All About Japan

5 สัญญาณว่าสาวๆมีใจให้ชายหนุ่ม ฉบับญี่ปุ่น

ทีวี ชีวิตในญี่ปุ่น
5 สัญญาณว่าสาวๆมีใจให้ชายหนุ่ม ฉบับญี่ปุ่น

ผู้หญิงได้ชื่อว่าเป็นเพศที่ซับซ้อน เดาใจยาก ปากไม่ตรงกับใจ บวกกับเป็นผู้หญิงญี่ปุ่นอีก ความลึกลับซับซ้อนก็เพิ่มเป็นทวีคูณ หนุ่มไทยคนไหนกำลังงงกับท่าทีของสาวญี่ปุ่นละก็ ลองมาเช็คกันดูว่าพฤติกรรมที่สาวๆทำไปนั้นเป็นเพราะพวกเธอแค่เฟรนลี่หรือแอบมีใจให้จริงๆกันแน่ เอาละตามป้าเมโกะไปเช็คกันเลย!

ตั้งแต่เด็ก สาวๆมักถูกสอนว่าเวลาแอบชอบใครจะกระดี๊กระด๊าออกหน้าออกตาไม่ได้ ดังนั้นหนุ่มๆที่กำลังศึกษาดูใจอาจไม่เข้าใจกับท่าทีของสาวๆ ว่าตกลงนี่ชอบหรือรำคาญฝ่ายชายกันแน่ วันก่อนป้าได้ดูรายการทีวีพอดี ซึ่งรายการพูดถึงอันดับพฤติกรรมเด่นของสาวๆที่มักจะเผลอทำกับหนุ่มที่ชอบ ทั้ง 5 อันดับจะมีอะไรบ้าง รีบไปดูกันเลย

อันดับ 5 ไม่กล้านั่งตรงข้าม

อันดับ 5 ไม่กล้านั่งตรงข้าม

คนญี่ปุ่นมีธรรมเนียมการไปนัดบอดเพื่อหาคู่แบบ Blind Date ที่เรียกว่าโกคง (合コン) เมื่อเข้างานสาวอาจสะดุดตาหนุ่มคนนึงไว้ เมื่อถึงเวลาที่ให้สาวๆเลือกเข้าไปนั่งคุยกับคนที่สนใจ (สาวๆสามารถเลือกนั่งได้ตามอัธยาศัยในตอนแรกแล้วจะสลับเก้าอี้ไปเรื่อยๆเพื่อให้สามารถทำความรู้จักได้ครบทุกคน) สาวกลับขี้ขลาด ไม่กล้าเข้าไปนั่งตรงหน้าหนุ่มที่เล็งไว้ทันที หนุ่มคนนั้นซึ่งอาจจะเล็งสาวคนนั้นไว้เหมือนกันอาจจะเข้าใจผิดว่าสาวคนนั้นไม่ได้สนใจในตัวเองจนท้อแท้ หมดความหวังไปเลยก็ได้~

เหตุผลก็มาตามหลักจิตวิทยา เมื่อมนุษย์เราชอบอะไรสักอย่างขึ้นมา ความกลัวที่จะผิดหวังก็ตามมาเช่นกัน ดังนั้นเมื่อเจอหนุ่มที่ใช่ สาวเจ้าจึงขอเลือกแอบมองไกลๆ ขอดูเชิงก่อนแล้วกัน (ป้าก็เป็น เห็นหนุ่มหล่อๆแล้วกลัว ขอเล็งๆไว้ก่อน กลัวเสียท่า 55)

สาวๆหลายคนอ่านมาถึงตรงนี้ก็อยากจะรู้ว่า สรุปแล้วตัวเราเองเป็นผู้หญิงแบบไหน ที่ญี่ปุ่นเขาแบ่งลักษณะคนเป็น 2 ประเภท คือ
1. 好き避け (Sukisake) คือ พวกที่ชอบแล้วจะตีตัวออกห่าง
2. 嫌い避け (Kiraisake) คือพวกที่ไม่ชอบใครแล้วจะตีตัวออกห่าง

