All About Japan

รวมสถานีน่าเที่ยวของ Tokyo Metro Ginza Line

รถไฟใต้ดิน Tokyo Kanto

ลุยสถานีสำคัญและที่เที่ยวต่างๆที่ไปด้วยรถไฟสาย Tokyo Metro Ginza Line

สำหรับใครที่เปิดดูสายรถไฟในโตเกียวเพื่อวางแผนเที่ยวแล้วยังมึนงงกับเส้นทางรถไฟหลากหลายสายที่พันกันยุ่งเหยิง วันนี้เราจะมาแนะนำสถานีดังประจำสายและที่เที่ยวรอบๆ 5 สถานีของรถไฟใต้ดินสาย Tokyo Metro Ginza Line (สายสีส้ม) ที่สามารถเดินทางไปยังย่านดังๆ ในโตเกียวได้อย่างสะดวกสะบาย ไม่ว่าจะเป็นย่านกินซ่า อากิฮาบาระ ชิบูย่า หรืออาซากุสะ

1. สถานี Ginza

1. สถานี Ginza

https://www.flickr.com/photos/zengame/21029524914/

หนึ่งในย่านหลักของโตเกียวซึ่งเป็นที่รู้จักในฐานะย่านที่มีความหรูหรามากที่สุด มีทั้งห้างสรรพสินค้าชั้นนำจำนวนมาก ร้านแบรนด์เนมระดับโลกที่เรียงรายอยู่สองฝั่งถนน คาเฟ่และร้านอาหารที่เสิร์ฟเครื่องดื่มและเมนูชั้นดี ไปจนถึงรูปแบบของอาคารส่วนใหญ่ภายในย่านนี้ซึ่งถูกสร้างขึ้นในสไตล์ตะวันตก จนทำให้มีกลิ่นอายและบรรยากาศแบบยุโรป เช่นห้างสรรพสินค้าวาโกะ (Wako) ที่มีหอนาฬิกาขนาดใหญ่อยู่ด้านบน ซึ่งถือเป็นอาคารแลนด์มาร์คของย่านนี้

กิจกรรมหลักของการมาเยือนย่านกินซ่าจึงเป็นการช้อปปิ้งและการแวะชิมของอร่อยๆ ในคาเฟ่และร้านอาหารชื่อดังต่างๆ แต่ถึงใครจะไม่ใช่สายช้อปปิ้งของแบรนด์เนม ย่านกินซ่าก็ยังมีความน่าสนใจให้ลองแวะมาเยือนดูสักครั้ง นั่นคือการปิดถนนสายหลักของย่านในวันเสาร์อาทิตย์ เพื่อทำเป็นถนนคนเดินตั้งแต่เวลา 12.00 – 17.00 น. (หรือจนถึง 18.00 น. ในช่วงเดือนเมษายนถึงกันยายน) ซึ่งสามารถแวะมาเดินชมบรรยากาศ หรือเดินถ่ายรูปได้ในแบบสบายๆ

2. สถานี Omotesando

2. สถานี Omotesando

https://www.flickr.com/photos/kidperez/3238262977/

ย่านโอโมเตะซันโดนั้นอาจไม่ใช่ย่านหลักอย่างชินจูกุ ชิบูย่า หรืออากิฮาบาระ และเป็นย่านที่นักท่องเที่ยวชาวไทยเพิ่งเริ่มคุ้นหูกันไม่นานนัก แต่สำหรับชาวญี่ปุ่นแล้วย่านนี้ถือเป็นหนึ่งในย่านที่ได้รับความนิยมมากๆ ซึ่งบรรยากาศของย่านนี้จะมีความน่าสนใจจากการผสมผสานระหว่างความทันสมัยของตึกอาคาร ร้านรวงต่างๆ เข้ากับบรรยากาศสีเขียวขจีจากต้นไม้ขนาดใหญ่ที่เรียงรายอยู่สองฝั่งถนน

เรียกได้ว่าย่านโอโมเตซันโดแห่งนี้คือย่านช้อปปิ้งที่มีความหลากหลาย ในย่านนี้เต็มไปด้วยทั้งร้านแบรนด์เนมระดับโลก และร้านที่ไม่ใช่ร้านกระแสหลักแต่เต็มเปี่ยมไปด้วยคุณภาพไม่แพ้แบรนด์ดัง ทั้งร้านแฟชั่นไปจนถึงคาเฟ่และร้านอาหารมากมาย จึงเหมาะสำหรับใครที่อยากมาลองค้นหาอะไรใหม่ๆ หรืออยากลองเที่ยวในแบบที่คนญี่ปุ่นเที่ยวกัน

