อัพเดทปี 2023! 10 ที่เที่ยวเด่น เดือนเมษายน รอบโตเกียว
ญี่ปุ่นเดือนเมษายนคือฤดูใบไม้ผลิที่อากาศแจ่มใสและเป็นฤดูกาลที่มีดอกไม้หลากหลายสีสันเริ่มผลิบานในหลายๆ พื้นที่ ทำให้มีกิจกรรมท่องเที่ยวและงานเทศกาลมากมาย ให้ได้วางแผนเที่ยว ชิม ช้อป ชมดอกไม้ สำหรับใครที่วางแผนจะไปเที่ยวโตเกียว (Tokyo) รวมถึงพื้นที่รอบๆ ในช่วงเดือนเมษายน ครั้งนี้ก็มีแหล่งท่องเที่ยวน่าสนใจมาแนะนำดังต่อไปนี้
※ หมายเหตุ บทความนี้ได้ทำการเรียบเรียงใหม่ (Re-write) ณ วันที่ 28 มีนาคม 2023
1. ไปกินซูชิและอาหารทะเลสดๆ ที่ตลาดปลาโทโยสุ โตเกียว (Toyosu Fish Market, Tokyo)
ตลาดปลาโทโยสุ (Toyosu Fish Market) เป็นตลาดปลาแห่งใหม่ในโตเกียวที่ย้ายมาจากตลาดปลาซึคิจิ (Tsukiji Market) และได้กลายเป็นตลาดค้าส่งของสดขนาดใหญ่ โดยมีทั้งอาหารทะเลอย่างปลามากุโระ (ปลาทูน่า) ผัก ผลไม้จำหน่ายทุกวันในปริมาณที่มากที่สุดเป็นอันดับหนึ่งของญี่ปุ่น แบ่งเป็น 3 ส่วนหลักๆ คือ
- Fish Intermediate Wholesale Market Building ตึกนี้เป็นจะใช้ซื้อขายอาหารทะเลสำหรับผู้ประกอบธุรกิจหรือร้านค้าปลีกและมีส่วนของร้านซูชิต่างๆ
- Fruit and Vegetable Market Building ตึกนี้จะมีการประมูลผักกับผลไม้สดทั้งจากในและต่างประเทศรวมทั้งช่องทางติดต่อขายส่ง
- Fish Wholesale Market Building ตึกนี้เป็นสถานที่ประมูลปลาทูน่าและมีร้านอาหารทะเลสด เป็นจุดหมายหลักของนักท่องเที่ยว
ตลาดปลาโทโยสุเป็นอาคารใหม่และมีขนาดใหญ่ ซึ่งร้านอาหารที่เคยอยู่ในตลาดปลาสึคิจิเมื่อย้ายมาที่นี่ก็กระจายตัวแยกกันใน 3 อาคาร โดยมีทั้งร้านซูชิ ร้านอาหารทะเลทำสดๆ ใหม่ๆ ร้านอาหารญี่ปุ่นทั่วไปอย่างข้าวแกงกะหรี่ โอมากาเสะและร้านขนมหวานแบบญี่ปุ่น สามารถเลือกชมเลือกชิมร้านโปรดได้ตามต้องการ หรือถ้าสนใจส่วนของการโชว์แล่เนื้อปลา การประมูลต่างๆ จะมีจุดชมตลาด (Observation deck) ที่จัดไว้ให้นักท่องเที่ยวโดยเฉพาะ
เวลาเปิดให้บริการ : 05.00-15.00 น. (ขึ้นอยู่กับแต่ละร้านค้า)
ค่าเข้าชม : ฟรี
การเดินทาง : เดิน 2 นาที จากสถานีชิโจมาเอะ (Shijo-mae Station) สาย Yurikamome
