10 ย่านเมืองเก่าและหมู่บ้านโบราณ
หนึ่ง
เสน่ห์ของบ้านเมืองเก่าในญี่ปุ่นคือบรรยากาศที่ให้ความรู้สึกเหมือนได้ย้อนยุคกลับไปในสมัยโบราณที่อนุรักษ์เอาไว้เป็นอย่างดี ทั้งอาคารสถาปัตยกรรม บรรยากาศ และผู้คนที่อยู่มาแต่โบราณ เช่นย่านหมู่บ้านโบราณ 10 แห่งทั่วประเทศเหล่านี้
1. ย่านเมืองเก่าโมโตมาชิ ฮาโกดาเตะ จังหวัดฮอกไกโด (Motomachi Hakodate, Hokkaido)
ย่านโมโตมาชิในฮาโกดาเตะ เป็นย่านที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานเพราะที่นี่คือหนึ่งในเมืองท่าแห่งแรกๆของญี่ปุ่นที่ทำการค้ากับต่างประเทศ ทำให้มีสถาปัตยกรรมและสิ่งปลูกสร้างในสไตล์ตะวันตกเก่าๆมากมายหลงเหลืออยู่หลายแห่งมาจนถึงทุกวันนี้ เช่น ศาลาประชาคมฮาโกดาเตะ (Old Hakodate Public Hall), สถานกงสุลอังกฤษเก่า (Old British Consulate) อีกทั้งยังมีถนนที่เดินไปสู่ท่าเรือซึ่งมีทิวทัศน์สวยงามเหมาะกับการเดินเล่นสบายๆ
เวลาทำการ : ตลอดทั้งวัน
ค่าเข้าชม : เดินชมรอบๆเมืองฟรี (มีบางแห่งเก็บค่าเข้าชมภายในสถานที่ เช่น ศาลาประชาคมฮาโกดาเตะ ค่าเข้า 300 เยน)
การเดินทาง : จากสถานี JR Hakodate ขึ้นรถรางไปลงที่ป้าย Jujigai ใช้เวลา 5 นาที หรือเดินเท้าไปประมาณ 20 นาที
2. ย่านเมืองเก่าซาวาระ จังหวัดชิบะ (Sawara, Chiba)
https://en.wikipedia.org/wiki/File:A_view_of_Sawara-Honmachi.JPG
ซาวาระ (Sawara) เป็นเมืองเก่าที่สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยเอโดะตั้งอยู่ริมคลองที่ในอดีตเคยเป็นเส้นทางขนส่งและลำเลียงข้าว สองฝั่งคลองเต็มไปด้วยอาคารบ้านเรือนแบบโบราณที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้ อีกทั้งยังมีศาลเจ้าเก่าแก่อายุนับพันปีที่มีชื่อเสียงมากที่สุดแห่งหนึ่งของญี่ปุ่นนั่นคือศาลเจ้าคาโทริ นอกจากนี้ในบริเวณเดียวกันยังมีพิพิธภัณฑ์กับสวนพฤกษศาสตร์สำหรับผู้ที่สนใจด้วย
เวลาทำการ : ตลอดทั้งวัน
ค่าเข้าชม : ฟรี
การเดินทาง : ขึ้นรถไฟสาย JR Narita Line ไปลงที่สถานี Sawara แล้วเดินต่อไปประมาณ 10 นาที
3. คาวาโกเอะ, จังหวัดไซตามะ (Kawagoe, Saitama)
คาวาโกเอะหรือลิตเติ้ลเอโดะ เป็นเมืองเก่าที่เคยเจริญรุ่งเรืองด้านการค้ามาก่อนจึงส่งผลมาถึงยุคปัจจุบันที่ทำให้ได้เห็นบรรยากาศของถนน ตรอกซอกซอย และสิ่งปลูกสร้างในสภาพสมบูรณ์ นอกจากสถาปัตยกรรมอาคารบ้านเรือนเก่าแก่ที่มีการอนุรักษ์ไว้เป็นอย่างดี ตรอกขนมหวานแบบโบราณ (Dagashi) ของเมืองนี้ก็เป็นอีกหนึ่งความน่าสนใจที่ได้รับความนิยมมากในกลุ่มนักท่องเที่ยว
