All About Japan

ลายแทงเที่ยวจ.โทยามะและกำแพงหิมะฉบับสมบูรณ์

แผนการการเดินทาง Toyama Chubu Hokuriku

ไม่ใช่แค่กำแพงหิมะ พาเที่ยวจังหวัดน้องใหม่อย่างโทยามะแบบละเอียดยิบครอบคลุมทั้งจังหวัด ฉบับเดียวเที่ยวทั่วจังหวัดโทยามะ

Toyama Page 1

ข้อมูลพื้นฐานและรวมข้อมูลที่เที่ยวในจังหวัดโทยามะ

ก่อนจะดูตัวอย่างแปลนเที่ยวในหน้าต่อๆไป เรามาทำความรู้จักที่เที่ยวในจังหวัดโทยามะกันไว้ก่อนดีกว่า

มีใครเล็งๆ จะไปภูเขาแอลป์ญี่ปุ่นกันบ้างหรือเปล่า จังหวัดโทยามะเป็นจังหวัดที่เส้นทางทาเตยามะ-คุโรเบะ (Tateyama Kurobe Alpine Route) พาดผ่าน ซึ่งก็คือหนึ่งในไฮไลท์ที่เราจะพาไปเจาะลึกจังหวัดโทยามะกัน แต่นอกจากเส้นทางนี้แล้วก็ยังเจาะลึกประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม ประเพณี แหล่งท่องเที่ยว อาหารการกิน และอีกสารพัดด้วย

จังหวัดโทยามะตั้งอยู่ในทำเลที่เหมาะสมแก่การท่องเที่ยวจริงๆ จังหวัดโทยามะ (Toyama) ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของภูมิภาคจูบุ (Chubu) หรือที่เรียกกันว่าภูมิภาคโฮกุริกุ (Hokuriku) อาณาเขตทางทิศเหนือติดต่อกับทะเลญี่ปุ่น ทิศตะวันออกติดต่อกับจังหวัดนีงาตะ (Niigata) และจังหวัดนางาโนะ (Nagano) ทิศใต้ติดต่อกับจังหวัดกิฟุ (Gifu) และทิศตะวันตกติดต่อกับจังหวัดอิชิกาวะ (Ishikawa) ตั้งแต่อดีตมา โทยามะเป็นเมืองท่าเรือที่ใช้ขนส่งสินค้าไปยังพื้นที่ต่างๆ หลายแห่ง แต่พอเข้าสู่ในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง โทยามะถูกโจมตีทางอากาศได้รับความเสียหายอย่างสาหัส จนทั้งเมืองแทบถูกทำลายพินาศไปเกือบหมด แต่เมื่อพ้นสงครามไปแล้ว โทยามะก็ได้รับการบูรณะฟื้นฟูจนกลับมาเป็นเมืองที่สวยงาม มีอาคารทันสมัยสไตล์โมเดิร์นสร้างขึ้นเรียงราย พร้อมด้วยทิวทัศน์ธรรมชาติเขียวขจี


อาหารทะเลของที่โทยามะสามารถหารับประทานได้ง่าย และมีความสดใหม่อยู่เสมอ อ่าวโทยามะได้ชื่อว่าเป็น “ขุมทรัพย์ทางธรรมชาติ” เพราะมีปลาและสัตว์ทะเลที่อุดมสมบูรณ์ ถ้ามาจังหวัดโทยามะก็ต้องมาลิ้มรสเมนู “ซูชิอ่าวโทยามะ” ที่ใช้วัตถุดิบคุณภาพทั้งของทะเลนานาชนิด

การเดินทางสู่จังหวัดโทยามะ

ถ้าเดินทางมาจากโตเกียวกับโอซาก้าจะมีเส้นทางทั้งของรถไฟ JR Hokuriku Shinkansen และรถด่วนที่สามารถผ่านมาลงสถานี Toyama