ภายในย่านนี้ยังมีจุดถ่ายรูปที่น่าสนใจคือบริเวณทางเข้าห้างสรรพสินค้า Tokyu Plaza Omotesando-Harajuku ที่มีอุโมงค์กำแพงกระจกสุดล้ำ และถ้าหากเดินเพลินๆ ไปตามแนวถนน ย่านนี้ก็เชื่อมต่อกับย่านฮาราจูกุและศาลเจ้าเมจิอีกด้วย

3. สถานี Asakusa

3. สถานี Asakusa

https://www.flickr.com/photos/wakanmuri/4447148201/

สำหรับนักท่องเที่ยวชาวไทย เมื่อพูดถึงย่านอาซากุสะ เชื่อว่าทุกคนคงนึกถึงสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังอย่างวัดอาซากุสะเป็นอันดับแรก จนอาจกลายเป็นภาพจำว่าย่านแห่งนี้เป็นย่านแห่งวัฒนธรรมเป็นหลัก แต่ในความเป็นจริงแล้วย่านอาซากุสะถือเป็นย่านที่มีความหลากหลายค่อนข้างมาก มีทั้งบ้านเรือนเก่าแก่ผสมผสานกับร้านรวงสมัยใหม่ มีวัดเก่าแก่แต่ก็มีอาคารสุดทันสมัยอย่างอาซาฮีเบียร์ทาวเวอร์และโตเกียวสกายทรี และยังมีมุมพักผ่อนสบายๆ ริมแม่น้ำอย่างสวนสาธารณะสุมิดะ หากให้สรุปสั้นๆ ก็คือเป็นย่านที่รวมความเป็นญี่ปุ่นเอาไว้อย่างค่อนข้างครบครัน และมีแลนด์มาร์คชื่อดังของโตเกียวอยู่ถึงสองแห่ง สำหรับใครที่มีเวลาเที่ยวโตเกียวสั้นๆ ย่านนี้จึงถือเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่เหมาะสมที่สุด

กิจกรรมในย่านอาซากุสะนั้นก็มีให้เลือกหลากหลายรูปแบบ ทั้งการช้อปและชิมที่ร้านต่างๆ รอบตัววัดอาซากุสะ รวมถึงตลอดสองฝั่งถนนนากามิเสะ ซึ่งเป็นถนนช้อปปิ้งภายในตัววัด นอกจากนี้ยังสามารถเช่าชุดกิโมโนเพื่อเดินเล่นและถ่ายรูปได้ทั่วทั้งย่าน ขึ้นรถลากชมเมือง ล่องเรือในแม่น้ำสุมิดะ หรือแวะไปเยือนสวนสนุกที่เก่าแก่ที่สุดในประเทศญี่ปุ่นอย่างสวนสนุกฮานายาชิกิซึ่งเปิดทำการมากว่า 150 ปี

4. สถานี Suehirocho

4. สถานี Suehirocho

https://www.flickr.com/photos/29951202@N05/32901328004/

หากดูจากชื่อสถานีแล้ว หลายคนอาจเกิดความสงสัยและไม่คุ้นเคยกับชื่อนี้ แต่ถ้าเฉลยว่านี่เป็นสถานีที่เชื่อมต่อกับย่านอากิฮาบาระ ทุกคนคงร้องอ๋อกันทันที เพราะที่นี่เป็นหนึ่งในย่านสำคัญของโตเกียวที่คออนิเมะและมังงะต่างใฝ่ฝันจะมาเยือนสักครั้ง โดยนอกจากร้านการ์ตูน ร้านของเล่น และคาเฟ่น่ารักๆ แล้ว ย่านอากิฮาบาระยังเป็นย่านที่มีชื่อเสียงในด้านเครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ ตั้งแต่คอมพิวเตอร์ เครื่องเล่นเกม กล้องถ่ายรูป โทรศัพท์มือถือ และเครื่องใช้มากมายภายในบ้าน ซึ่งมีให้เลือกซื้อทั้งในห้างสรรพสินค้าเฉพาะทางอย่าง Yodobashi ไปจนถึงร้านมากมายภายในย่าน