เวลาทำการ : ตลอดทั้งวัน
ค่าเข้าชม : ฟรี
การเดินทาง : จากสถานี Ikebukuro ขึ้นรถไฟ Tobu Tojo ไปลงที่สถานี Kawagoe-shi ใช้เวลา 30 นาที
หรือจากสถานี Shinjuku ขึ้นรถไฟสาย JR Saikyo ไปลงสถานี Kawagoe ใช้เวลาประมาณ 55 นาที
4. หมู่บ้านซูกานุมะ จังหวัดโทยามา (Suganuma village, Toyama)
https://en.wikipedia.org/wiki/Historic_Villages_of_Shirakawa-g%C5%8D_and_Gokayama
หนึ่งในกลุ่มหมู่บ้านโบราณในโกคายามา (Gokayama) แบ่งออกเป็น 2 พื้นที่คือ หมู่บ้านซูกานุมะและโกคายามากัสโชโนะซาโตะ โดยมีทางเดินเชื่อมถึงกันเป็นอุโมงค์อยู่ติดกับลานจอดรถที่จุดชมวิวบนเนินเขา ในหมู่บ้านซูกานุมะประกอบด้วยบ้านไร่หลังคาสไตล์ "กัสโชสึคุริ" 9 หลัง (บ้านหลังคาทรงพนมมืิอแบบเดียวกับชิราคาว่าโก) ที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้เป็นอย่างดีและมีบางหลังถูกดัดแปลงให้เป็นที่พักสไตล์ญี่ปุ่น (Minshuku) แล้วก็มีพิพิธภัณฑ์จัดแสดงเกี่ยวกับวิถีชีวิต ความเป็นอยู่ของชาวบ้านด้วย
เวลาทำการ : ตลอดทั้งวัน
ค่าเข้าชม : ฟรี
การเดินทาง : ขึ้นรถไฟสาย JR Hokuriku Shinkansen ไปลงสถานี จากสถานี Shin-Takaoka จากนั้นต่อรถบัสประจำทางสาย Ogimachi ไปลงที่ป้าย Suganuma ใช้เวลาประมาณ 30 นาที
5. ย่านเมืองเก่ากุโจฮาจิมัง จังหวัดกิฟุ, (Gujo Hachiman, Gifu)
https://en.wikipedia.org/wiki/File:Gujo-shi_Gujo-hachiman_kitamachi,_Gifu,_castle_town.JPG
กุโจฮาจิมังถูกเรียกว่าเป็นเมืองเก่ารอบปราสาท ลักษณะเป็นอาคารบ้านเรือนที่ยังหลงเหลือบรรยากาศแบบย้อนยุคตั้งอยู่เรียงราย เสน่ห์อีกอย่างของกุโจฮาจิมังก็คือมีรางน้ำจำนวนมาก ทำให้ได้ยินเสียงน้ำไหลสะท้อนไปทั่วทั้งเมืองอยู่ตลอดเวลา เรียกได้ว่าเป็นอีกย่านเมืองเก่าที่เต็มไปด้วยกลิ่นอายของวัฒนธรรมญี่ปุ่นดั้งเดิมที่ควรค่าแก่การไปเยือนสักครั้ง
เวลาทำการ : ตลอดทั้งวัน
ค่าเข้าชม : ฟรี
การเดินทาง : จากสถานี JR Nagoya ขึ้นรถไฟสาย Ltd Exp. Wide View Hida ไปลงสถานี Mino-Ota ใช้เวลา 40 นาที จากนั้นต่อรถไฟสาย Nagaragawa Etsumi-Nan Line ไปลงที่สถานี Gujo-hachiman ใช้เวลา 1 ชั่วโมง 30 นาที แล้วต่อเดินอีกประมาณ 15 นาที