- จากสถานี Tokyo ขึ้นรถไฟชินกังเซ็น "Kagayaki" (ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง 10 นาที) หรือรถไฟชินกังเซ็น "Hakutaka" (ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง 40 นาที) ซึ่งทั้งคู่เป็นเส้นของ JR Hokuriku มาลงสถานี Toyama
- จากสถานี Osaka ขึ้นรถไฟ Limited Express Thunderbird มาลงสถานี Kanazawa (ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง 40 นาที) จากนั้นต่อรถไฟชินกังเซ็น "Tsurugi" มาลงสถานี Toyama (ใช้เวลาประมาณ 22 นาที)
- จากสถานี Nagoya ขึ้นรถไฟ Limited Express Wide View Hida มาลงที่สถานี Toyama (ใช้เวลาประมาณ 4 ชั่วโมง)

วัฒนธรรมประเพณีของโทยามะ

เรามักจะเห็นรถแห่ หรือ ฮิคิยามะ (Hikiyama) ร่วมประกอบในงานเทศกาลดั้งเดิมของจังหวัดโทยามะ เนื่องจากมีการอนุรักษ์รถแห่ไว้มาก สืบทอดกันมาตั้งแต่สมัยเอโดะ อย่างเทศกาลทากาโอกะ มิคุรุมะ ยามะ (Takaoka Mikurumayama) ที่รถแห่ซึ่งถูกประดับประดาอย่างวิจิตรงดงามทั้ง 7 คันเคลื่อนที่แสดงไปรอบเมือง ก็มีจุดเริ่มต้นจากรถลากที่ได้รับต่อมาจาก โทโยโตมิ ฮิเดโยชิ (Toyotomi Hideyoshi) หรืองานเทศกาลโจฮานะ ฮิคิยามะ (Johana Hikiyama) ก็เป็นรถแห่ในลักษณะของร้านอาหาร เป็นต้น นอกจากนี้งานเทศกาลอื่นๆ ของจังหวัดโทยามะก็มีรถแห่เข้าร่วมขบวนด้วยมากมาย นับว่าเป็นจังหวัดที่รักษาของดีประเพณีดั้งเดิมไว้ได้อย่างเหนียวแน่นน่าชื่นชม

1 ปราสาทโทยามะ (Toyama Castle)

1 ปราสาทโทยามะ (Toyama Castle)

https://zh.m.wikipedia.org/wiki/File:Toyama_Castle.jpg

มาที่ปราสาทโทยามะเป็นแห่งแรก ปราสาทนี้ตั้งอยู่ในเมืองโทยามะ เป็นแลนด์มาร์กสำคัญเป็นอันดับต้นๆของจังหวัด ปราสาทหลังปัจจุบันนี้สร้างขึ้นใหม่ในปี 1954 หลังจากที่ปราสาทเดิมได้รับความเสียหายจากแผ่นดินไหวและอัคคีภัย ด้วยความที่มีทัศนียภาพงดงาม มีองค์ประกอบของคูน้ำและสวนล้อมรอบปราสาท โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงฤดูใบไม้ผลิที่ดอกซากุระบานสะพรั่ง และช่วงฤดูใบไม้ร่วงที่ใบไม้เปลี่ยนสี นักท่องเที่ยวนิยมมาล่องเรือชมวิวในแม่น้ำมัตสึกาวะ (Matsukawa River) ซึ่งเป็นจุดชมดอกซากุระและใบไม้แดงที่ขึ้นชื่อของโทยามะ เดินมาไม่ไกลจากปราสาทมากนัก

เวลาทำการ
09.00 - 17.00 น.
ปิด 31 ธันวาคม - 1 มกราคม
ค่าเข้าชม
เฉพาะปราสาท 210 เยน
ถ้าเข้าชมพิพิธภัณฑ์ Sato Memorial Art Museum ด้วย 310 เยน
ล่องเรือชมวิว รอบละประมาณ 30 นาที
ผู้ใหญ่ 1,500 เยน
เด็ก (อายุ 3-12 ปี) 750 เยน
การเดินทาง
ขึ้นรถรางไปลงสถานี Kokusaikaigijo-Mae แล้วเดินไปอีกนิดเดียว หรือจากสถานีรถไฟ JR Toyama เดินไปประมาณ 10 นาที