กิจกรรมยอดฮิตที่ย่านอากิฮาบาระนั้นก็หนีไม่พ้นการช้อปปิ้งสินค้าต่างๆ ทั้งสินค้าเกี่ยวกับอนิเมะและมังงะหลากหลายรูปแบบ ที่ถึงแม้บางคนอาจจะไม่ได้เตรียมจะเสียเงินมาก่อน ก็อาจเผลอไผลให้กับความน่ารักไปโดยไม่ได้ตั้งตัว หรือเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆก็สามารถลองจับและลองใช้ได้อย่างเต็มที่ หรือจะลองหยอดตู้คีบตุ๊กตา ตู้กาชาปอง และตู้เกมมากมายหลายรูปแบบ ไปจนถึงการแวะคาเฟ่ธีมอนิเมะเรื่องต่างๆ โดยเฉพาะกันดั้มคาเฟ่ที่เหล่าสาวกกันดั้มไม่ควรพลาด เมดคาเฟ่ หรือคาเฟ่สัตว์เลี้ยงทั้งหมาและแมวแสนน่ารักก็มี

5. สถานี Shibuya

5. สถานี Shibuya

https://www.flickr.com/photos/40006794@N02/7723572802/

ปิดท้ายด้วยอีกหนึ่งย่านยอดฮิตทั้งสำหรับชาวญี่ปุ่นและนักท่องเที่ยวชาวไทยนั่นก็คือย่านชิบูย่า ที่มีชื่อเสียงทั้งในฐานะย่านช้อปปิ้งที่เป็นศูนย์รวมของห้างสรรพสินค้าชั้นนำ ย่านรวมร้านแบรนด์เนมจากทั่วโลก และย่านกินดื่มที่มีความคึกคักทั้งในตอนกลางวันและยามค่ำคืน บวกกับการที่ย่านชิบูย่าเป็นหนึ่งในจุดศูนย์กลางสำคัญในการเดินทางของโตเกียว จึงทำให้เป็นย่านที่มีคนพลุกพล่านอยู่ตลอดเวลา และก่อให้เกิดจุดที่เป็นที่รู้จักไปทั่วโลกอย่างห้าแยกชิบูย่า ซึ่งมีผู้คนนับพันคนเดินข้ามแยกแห่งนี้พร้อมๆ กันในทุกช่วงเวลาของวัน

นอกจากห้าแยกชิบูย่าแล้ว ก็ยังมีแลนด์มาร์คอีกหนึ่งแห่งที่โด่งดังไม่แพ้กันนั่นคือ รูปปั้นสุนัขฮาจิโกะ สุนัขที่เป็นตำนานแห่งความซื่อสัตย์จากการเฝ้ารอเจ้าของมันจนวันตายที่สถานีแห่งนี้ และยังถือเป็นจุดนัดพบสำคัญของย่านแห่งนี้อีกด้วย ส่วนแลนด์มาร์คของการช้อปปิ้งของย่านนี้ก็คือห้างสรรพสินค้า Shibuya 109 ซึ่งเปรียบเสมือนศูนย์รวมสินค้าแฟชั่นหลากหลายรูปแบบและมีให้เลือกทุกระดับราคา และถนนเซ็นเตอร์ไก (Center Gai) ที่เป็นถนนช้อปปิ้งสายหลักซึ่งมีทั้งร้านเสื้อผ้า ร้านอาหาร คาเฟ่ ไปจนถึงผับบาร์ที่มีความคึกคักตลอดทั้งวัน

ผู้เขียน: ชินพงศ์ มุ่งศิริ
เริ่มต้นทำงานเป็นช่างภาพอิสระหลังเรียนจบ เดินทางไปถ่ายภาพที่ประเทศญี่ปุ่นบ่อยครั้งจนครบทั้ง 4 ฤดูอันสวยงาม และเกือบครบทุกภูมิภาค มีผลงานภาพถ่ายตีพิมพ์ในไกด์บุ๊คระดับโลกอย่าง Lonely Planet ถึง 3 เล่ม คือ Discovery Japan, Japan และ Kyoto รวมถึงเว็บไซต์ท่องเที่ยวชั้นนำอย่าง National Geographic Traveler UK, BBC Travel, Travel+Leisure, TIME และอีกมาก
นอกจากการถ่ายทอดความสวยงามของประเทศญี่ปุ่นผ่านภาพถ่าย ปัจจุบันยังหันมาถ่ายทอดเรื่องราวผ่านทางตัวอักษรทั้งในฐานะนักเขียนและนักแปลควบคู่กันไปอีกด้วย

know-before-you-go