเดือนตามพื้นที่ต่างๆ ของเมือง เช่น ริมฝั่งแม่น้ำจุคเคนกาวา (Jukkengawa River) และศาลเจ้าคาโทริ (Katori Shrine)

แน่นอนว่าในเดือนเมษายน ที่นี่จะเต็มไปด้วยซากุระริมสองฝั่งแม่น้ำ ซากุระในเมืองซาวาระส่วนใหญ่จะเป็นสายพันธุ์โซเมโยชิโนะสีขาวอ่อน ประดับประดาด้วยโคมไฟกระดาษญี่ปุ่นนับร้อยดวง และที่ศาลเจ้าคาโตริจะมีอุโมงค์ซากุระประมาณ 700 ต้นบริเวณทางเดินเข้าศาลเจ้าอีกทั้งยังมีงานประดับไฟต้นซากุระยามค่ำคืนอย่างงดงาม นอกจากนี้ในงานยังมีกิจกรรมการออกร้านแผงลอยขายอาหารรวมทั้งสินค้าท้องถิ่นต่างๆ ให้ได้ชมกันด้วย

และถึงแม้จะไม่ใช่เดือนเมษายน แต่ประมาณพฤษภาคมและมิถุนายนก็จะมีดอกไม้อีกอย่างให้ชม นั่นคือทุ่งดอกอายาเมะ (Iris) ที่งานเทศกาล Ayame Matsuri โดยที่นี่เป็นหนึ่งในจุดชมดอกไอริสที่มีชื่อเสียงที่สุดในญี่ปุ่น

เวลาเปิดให้บริการ : ตลอด 24 ชั่วโมง
ค่าเข้าชม : ฟรี
การเดินทาง : เดิน 5 นาที จากสถานีซาวาระ (Sawara Station) สาย Narita Line

ผู้เขียนและเรียบเรียงใหม่: หนึ่ง
นักอ่านและนักเขียนที่ชอบการเดินทางไปในที่ต่างๆ โดยเฉพาะญี่ปุ่น รักการดูอนิเมะญี่ปุ่นเป็นชีวิตจิตใจ :)

know-before-you-go