2 พิพิธภัณฑ์ศิลปะกระจกเมืองโทยามะ (Toyama Glass Art Museum)

2 พิพิธภัณฑ์ศิลปะกระจกเมืองโทยามะ (Toyama Glass Art Museum)

https://commons.wikimedia.org/wiki/File:TOYAMA_KIRARI_Toyama_Glass_Art_Museum_ac_(4).jpg

พิพิธภัณฑ์ศิลปะกระจกมีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักกันทั่วญี่ปุ่น คอศิลป์ทั้งหลายต้องไม่อยากพลาดแน่ๆ การจัดแสดงในพิพิธภัณฑ์ศิลปะกระจกนี้เขารวบรวมเอางานศิลปะที่สรรสร้างด้วยวัสดุที่เป็นแก้วและกระจกใสหลากหลายมาโชว์ พิพิธภัณฑ์ตั้งอยู่ชั้น 2 - ชั้น 6 ของศูนย์การค้าโทยามะ คิราริ (TOYAMA Kirari) ซึ่งเป็นอาคารที่นำไม้และกระจกแก้วมาผสมกันตกแต่งได้อย่างลงตัว ออกแบบโดยสถาปนิกชื่อดัง คุมะ เค็นโงะ (Kuma Kengo) ถ้าเรียนสถาปัตย์หรือติดตามสถาปนิกดังๆน่าจะเคยได้ยินมาบ้าง และอาคารนี้นอกจากมีพิพิธภัณฑ์ศิลปะกระจกแล้ว ยังมีห้องสมุดเมืองโทยามะ คาเฟ่ที่เราสามารถนั่งชิลๆจิบเครื่องดื่มไปมองวิวเก๋ๆของเมืองโทยามะ และร้านขายงานศิลปะจากแก้วอีกด้วยนะ รับรองว่าเป็นของฝากที่ไม่เหมือนใครแน่นอน

เวลาทำการ
09.30 - 18.00 น.
หยุดวันพุธที่ 1 กับ 3 ของเดือน และช่วงปีใหม่
ค่าเข้าชม
200 เยน
แต่ถ้ามีนิทรรศการพิเศษจะอยู่ที่ประมาณ 700 - 1000 เยน
การเดินทาง
จากสถานีรถราง Grand Plaza-mae เดินต่อไปอีกประมาณ 2 นาที

3 โกคายามะ (Gokayama)

3 โกคายามะ (Gokayama)

https://pixta.jp/

โกคายามะเป็นที่เที่ยวนอกเหนือจากชิราคาวะโกที่เราจะได้มีโอกาสเที่ยวชมศิลปะการสร้างบ้านแบบกัตโชซึคุริ (Gassho-Zukuri) ที่มีลักษณะเด่นคือหลังคามุงหญ้าทรงหน้าจั่วที่ทำมุม 60 องศา รูปร่างเหมือนกับการพนมมือเข้าด้วยกัน โดยโกคายามะนี้ได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นหมู่บ้านมรดกโลกจาก UNESCO ไปพร้อมๆ กับชิราคาวะโกด้วย แต่มีข้อดีกว่าชิราคาว่าโกคือคนน้อยกว่ามากๆ และรถไม่ติด

เวลาทำการ
เปิดตลอด
ค่าเข้าชม
ฟรี
การเดินทาง
ขึ้นรถบัส Kaetsuno Bus จากสถานี Shin Takaoka ไปลงป้าย Ainokura หรือป้าย Suganuma

4 เขื่อนคุโรเบะ (Kurobe Dam)

4 เขื่อนคุโรเบะ (Kurobe Dam)

https://ja.m.wikipedia.org/wiki/%E3%83%95%E3%82%A1%E3%82%A4%E3%83%AB:Lake_Kurobe_1-1.jpg