2. อิ่มท้องกับอาหารคนโตเกียวที่ถนนสายมงจายากิย่านสึคิชิมะ โตเกียว (Tsukishima Monja Street, Tokyo)
นึกถึงเดือนเมษายน ก็ต้องนึกถึงอากาศดีๆ และอาหารอร่อย หากมาโตเกียวขอแนะนำให้ลองกิน มงจายากิ (Monjayaki) อาหารที่ได้ชื่อว่าเป็นอาหารของคนโตเกียว ทำให้มีย่านร้านมงจายากิสูตรดั้งเดิมที่ได้รับความนิยมอย่างเช่นที่ถนนสายมงจายากิที่ย่านสึคิชิมะ (Tsukishima Monja Street) ถนนที่มีร้านมงจายากิตั้งอยู่เรียงรายเป็นระยะทางประมาณ 500 เมตร ประกอบด้วยร้านเก่าแก่ที่เปิดให้บริการมาตั้งแต่ยุคโชวะจนถึงปัจจุบันรวมกว่า 70 ร้าน ให้ได้ตระเวนเลือกชิมกันอย่างเพลิดเพลิน
จุดเด่นของการรับประทานมงจายากิคือสามารถลงมือปรุงรสชาติและเลือกส่วนผสมได้เองโดยพนักงานร้านจะคอยให้ความช่วยเหลือ ลักษณะหน้าตาของมงจายากิจะดูคล้ายโอโคโนยิมากิแต่ความต่างคือมงจายากิจะรับประทานแบบร้อนๆ จากบนกระทะตอนแป้งยังไม่แข็งตัวมากนัก วัตถุดิบและส่วนผสมก็มีความคล้ายกัน เช่น แป้งผสมโชยุ เนื้อสัตว์ กะหล่ำปลี เส้นอุด้ง ชีส โมจิ เป็นต้น
เวลาเปิดให้บริการ : ขึ้นอยู่กับแต่ละร้าน
การเดินทาง : เดิน 5 นาที จากสถานีสึคิชิมะ (Tsukishima) สาย Tokyo Metro Yurakucho Line
3. ชมดอกซากุระที่สวนโชวะคิเน็น โตเกียว (Showa Kinen Park, Tokyo)
สวนโชวะคิเน็น (Showa Kinen Park) คือสวนสาธารณะขนาดใหญ่ของกรุงโตเกียวที่มีดอกไม้นานาพรรณให้ได้ชมตลอดทั้งปีในทุกฤดูกาลและในเดือนเมษายนที่นี่ก็เป็นอีกหนึ่งจุดชมซากุระที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวจำนวนมากทั้งชาวญี่ปุ่นและชาวต่างชาติ
จุดเด่นของที่นี่ก็คือทิวทัศน์สีชมพูของดอกซากุระบานสะพรั่งผสมผสานกับสีสันของทุ่งดอกทิวลิปและสีเหลืองสดใสของทุ่งดอกนาโนะฮานะ (Nanohana) หรือดอกมัสตาร์ด ซึ่งเป็นทัศนียภาพที่งดงามอย่างยิ่ง และด้วยความที่สวนแห่งนี้มีบริเวณกว้างใหญ่ กิจกรรมอย่างหนึ่งที่ได้รับความนิยมมากก็คือการปั่นจักรยานชมวิว หรือเตรียมอาหารว่าง เครื่องดื่ม ขนม มานั่งปิกนิกใต้ต้นซากุระก็เป็นอีกบรรยากาศการชมดอกไม้ที่น่าสนใจเช่นกัน
เวลาเปิดให้บริการ : 09.30-18.00 น.