วิธีสังเกตก็ง่ายๆ เช่น เวลาคุยไลน์กัน แล้วเราเผลอหลับไป จึงทำให้ตอบช้า หรือเราเผลอพูดอะไรแปลกๆไป หากเราเป็นประเภทชอบแล้วตีตัวออกห่าง จะพิมพ์ตอบกลับไปในแนว ‘ขอโทษที่ไม่ได้ตอบกลับไปนะคะ’ หรือ ‘ขอโทษที่พูดแบบนั้นไปนะคะ’ กังวลว่าเขาจะคิดยังไง เป็นห่วงกับภาพลักษณ์ตัวเองต่อคนที่ชอบ ส่วนคนที่เป็นประเภทไม่ชอบใครแล้วจะปลีกตัวออกห่างก็จะพิมพ์ตอบในเรื่องที่คุยค้างตามปกติ ไม่ได้สนใจอะไร อารมณ์โนสนโนแคร์ ก็มันไม่ใช่เป้าหมายของฉันไง~

อันดับ 4 ไม่ว่าหนุ่มที่ถูกใจจะพูดเรื่องอะไรเธอก็ยิ้มรับเสมอ

อันดับ 4 ไม่ว่าหนุ่มที่ถูกใจจะพูดเรื่องอะไรเธอก็ยิ้มรับเสมอ

สาวๆที่กำลังอินเลิฟก็มักจะยิ้ม ยิ้ม ยิ้ม ตาเยิ้ม ทำตาหวานและทำตัวน่ารักกับคนที่แอบชอบเสมอ ดังนั้นแม้จะเขินอายเพียงใด สาวก็จะหุบยิ้ม เก็บความน่ารักนี้ไว้ข้างในไว้ไม่ไหว

แหม สอดคล้องกับงานวิจัยที่ป้าเจอมามากๆ ผลวิจัยเกี่ยวกับพฤติกรรมของผู้หญิงที่จะทำกับคนที่ชอบเท่านั้น ผลสำรวจจากชายหญิงทั้งโสดและแต่งงานแล้ว 500 คน พบว่า 20.4% ของผู้หญิงจะเผลอยิ้มหวานแบบที่ไม่เคยยิ้มที่ไหนกับใครก่อนนอกเสียจากผู้ชายคนที่แอบปลื้มเท่านั้น เพราะให้เหตุผลว่า เพียงแค่ได้อยู่กับคนที่ชอบก็มีความสุขสุดๆแล้ว (อ่านแล้ว ป้าขออนุญาตทำปากสระอิ) ใครกำลังสงสัยเพื่อนหรือคนใกล้ตัวกำลังอินเลิฟหรือเปล่าก็ลองดูสิว่าพวกเธอยิ้มหวาน (แบบแปลกๆ?) ให้กับใครบ้างหรือเปล่าน้า ~

อันดับ 3 ไม่ว่าจะพูดเรื่องอะไร จะมักแสดงความคิดเห็นต่อท้าย

เมื่อสาวสนใจใครละก็ ไม่ว่าหนุ่มพูดเรื่องอะไรก็จะอยากมีส่วนร่วม หรือรู้สึกอินไปกับเรื่องที่พูดคุยกัน โดยเฉพาะเมื่อเป็นบทสนทนาเกี่ยวกับเรื่องทั่วไป เป็นข่าวบ้านเมือง หากสังเกตดีๆ ถ้าเราคุยเรื่องข่าวที่เกิดขึ้นนี้กับเพื่อน เราก็จะออกความเห็นโดยทั่วไป เช่น แย่เนอะ, ไม่น่าเชื่อเลย ฯลฯ มีความเห็นแบบทั่วไปมากๆในเชิงรับรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่..แล้วไงต่อละ...?

แต่ถ้าหากคนที่ชอบอยู่ด้วยละก็ เราก็มักแสดงตวามคิดเห็นต่อท้ายเสริมเข้าไปอีก เช่นพูดคำว่า ‘สำหรับฉันนะ..’ โดยใส่ความเห็นของตัวเองหรือพูดเรื่องของตัวเองมากเป็นพิเศษ และกรณีที่แม้จะอยู่กันหลายคน ฝ่ายหญิงก็มักเผลอมองหรือส่งสายตาไปที่คนที่ชอบก่อน แล้วจึงเริ่มพูดเรื่องตัวเองหรือความคิดเห็นตัวเองต่อท้าย... หนุ่มๆ ลองสังเกตโมเม้นต์ส่งสายตานี้ดีๆ บอกอะไรได้เยอะ!