เขื่อนคุโรเบะ (Kurobe Dam) เขื่อนซึ่งมีสันเขื่อนแนวโค้งใหญ่ที่สุดของประเทศญี่ปุ่น ใช้เวลาก่อสร้างนานถึง 7 ปี ก่อสร้างแล้วเสร็จในปี ค.ศ. 1963 ภาพการปล่อยมวลน้ำมหาศาลลงจากเขื่อนที่มีความสูง 186 เมตร ตั้งแต่ปลายเดือนมิถุนายน – กลางเดือนตุลาคม แล้วมีน้ำกระเซ็นพุ่งขึ้นจนอาจเกิดปรากฏการณ์รุ้งกินน้ำ ถือเป็นไฮไลท์เด็ดที่ไม่ควรพลาดเลยทีเดียว และตั้งแต่ต้นเดือนมิถุนายน – ต้นเดือนพฤศจิกายน เราสามารถล่องเรือชมทะเลสาบคุโรเบะ (Lake Kurobe) ที่โอบล้อมด้วยทัศนียภาพของธรรมชาติที่สวยงามชวนตะลึงได้ด้วย

เวลาทำการ
26 มิถุนายน - 31 กรกฎาคม 06.00 - 17.30 น
1 สิงหาคม - 10 กันยายน 06.30 - 17.00 น.
11 กันยายน - 15 ตุลาคม 07.00 - 16.30 น.
ค่าเข้าชม
ฟรี
การเดินทาง
ขึ้นรถไฟสาย JR Oito ลงสถานี Shinano-Omachi แล้วต่อรถประจำทาง หรือแท็กซี่

5 หุบเขาคุโรเบะ (Kurobe Gorge)

5 หุบเขาคุโรเบะ (Kurobe Gorge)

https://www.flickr.com/photos/wangjs/15244864203

อย่าสับสนกับเส้นทางทะลุภูเขาทาเทยามะคุโรเบะที่ใช้ชมกำแพงหิมะ

หุบเขาคุโรเบะนี้ตั้งอยู่ทางทิศเหนือของแจแปนแอลป์ เป็นหนึ่งในหุบเขาที่ลึกที่สุดของญี่ปุ่น มีแม่น้ำคุโรเบะไหลผ่าน ยามฤดูใบไม้ร่วงยิ่งเป็นจุดชมใบไม้เปลี่ยนสียอดนิยมของจังหวัดโทยามะ ดังนั้นเมื่อเรามาเที่ยวหุบเขาคุโรเบะทั้งทีก็ต้องชมวิวกันให้เต็มอิ่มกับ Kurobe Gorge Railway Torokko Train ที่วิ่งเชื่อมระหว่างสถานี Unazuki กับสถานี Keyakidaira เป็นระยะทางราว 20 กิโลเมตร

นี่เป็นกิจกรรมสบายๆที่เราจะได้นั่งรถไฟชมทิวทัศน์ของหุบเขาคุโรเบะ รถไฟก็มีทั้งขบวนปกติและแบบเปิดโล่ง ถ้าอยากได้บรรยากาศเต็มๆ ก็เลือกนั่งขบวนเปิดโล่งกันไปเลย ได้ซึมซับธรรมชาติแบบฟินสุดๆ จุดถ่ายรูปเด่นๆ ก็เช่นสะพานแดง ทะเลสาบ Unazuki ที่เป็นสีเขียวมรกต หินรูปร่างแปลกๆมากมาย และใบไม้เปลี่ยนสีสวยตรึงสายตา

เวลาทำการ
07.00 - 16.00 น.
ค่าเข้าชม
ฟรี
แต่มีค่ารถไฟ ผู้ใหญ่ 1,710 เยน เด็ก 860 เยน ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 20 นาที/รอบ
การเดินทาง
ขึ้นรถไฟ Hokuriku Shinkansen หรือ Toyama Local Railway ไปลงสถานี Unazuki เพื่อต่อรถไฟสายคุโรเบะ

6 ไคโอมารุปาร์ค (Kaiomaru Park)

6 ไคโอมารุปาร์ค (Kaiomaru Park)

https://ja.wikipedia.org/wiki/%E3%83%95%E3%82%A1%E3%82%A4%E3%83%AB:Kaioumaru-park.jpg