ค่าเข้าชม : เด็กมัธยมปลาย-ผู้ใหญ่ 450 เยน, ผู้สูงอายุ ( 65 ปี ขึ่นไป) 210 เยน
การเดินทาง : เดิน 15 นาที จากสถานีทาชิคาวะ (Tachikawa Station) สาย JR Chuo Line
4. ชมความงามของดอกวิสทีเรียที่สวนดอกไม้อาชิคางะ โทชิงิ (Ashikaga Flower Park, Tochigi)
สวนดอกไม้อาชิคางะ (Ashikaga Flower Park) ในจังหวัดโทชิงิ (Tochigi) ช่วงกลางเดือนเมษายนเป็นต้นไปในช่วงระยะเวลาประมาณ 1 เดือน จะมีการจัดงานเทศกาลชมดอกวิสทีเรีย (Wisteria) หรือดอกฟูจิ (Fuji) ภายใต้ชื่องาน “ฟูจิโนะฮะนะ โมโนกาตาริ (Fuji no Hana Monogatari) ซึ่งจะได้พบกับทิวทัศน์ของดอกวิสทีเรียสีม่วงกว่า 300 ต้น บานสะพรั่งเป็นสีม่วงทั่วพื้นที่
พิเศษไปกว่านั้นคือต้นวิสทีเรียขนาดใหญ่เก่าแก่อายุมากกว่า 150 ปี ที่ผลิดอกวิสทีเรียบนระแนงไม้ขนาดราว 1,000 ตารางเมตร ให้บรรยากาศเหมือนกำลังเดินอยู่ในอุโมงค์ดอกวิสทีเรีย โดยเรียกกันว่าต้นโอฟูจิ (Ofuji) นอกจากสายพันธ์สีม่วงแล้วที่นี่ก็ยังมีดอกวิสทีเรียสีขาว สีชมพู และซุ้มดอกวิสทีเรียสีเหลืองให้ได้ชมด้วยอีกทั้งในยามค่ำคืนก็จะมีการจัดงานประดับไฟดอกวิสทีเรีย (Light up) กับภาพบรรยากาศทิวทัศน์ที่งดงามแตกต่างจากช่วงกลางวัน
เวลาเปิดให้บริการ : แตกต่างกันไปในแต่ละช่วงเวลา โดยช่วงที่มีเทศกาลชมดอกวิสทีเรียจะเปิดให้บริการตั้งแต่ 07.00-21.00 น.
ค่าเข้าชม : เทศกาลชมดอกวิสทีเรีย กลางวัน 900-1,800 เยน กลางคืน 600-1,500 เยน
การเดินทาง : เดินประมาณ 15 นาที จากสถานีโทมิตะ (Tomita Station) สาย JR Ryomo Line พิเศษเฉพาะช่วงเทศกาลจะมีการเปิดสถานีพิเศษ Ashikaga Flower Park Station ซึ่งเดินเพียง 1 นาทีถึงสวน
5. เดินเที่ยวย่านโยโกฮาม่าไชน่าทาวน์ จังหวัดคานากาวะ (Yokohama Chinatown, Kanagawa)
โยโกฮาม่าไชน่าทาวน์ (Chinatown) เป็นย่านไชน่าทาวน์ที่ใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่นซึ่งอยู่ไม่ไกลจากโตเกียว จุดเด่นของที่นี่คืออาคารสถาปัตยกรรม ถนนหนทางในสไตล์จีนผสมผสานกับความเป็นญี่ปุ่นที่มีความเป็นระเบียบและมีร้านอาหารจีนต้นตำรับกว่า 600 ร้านค้า อัดแน่นทั่วบริเวณ เหมาะกับการมาเดินเล่นชมบรรยากาศสบายๆ ในเดือนเมษายนพร้อมทั้งแวะชิมอาหารจีนอร่อยๆ หลากหลายประเภทตลอดทางเดิน
ไม่ว่าจะเป็นอาหารจีนเซี่ยงไฮ้กับรสชาติเข้มข้นและหวานเล็กน้อยเพราะใช้เครื่องปรุงรสหมัก เช่น เกี๊ยวต้มสไตล์จีนกับซาลาเปาไส้หมูแดงเป็นอาหารขึ้นชื่อที่ไม่ควรพลาด อาหารจีนเสฉวนกับอาหารที่มีรสชาติเผ็ดร้อนซึ่งเมนูที่ได้รับคสามนิยมมากคือเต้าหู้เผ็ดและกุ้งซอสพริก นอกจากนี้ยังมีคาเฟ่เครื่องดื่ม ร้านขนม ร้านขายของที่ระลึก หรือแม้กระทั่งหมอดูที่ให้บริการดูดวงแบบจีนซึ่งได้รับความสนใจจากผู้คนที่มาเที่ยวโยโกฮาม่าไชน่าทาวน์ไม่น้อยเลยทีเดียว