ป้ายังเคยอ่านเจอมาว่าผู้ชายจะปลื้มเอามากๆเมื่อเวลาฝ่ายหญิงอินไปกับเรื่องที่เขาคุย ไม่ว่าเรื่องนั้น ฝ่ายหญิงจะเข้าใจบ้าง ไม่เข้าใจบ้าง แต่ถ้าผู้หญิงรับฟังและมีช่วยร่วมออกความเห็นไปด้วยกัน ฝ่ายชายก็ยิ่งประทับใจ ทำคะแนนไปเต็มๆ (เอ้า สาวๆทราบเปลี่ยน รีบตั้งใจฟังหนุ่มๆเขาโม้ เอ้ย เขาคุยให้ฟังหน่อยแล้วกัน จากที่ก้มหน้าเล่นมือถือก็ลองพยักหน้าตามๆไป ดูดีมีเสน่ห์ขึ้นไปอีกเพียบ 55)

อันดับ 2 รีบพูดคำว่า ‘ขอโทษนะ’ ทันทีที่รู้สึกตัวว่าเผลอพูดอะไรไป

อันดับ 2 รีบพูดคำว่า ‘ขอโทษนะ’ ทันทีที่รู้สึกตัวว่าเผลอพูดอะไรไป

เมื่อฝ่ายหญิงเผลอพูดอะไรคนเดียวมากเกินไป มักจะรีบพูดขอโทษขึ้นมาทันที เช่น 'ขอโทษนะคะที่พูดอยู่คนเดียว' หรือ 'ขอโทษนะคะที่เผลอพูดเยอะไป' เป็นต้น

ในทางจิตวิทยา เขาเรียกกระบวนการนี้ว่าเป็น 'Metacognition' คือกระบวนการประเมินความคิดของตนเอง เช่นในกรณีที่นั่งคุยอยู่กับคนที่ชอบ กระบวนการนี้จะทำให้คนประเมินความคิดของตัวเองในสายตาของอีกฝ่าย เช่น เราจะคิดทันทีว่าที่เราพูดไปเมื่อกี้เขาจะรู้สึกยังไงนะ? ดูพูดมากไป ดูเยอะไปหรือเปล่า? กังวลต่างๆนานา ป้าว่าถ้าให้พูดเข้าใจง่ายคือเราจะประเมินหรือเช็คตัวเองตลอดเวลา เพราะว่ากลัวจะดูไม่ดีในสายตาของคนที่แอบปลื้มนั่นเอง~

อันดับ 1 รุกด้วยสารพัดคำถาม

อันดับ 1 รุกด้วยสารพัดคำถาม

เขาว่ากันว่าถ้าหากผู้ชายชอบใครสักคน เขาจะอยากให้ผู้หญิงเป็นฝ่ายรับรู้เรื่องของเขา แต่ในทางกลับกันเมื่อผู้หญิงสนใจใครสักคนละก็จะอยากเป็นฝ่ายรู้จักเรื่องของฝ่ายชายต่างหาก หรือจะว่าง่ายๆผู้ชายก็อยากจะโม้เรื่องของตัวเองในขณะที่ผู้หญิงจะขอเก็บข้อมูลให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ไว้ก่อน

ผู้หญิงเป็นเพศที่ชอบเก็บข้อมูล (ในรายการยังบอกเลยนะไม่ว่าจะเป็นคนประเทศไหนก็เป็นเหมือนกันหมด อันนี้ป้าเห็นด้วย 55) ดังนั้นหากหนุ่มนัดเดทกับสาวแล้วสาวคนนั้นกระตือรือร้น ฟังเรื่องที่เล่า แล้วเธอคนนั้นถามคำถามอยู่ตลอด ไม่ได้ถามคำตอบคำแบบผ่านๆไป ก็ถือเป็นสัญญาณที่ดีเลยละ ป้ากล้าฟันธงว่าหนุ่มๆรุกจีบสเต็ปต่อไปได้เลย อิอิ

เป็นยังไงกันบ้าง

เป็นยังไงกันบ้างกับ 5 อันดับพฤติกรรมที่สาวๆมักเผลอทำกัน หนุ่มๆอ่านแล้วคิดเห็นอย่างไร ตรงกับที่คนใกล้ตัวเผลอทำกันบ้างไหม ใครยังไม่เคยสังเกตก็ลองสังเกตกันดู เผื่อจะลดความฟุ้งซ่าน เอ้ย ความสงสัยในความคิด ความรู้สึกของพวกเธอดู ส่วนใครลองแล้วก็อย่าลืมมาบอกป้าด้วยนะ ป้าจะได้เก็บเป็นข้อมูล ทำหน้าที่ศิราณีที่ดีต่อไป ~

รัก

ป้าเมโกะ

know-before-you-go