"ไคโอมารุปาร์ค" เป็นสวนที่อยู่ตรงท่าเรือฟุชิกิ-โทยามะ (Fushiki-Toyama Port) ใช้จัดแสดงเรือไคโอมารุซึ่งเป็นเรือที่ปฏิบัติหน้าที่มายาวนานถึง 59 ปี จนถึงปี 1989 โดยปกติไคโอมารุจะไม่ไ่ด้กางใบ แต่ในช่วงเดือนเมษายน - พฤศจิกายน จะมีการจัดอีเวนท์กางใบเรือให้สมกับความงามที่ถูกขนานนามว่า "สุภาพสตรีแห่งท้องทะเล (Lady of the Sea)" ที่มีแค่ 10 ครั้งใน 1 ปี

ถ้าเราสนใจประวัติและเรื่องที่เกี่ยวข้องกับไคโอมารุ ก็สามารถไปเยี่ยมชมห้องจัดนิทรรศการกันได้ ตอนเย็นหลังจากพระอาทิตย์ตกดินแล้วไปจนถึงประมาณ 2 ทุ่มมีการเปิดไฟไลท์อัพสวยๆ ด้วย ในบริเวณสวนจะมีจุดถ่ายรูปยอดนิยมของคู่รัก ที่ Love Sanctuary ใครมาเป็นคู่คงได้ถ่ายรูปเลิฟๆกับแฟน ส่วนใครมาเดี่ยวหรือมากับเพื่อนก็อย่าเพิ่งน้อยใจไป เราเดินไปเที่ยวตลาดซีฟู้ด Shin Minato Fisherman’s Wharf หาของกินอร่อยๆ ก็ได้ ตลาดชินมินาโตะนี้มีลักษณะเหมือนห้างสรรพสินค้ามากกว่าจะเป็นตลาดสด ด้านในมีร้านค้า ร้านอาหาร และร้านของฝากเยอะเลย รับรองว่าอาหารทะเลที่นี่สดมาก อย่าลืมแวะมากันให้ได้นะ

เวลาทำการ
09.30 - 17.00 น. (ฤดูร้อนเปิดถึง 18.00 และฤดูหนาวเปิดถึง 16.00 น.)
ค่าเข้าชม
ผู้ใหญ่ (เด็กมัธยมปลายขึ้นไป) 400 เยน
เด็กประถมและมัธยมต้น 200 เยน
การเดินทาง
ขึ้นรถรางสาย Manyo จากสถานี Takaoka ไปลงสถานี Kaiomaru

7 วัดซุยริวจิ (Zuiryu-ji Temple)

7 วัดซุยริวจิ (Zuiryu-ji Temple)

https://ja.wikipedia.org/wiki/%E3%83%95%E3%82%A1%E3%82%A4%E3%83%AB:Zuiryuji_Temple_2010-08-29_01.jpg

เมืองทากาโอกะอีกหนึ่งเมืองใหญ่ของโทยามะ มีที่เที่ยวดีๆอีกหลายแห่ง วัดที่เป็นสมบัติแห่งชาติก็น่าสนใจมาก วัดซุยริวจิ เป็นวัดเซนที่เป็นต้นแบบของวัดเซนในสมัยเอโดะ ลักษณะของสถาปัตยกรรมส่วนใหญ่ได้รับอิทธิพลมาจากประเทศจีน สร้างขึ้นตั้งแต่ปี ค.ศ. 1645 ด้วยหินเป็นจำนวนถึง 1,200,000 ก้อน โดยมาเอะดะ โทชิตสึเนะ (Maeda Toshitsune) ไดเมียวผู้ครองแคว้นรุ่นที่ 3

ประตูซัมมง อุโบสถ (Butsuden) ที่หลังคาทำด้วยตะกั่วหนักถึง 47 ตัน และภายในตกแต่งสวยงามสไตล์ญี่ปุ่นผสมอินเดียนั้น ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นสมบัติแห่งชาติในปี ค.ศ.1997 นอกจากนี้ประตูโซมง ศาลาปฏิบัติธรรม เรือนน้ำชา และทางเดินของวัดก็ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นทรัพย์สินทางวัฒนธรรมที่สำคัญอีกด้วย ตอนกลางคืนมีการเปิดไฟไลท์อัพสวยงามมากๆ