เวลาเปิดให้บริการ : ขึ้นอยู่กับแต่ละร้าน
การเดินทาง : จากสถานี Motomachi-Chukagai เดินประมาณ 3 นาที
6. ชมวิวภูเขาไฟฟูจิ ล่องเรือและชิมไข่ดำที่ฮาโกเนะ จังหวัดคานากาวะ (Hakone, Kanagawa)
ฮาโกเนะ (Hakone) เป็นแหล่งน้ำพุร้อนชื่อดังของจังหวัดคานากาวะ (Kanagawa) ที่เต็มไปด้วยธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์มีแหล่งท่องเที่ยวและสิ่งน่าสนใจหลากหลายรูปแบบเหมาะกับการท่องเที่ยวทุกฤดูกาลสำหรับฤดูใบไม้ผลิเดือนเมษายนก็มีทั้งจุดชมวิวซากุระ เช่น บริเวณสะพานอาจิไซ ที่ทอดข้ามแม่น้ำฮายะ (Haya River)
เมื่อถึงฤดูใบไม้ผลิจะได้พบกับวิวซากุระจะบานมีสะพานเป็นฉากหลัง นอกจากนี้ก็ยังมี พิพิธภัณฑ์ศิลปะกลางแจ้ง ย่านร้านค้า คาเฟ่ หรือถ้ามีโอกาสได้พักแรมในเรียวกังก็จะได้สัมผัสบรรยากาศการแช่น้ำพุร้อนท่ามกลางทิวทัศน์ธรรมชาติ รวมถึงการล่องเรือนำเที่ยวทะเลสาบอาชิโนะโกะ (Lake Ashinoko) และเที่ยวชมควันสีขาวจากปล่องภูเขาไฟที่โอวะคุดะนิ (Owakudani) ชิมไข่ดำ (Kurotamago) ซึ่งต้มด้วยน้ำแร่กำมะถัน เป็นต้น
การเดินทาง : จากสถานี Shinjuku ขึ้นรถไฟ Odakyu Romance Car ไปลงที่สถานี Hakone Yumoto ใช้เวลา 1 ชั่วโมง 45 นาที
※ แนะนำตั๋วพาสออนไลน์สุดพิเศษสำหรับนักท่องเที่ยวชาวไทย อ่านเพิ่มเติมที่นี่
7. ย้อนเวลาหาอดีตที่ย่านเมืองเก่าคาวาโกเอะ จังหวัดไซตามะ (Kawagoe, Saitama)
คาวาโกเอะ (Kawagoe) คือย่านท่องเที่ยวในบรรยากาศเมืองย้อนยุคสมัยเอโดะในจังหวัดไซตามะ (Saitama) มีอะไรให้ดูตลอดปี แต่ในเดือนเมษายน จะเพิ่มความพิเศษตรงที่มีจุดชมากุระอันสวยงามติดอันดับของภูมิภาคคันโต ที่ริมแม่น้ำชิงกะชิ (Shingashi River)
ที่คาวาโกเอะถือเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมที่มีการสืบสานวัฒนธรรมดั้งเดิมของญี่ปุ่นให้ได้ชมกันในหลากหลายแง่มุม ทั้งด้านสถาปัตยกรรมอาคารบ้านเรือน ย่านร้านขายขนมญี่ปุนโบราณกับขนมอิโมะโคอิ (Imokoi) ขนมที่ทำจากมันหวานสอดไส้ถั่วแดงบด เป็นต้น
จุดหนึ่งที่ไม่ควรพลาดคือถนนสายโกดังเก่า (Kuratsukuri no machinami) ที่เต็มไปด้วยอาคารประวัติศาสตร์อายุกว่า 400 ปี รวมทั้งหอระฆัง Toki no kane อาคารโบราณสถานที่เปรียบเหมือนแลนด์มาร์คของคาวาโกเอะ และจากตรงนี้เดินไปประมาณ 500 เมตรก็จะถึงจุดชมซากุระริมแม่น้ำชิงกะชิ
อีกจุดหนึ่งคือ ถนนไทโชโรมันยูเมะ (Taisho Roman Yume dori) กับบรรยากาศแบบดั้งเดิมที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้และมักถูกใช้เป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์กับละครโทรทัศน์หลายเรื่อง ในย่านนี้ส่วนใหญ่จะเป็นร้านค้า ร้านขายของที่ระลึก ร้านขนมและร้านกาแฟสมัยโบราณ เหมาะมากๆ กับการถ่ายรูปย้อนยุค