เวลาทำการ
09.00 - 16.30 น.
ค่าเข้าชม
500 เยน
การเดินทาง
จากสถานี Takaoka เดินต่อไปอีกประมาณ 15 นาที

8 พระใหญ่ทากาโอกะ (Takaoka-Daibutsu Great Buddha)

8 พระใหญ่ทากาโอกะ (Takaoka-Daibutsu Great Buddha)

https://www.flickr.com/photos/126057645@N04/14886940860

เมืองทากาโอกะยังไม่หมดแค่นี้ เพราะยังมีสถานที่มีมนต์ขลังที่อยากแนะนำอีกแห่ง เหมาะแก่การไปขอพรเพื่อเป็นศิริมงคล เราจะพาไปไหว้องค์พระใหญ่ทากาโอกะ (Takaoka Daibutsu) กล่าวกันว่าเป็นพระพุทธรูปที่ "หล่อ" ที่สุดในญี่ปุ่น โดยโยซาโนะ อากิโกะ (Yosano Akiko) ซึ่งเป็นนักกวีหญิงชาวญี่ปุ่น ท่านเดินทางมาที่วัดในปี ค.ศ. 1933 และได้เห็นองค์พระนี้ จึงกล่าวว่านี่คือหนุ่มหล่อที่สุดในญี่ปุ่น

อันตัวองค์พระนั้นสร้างด้วยไม้มานานกว่า 800 ปี แต่เกิดความเสียหายจากเหตุเพลิงไหม้และฟ้าผ่า จึงมีการบูรณะขึ้นใหม่ด้วยบรอนซ์ พระใหญ่ทากาโอกะประดิษฐานอยู่ที่วัดทากาโอกะไดบุทสึ (Takaoka Daibutsu Temple) มีความสูง 15.85 เมตร และหนัก 65 ตัน

เวลาทำการ
06.00 - 18.00 น.
ค่าเข้าชม
ฟรี
การเดินทาง
จากสถานี JR Takaoka เดินต่อไปประมาณ 10 นาที

9 Tateyama Kurobe Alpine Route

9 Tateyama Kurobe Alpine Route

https://pixta.jp

ขอปิดด้วยสุดยอดที่เที่ยวไฮไลท์ของจังหวัดโทยามะ เราจะตะลุยเส้นทางภูเขาแอลป์ทาเตยามะ คุโรเบะ (Tateyama Kurobe Alpine Route) เพื่อไปเที่ยวกำแพงหิมะกัน

Tateyama Kurobe Alpine Route นี้ก็คือเส้นทางเชื่อมต่อระหว่างจังหวัดโทยามะกับจังหวัดนางาโนะ (Nagano) ซึ่งพาดผ่านทางตอนเหนือของเทือกเขาแอลป์ญี่ปุ่น โดยเส้นทางกินระยะทางยาวกว่า 90 กิโลเมตร แต่ขอบอกไว้ก่อนว่าไม่ใช่ว่าเส้นทางนี้จะเปิดให้ขึ้นไปได้ตลอดทั้งปีนะ มีช่วงที่ปิดด้วยต้องเช็กดีๆ ก่อนมา

เวลาเปิดเส้นทาง
สำหรับช่วงเวลาให้บริการขึ้นแอลป์ของปี 2019 เป็นไปตามข้างล่างนี้เลย
- ช่วงเวลาเปิดเส้นทางให้บริการทุกเส้นทาง (เด็นเท็ตสึ โทยามะ (Dentetsu Toyama) – ชินาโนะ โอมาจิ (Shinano Omachi)) เปิดตั้งแต่ 15 เมษายน - 30 พฤศจิกายน 2019
- ช่วงเวลาเปิดเส้นทางให้บริการบางส่่วน (เด็นเท็ตสึ โทยามะ (Dentetsu Toyama) – มิดางาฮาระ (Midagahara)) เปิดตั้งแต่ 10 เมษายน - 14 เมษายน 2019
และเส้นทางจะปิดให้บริการตั้งแต่เดือนธันวาคมไปจนถึงต้นเดือนเมษายน