การเดินทาง : รถไฟสาย Tobu Tojo Line ลงที่สถานีคาวาโกะเอะ (Kawagoe Station)
8. เที่ยวเทศกาลดอกชิบะซากุระและวิวภูเขาไฟฟูจิ ยามานาชิ (Fuji-Shibazakura Festival, Yamanashi)
เดือนเมษายนนอกจากดอกซากุระแล้วในช่วงปลายเดือนไปจนถึงต้นเดือนพฤษภาคมจะมีเทศกาลชมดอกไม้ประจำฤดูใบไม้ผลิอีกประเภทหนึ่งนั่นคือดอกชิบะซากุระ (Shibazakura หรือ Pink Moss) ซึ่งเป็นดอกไม้รูปร่างคล้ายดอกซากุระแต่มีสีชมพูเข้มกว่าและเวลาบานจะปกคลุมทั่วผืนดิน
จุดชมดอกชิบะซากุระที่ได้รับความนิยมมากแห่งหนึ่งก็คืองานเทศกาลชมดอกชิบะซากุระภูเขาไฟฟูจิ (Fuji Shibazakura Festival) ซึ่งจะได้พบกับทิวทัศน์ดอกชิบะซากุระกว่า 800,000 ดอก บานสะพรั่งย้อมสวนขนาดใหญ่ให้ความรู้สึกเหมือนงานศิลปะที่ถูกสร้างขึ้นบนผืนดินอย่างน่าทึ่งอีกทั้งยังมีภูเขาไฟฟูจิเป็นฉากหลังด้วย โดยภายในงานก็จะมีกิจกรรมและการออกร้านแผงลอยขายอาหารอร่อยขึ้นชื่อ เช่น ยากิโซบะเมืองฟูจิโนะมิยะ (Fujinomiya Yakisoba) และขนมหวานที่ทำเป็นรูปดอกชิบะซากุระกับเครื่องดื่มต่างๆ เป็นต้น
เวลาเปิดให้บริการ : 08.00-17.00 น.
ค่าเข้าชม : นักเรียนมัธยมต้นขึ้นไป 600 เยน, เด็กอายุ 3 ขวบขึ้นไป 200 เยน
การเดินทาง : จากสถานีคาวากูจิโกะ (Kawaguchiko Station) โดยสารรถบัส Shibazakura Liner ไปลงที่ Fuji Shibazakura Matsuri Kaijo ใช้เวลา 30 นาที
9. เดินเล่นกลางทุ่งดอกไม้ขนาดใหญ่ที่สวนฮิตาชิ ซีไซด์ ปาร์ค จังหวัดอิบารากิ (Hitachi Seaside Park, Ibaraki)
สวนสาธารณะฮิตาชิ ซีไซด์ ปาร์ค (Hitachi Seaside Park) เป็นสวนดอกไม้ริมทะเลขนาดใหญ่ที่ประกอบไปด้วยโซนชมทุ่งดอกไม้ประจำฤดูกาลหลายสายพันธุ์โดยจะบานผลัดเปลี่ยนกันให้ชมตลอดทั้งปี ช่วงฤดูใบไม้ผลิตั้งแต่เดือนเมษายนจะมีดอกไม้สีฟ้าชื่อ เนโมฟิลลา (Nemophila) หรือที่หลายคนเรียกกันว่า Baby Blue Eyes กว่า 4,500,000 ดอก
นอกจากนี้ ยังมีดอกกุหลาบและดอกป๊อปปี้บานในช่วงเวลาเดียวกันอีกด้วย อีกทั้งยังมีพื้นที่กิจกรรมมากมายตามจุดต่างๆ ภายในสวน เช่น โซนเครื่องเล่นขนาดใหญ่ที่มีเครื่องเล่นกว่า 25 ชนิด โดยมีเเลนด์มาร์คเป็นชิงช้าสวรรค์ความสูง 65 เมตรรวมไปถึงร้านอาหารและช็อปของที่ระลึก โซน Dune Garden ที่มีคาเฟ่เปิดทำการในอาคารเรือนกระจกขนาดใหญ่ล้อมรอบด้วยสายน้ำ พร้อมวิวชายทะเลและท้องฟ้าชื่อว่า Glass House ถือเป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวซึ่งเหมาะกับการวางแผนมาเที่ยวกันทั้งครอบครัว
เวลาเปิดให้บริการ : 09.30-17.00 น.