ตั๋ว
เพื่อความสะดวกในการใช้งานของเรา ขอแนะนำประเภทตั๋วชุด 2 แบบ
1. Tateyama Kurobe Option Ticket
- ผู้ใหญ่ราคา 9,800 เยน
- เด็กราคา 4,900 เยน
เป็นตั๋วเที่ยวเดียว ระหว่างสถานี JR Nagano/Shinano-Omachi Station และ Dentetsu-Toyama Station สามารถใช้เดินทางจาก Nagano ไปสถานี Dentetsu-Toyama หรือจะนั่งจากสถานี Dentetsu-Toyama ไปยัง Nagano ก็ได้ ตรวจสอบจุดขายที่นี่
2. Alpine-Takayama-Matsumoto Area Tourist Pass
ผู้ใหญ่ราคา 17,500 เยน
เด็กราคา 8,750 เยน
เป็นตั๋วชุดที่เหมาะสำหรับผู้เดินทางมาจากเมืองใหญ่เช่น เกียวโต โอซาก้า นาโงย่า โดยทางรถไฟ และตั๋วนี้ก็สามารถใช้ในเส้นทางแอลป์ทาเตยามะ-คุโรเบะได้ด้วย ใช้งานได้ 5 วันติดต่อกันโดยไม่จำกัดจำนวนครั้ง สามารถซื้อตั๋วออนไลน์ได้ที่นี่

ขั้นตอนการเดินทางไปชมกำแพงหิมะ ผ่านเส้นทางทาเทยามะ คุโรเบะ (แบบออกสตาร์ทจากฝั่งโทยามะ)

1. เริ่มออกเดินทางจากออกสถานี Dentetsu Toyama ด้วย Toyama Chiho Railroad (ใช้เวลาประมาณเกือบชั่วโมง) ไปลงสถานี Tateyama

2. ถึงแล้วต่อ Tateyama Cable Car (นั่งไปไม่ถึง 10 นาที) ขึ้นไปยังที่ราบ Bijodaira

3. จากนั้นต่อรถบัส Tateyama Highland Bus (นั่งไปประมาณ 50 นาทีได้) ขึ้นไปสถานี Murodo ระหว่างนั่งรถบัสก็มีกำแพงหิมะย่อมๆ ให้ได้ชมวิวเพลินๆ จนไปถึงสถานี Murodo ซึ่งอยู่ที่ความสูง 2,450 เมตร เป็นจุดสูงที่สุดของแจแปนแอลป์ และที่นี่เองที่เป็นที่ตั้งของกำแพงหิมะ Tateyama “Yuki-no-Otani” Snow Wall ภายในสถานีมีทางขึ้นจุดชมวิวด้านบนและทางเดินกำแพงหิมะ ซึ่งเปิดให้เข้าชมตั้งแต่ 09.30 – 15.15 น.

ถ้าใครพอใจชมแค่กำแพงหิมะตรงนี้ เสร็จแล้วสามารถนั่งย้อนกลับทางเดิม เพื่อย้อนกลับไปออกจังหวัดโทยามะได้เลย สำหรับคนที่จะกลับไปค้างในโทยามะ ไม่ทะลุไปออกจังหวัดนางาโนะ

4. ส่วนใครที่มุ่งไปต่อ ก็ขึ้นรถบัส Tateyama Tunnel Trolley Bus ลอดอุโมงค์ทะลุเขาทาเตยามะไปสถานี Daikanbo ซึ่งจะมีจุดชมวิวเทือกเขาแอลป์ได้แบบเต็มตา เราก็ถ่ายภาพกันได้รัวๆ เลย

5. จากสถานี Daikanbo เราต้องเดินทางด้วยกระเช้า Tateyama Ropeway (นั่งประมาณ 7 นาที) ไปยังสถานี Kurobedaira จะบอกว่าทิวทัศน์ระหว่างที่เรานั่งกระเช้าผ่านเนี่ยสวยเว่อร์วังอลังการมาก สำหรับสถานี Kurobedaira ก็มีจุดชมวิวเหมือนกัน และมีลานหิมะพอให้เล่นได้สนุกๆ