ค่าเข้าชม : เด็กและผู้ใหญ่ 700 เยน ผู้สูงอายุ (65 ปี ขึ้นไป) 460 เยน
การเดินทาง : จากสถานี Katsuta ขึ้นรถบัส Ibaraki Kotsu Bus มาลงที่ป้าย Kaihin Koen Nishiguchi ใช้เวลาประมาณ 25 นาที
10. ล่องเรือชมวิวเมืองและเที่ยวเทศกาลดอกซากุระเมืองซาวาระ ชิบะ (Sawara, Chiba)
เมืองซาวาระ (Sawara) ในจังหวัดชิบะ (Chiba) เป็นย่านบ้านเมืองเก่าย้อนยุคริมสองฝั่งคลอง ที่มีบรรยากาศเหมือนได้ย้อนยุคกลับไปในสมัยเอโดะและมีกิจกรรมท่องเที่ยวเด่นๆ คือการล่องเรือชมวิวสองฝั่งคลอง ซึ่งในช่วงเดือนเมษายนที่เมืองซาวาระก็จะมีการจัดงานเทศกาลชมดอกซากุระราวๆ 2 สัปดาห์แรกของเดือนตามพื้นที่ต่างๆ ของเมือง เช่น ริมฝั่งแม่น้ำจุคเคนกาวา (Jukkengawa River) และศาลเจ้าคาโทริ (Katori Shrine)
แน่นอนว่าในเดือนเมษายน ที่นี่จะเต็มไปด้วยซากุระริมสองฝั่งแม่น้ำ ซากุระในเมืองซาวาระส่วนใหญ่จะเป็นสายพันธุ์โซเมโยชิโนะสีขาวอ่อน ประดับประดาด้วยโคมไฟกระดาษญี่ปุ่นนับร้อยดวง และที่ศาลเจ้าคาโตริจะมีอุโมงค์ซากุระประมาณ 700 ต้นบริเวณทางเดินเข้าศาลเจ้าอีกทั้งยังมีงานประดับไฟต้นซากุระยามค่ำคืนอย่างงดงาม นอกจากนี้ในงานยังมีกิจกรรมการออกร้านแผงลอยขายอาหารรวมทั้งสินค้าท้องถิ่นต่างๆ ให้ได้ชมกันด้วย
และถึงแม้จะไม่ใช่เดือนเมษายน แต่ประมาณพฤษภาคมและมิถุนายนก็จะมีดอกไม้อีกอย่างให้ชม นั่นคือทุ่งดอกอายาเมะ (Iris) ที่งานเทศกาล Ayame Matsuri โดยที่นี่เป็นหนึ่งในจุดชมดอกไอริสที่มีชื่อเสียงที่สุดในญี่ปุ่น
เวลาเปิดให้บริการ : ตลอด 24 ชั่วโมง
ค่าเข้าชม : ฟรี
การเดินทาง : เดิน 5 นาที จากสถานีซาวาระ (Sawara Station) สาย Narita Line
ผู้เขียนและเรียบเรียงใหม่: หนึ่ง
นักอ่านและนักเขียนที่ชอบการเดินทางไปในที่ต่างๆ โดยเฉพาะญี่ปุ่น รักการดูอนิเมะญี่ปุ่นเป็นชีวิตจิตใจ :)