6. จากนั้นต้องนั่ง Kurobe Cable Car ลงไปสถานี Kurobeko เพื่อไปเดินเล่นริมเขื่อนคุโรเบะ ชมความงามของเขื่อนและทิวทัศน์โดยรอบ

7. ชมเขื่อนเสร็จเราก็นั่ง Kanden Turnal Trolley Bus ไปสถานี Ogizawa แล้วนั่งรถบัสต่อไปสถานี Shinano Omachi ซึ่งเป็นสถานีปลายทางของเส้นทางแอลป์ Tateyama Kurobe Alpine Route แล้ว
Shinano Omachi เป็นสถานี JR สามารถเลือกนั่งรถไฟต่อไปเมืองที่จะพักได้ตามอัธยาศัย

ขั้นตอนการเดินทางไปชมกำแพงหิมะ ผ่านเส้นทางทาเทยามะ คุโรเบะ (แบบออกสตาร์ทจากฝั่งนางาโนะ)

สำหรับคอร์สนางาโนะก็เป็นเส้นทางเดียวกับคอร์สโทยามะ เพียงแต่สถานี Shinano Omachi ที่เป็นสถานีปลายทางของคอร์สโทยามะก็จะกลายเป็นสถานีต้นทางของคอร์สนางาโนะเท่านั้นเอง ลำดับการต่อรถก็จะกลับกันกับคอร์สที่เริ่มจากโทยามะ

1. เริ่มจากสถานีที่มีชินกันเซ็นที่ใกล้ที่สุดคือ Nagano ออกทางออก East Exit แล้วเลี้ยวซ้ายไปขึ้นรถบัสที่ชานชลารถบัสเบอร์ 25 เพื่อจะไปยังสถานี Shinano Omachi

2. จากนั้นต่อรถบัสไปสถานี Ogizawa ตรงนี้ก็จะเป็นเขื่อนคุโรเบะ เราสามารถเดินชมวิวเขื่อน ถ่ายรูปได้ตามอัธยาศัย

3. เสร็จแล้วเราก็นั่ง Kurobe Cable Car ซึ่งเป็นเคเบิลคาร์ใต้ดินแห่งเดียวในญี่ปุ่น เพื่อไปสถานี Kurobedaira ตรงนี้ก็มีลานหิมะให้เดินเล่น ถ่ายรูป ชมวิวแอลป์ได้สวยอีกจุด

4. เมื่อเดินชมวิวเล่นจนอิ่มแล้วก็นั่งกระเช้าลอยฟ้าไปสถานี Daikanbo ชมวิวที่นี่ซักหน่อยก็ได้

5. ต่อรถบัสไฟฟ้า Tateyama Tunnell Trolley Bus ไปลงสถานี Murodo ซึ่งเป็นที่ตั้งของกำแพงหิมะนั่นเอง เราก็เที่ยวชมกำแพงหิมะที่เป็นไฮไลท์ของเส้นทางแอลป์ให้เต็มที่ (อันที่จริงตรง Murodo มีที่พักให้บริการด้วย แต่ต้องจองล่วงหน้านาน แล้วราคาค่อนข้างแพง) คนที่ไหวก็จองพักกันเพื่อจะได้เก็บเกี่ยวบรรยากาศให้สุดๆ

7. หลังเสร็จกิจกรรมแล้วเราก็เดินมาต่อคิวขึ้นรถบัสไปยังสถานี Bijodaira ระหว่างทางนั่งรถบัสก็ชมวิวกันไป

8. ถึงแล้วก็ต่อ Tateyama Cable Car ไปสถานี Tateyama ซึ่งเป็นสถานีรถไฟ จากนั้นก็นั่งรถไฟเข้าเมืองไปสถานี Dentetsu Toyama เป็นอันจบพิธี จากตรงนี้จะไปโรงแรม เดินเล่นในเมือง หรือนั่งชินกังเซ็นไปเมืองอื่นก็ได้

know-before-you-go