All About Japan

7 สถานที่สุดมหัศจรรย์ที่ควรไปเยือนในอาโอโมริ

ปราสาท พิพิธภัณฑ์ สถานที่ทางประวัติศาสตร์ ออนเซ็น เทศกาล สวนสาธารณะ ภูเขา ซากุระ วัด และ ศาลเจ้า Spring in Tohoku ตะลุยฤดูร้อนญี่ปุ่นที่ "โทโฮคุ" เที่ยวญี่ปุ่นเดือนห้า Aomori โทโฮคุ

จังหวัดอาโอโมริตั้งอยู่ในบริเวณเหนือสุดของเกาะฮอนชู เป็นจังหวัดที่รับประกันความหนาวขั้นสุดจังหวัดหนึ่งของญี่ปุ่นเลย แต่ความงามของตัวเมืองนั้น ใครลองได้ไปเยือนต้องลืมความหนาวเย็นไปเป็นปลิดทิ้งเลย

7. ลำธารโออิราเซะ (奥入瀬渓流) เมืองโทวาดะ

7. ลำธารโออิราเซะ (奥入瀬渓流) เมืองโทวาดะ

ลำธารโออิราเซะเป็นลำธารที่ไหลมาจากภูเขาที่งดงามแห่งจังหวัดอาโอโมริ และเป็นจุดชมใบไม้ร่วงที่มีชื่อเสียงที่สุดในประเทศญี่ปุ่น ลำธารแห่งนี้ไหลไปตามหุบเขาโออิราเซะ ระหว่างทางมีน้ำตกซึ่งไหลออกมาจากผนังของหุบเขากว่า 12 แห่ง และเต็มไปด้วยพืชแปลกๆ มากมาย เราสามารถเดินป่าไปที่นี่ได้ด้วยเช่นกัน

6. ปราสาทฮิโรซากิ (弘前城) เมืองฮิโรซากิ

6. ปราสาทฮิโรซากิ (弘前城) เมืองฮิโรซากิ

ปราสาทฮิโรซากิแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นในปี 1611 ตั้งอยู่ในบริเวณสวนสาธารณะฮิโรซากิ ปราสาทแห่งนี้มีสวนไว้สำหรับมาปิกนิกได้ โดยเฉพาะในฤดูใบไม้ผลิ ดอกซากุระกว่า 2,500 ต้นจะแข่งกันผลิบาน สวยงามมากๆ ทำให้ปราสาทแห่งนี้นับเป็นหนึ่งจุดที่ชาวญี่ปุ่นนิยมเดินทางมาเพื่อมาชมดอกซากุระบานในช่วงเทศกาลชมดอกซากุระเลยทีเดียว

5. พื้นที่ทางโบราณคดีซันไน มารุยาม่า (特別史跡 三内丸山遺跡) เมืองอาโอโมริ

5. พื้นที่ทางโบราณคดีซันไน มารุยาม่า (特別史跡 三内丸山遺跡) เมืองอาโอโมริ

พื้นที่ทางโบราณคดีซันไน มารุยาม่าเป็นโบราณสถานที่เก่าที่สุดและสมบูรณ์ที่สุดบนเกาะญี่ปุ่น เลยทีเดียว จัดว่าสมบูรณ์ที่สุดของยุคโจมง (Jomon) หรือราวๆ 4,000 ปีก่อนคริสตศักราช พื้นที่ดังกล่าวถูกค้นพบโดยบังเอิญ รวมแล้วกว่า 700 หลังคาเรือนและยังมีพื้นที่อีกหลายส่วนที่นักโบราณคดีกำลังทำการศึกษาอยู่ด้วย ปัจจุบันอยู่ในระหว่างพิจารณาให้กลายเป็นพื้นที่มรดกโลก UNESCO World Heritage Site

4. พิพิธภัณฑ์ศิลปะอาโอโมริ (青森県立美術館) เมืองอาโอโมริ

4. พิพิธภัณฑ์ศิลปะอาโอโมริ (青森県立美術館) เมืองอาโอโมริ

http://www.aomori-museum.jp/ja/about/vi/

พิพิธภัณฑ์ศิลปะอาโอโมริ(Aomori Museum of Art หรือ Aomori Kenritsu Bijutsukan) เป็นพิพิธภัณฑ์จัดแสดงงานศิลปะสมัยใหม่ ตัวอาคารสะดุดตาด้วยการออกแบบภายนอกด้วยสีขาวล้วน ไฮไลท์ที่นอกจากตัวอาคารสวยสง่าแล้ว ภายในอาคารยังมีนิทรรศการศิลปะถาวร ของ 3 ศิลปินดัง Marc Chagall, Munakata Shiko และ Nara Yoshitomo ด้วย

3. ภูเขาโอโซเรซัง (恐山) เมืองมุสึ

3. ภูเขาโอโซเรซัง (恐山) เมืองมุสึ

ภูเขาโอโซเรซังได้รับการจัดอันดับให้เป็น 1 ใน 3 ของภูเขาศักดิ์สิทธิ์ของญี่ปุ่น ได้ถูกค้นพบในช่วง 1,000 ปีที่ผ่านมา และด้านบนภูเขายังเป็นที่ตั้งของวัดโบไดจิ (菩提寺) อีกด้วย โดยความโดดเด่นของภูเขาลูกนี้ก็คือภูมิทัศน์ที่แปลกตาที่เกิดจากการระเบิดของภูเขาไฟ และกลิ่นกำมะถันที่รุนแรงแทรกซึมอยู่ในอากาศ พื้นดินเป็นสีเทาแห้งแล้ง และถัทะเลสาบที่อยู่ใกล้ๆ ก็มีน้ำเป็นสีฟ้าเฉดต่างๆ เนื่องจากปริมาณของกำมะถันจำนวนมากที่ผสมอยู่ เป็นวิวที่น่าไปชมสักครั้งจริงๆ

2. ออนเซ็นซุคายุ (酸ケ湯温泉) เมืองอาโอโมริ

2. ออนเซ็นซุคายุ (酸ケ湯温泉) เมืองอาโอโมริ

http://www.sukayu.jp/inside/bathroom.html

ออนเซ็นธรรมชาติที่มีแผหล่งพลังงานความร้อนจากภูเขาไฟ น้ำที่มีกรดกำมะถันเจืออยู่ ทำให้มีสีฟ้าอมเขียวขุ่นแปลกตา แต่เต็มไปด้วยแร่ธาตุบำรุงผิว ตัวอาคารเก่าแก่และเปิดเพดานสูงโปร่ง ถ้าใครได้มาเที่ยวอาโอโมริแล้วก็อย่าลืมมาสัมผัสประสบการณ์แช่ออนเซ็นที่นี่

1. เนบุตะ โนะ อิเอะ วารัสเซะ (ねぶたの家) เมืองอาโอโมริ

1. เนบุตะ โนะ อิเอะ วารัสเซะ (ねぶたの家) เมืองอาโอโมริ

https://ja.wikipedia.org/wiki/%E3%83%95%E3%82%A1%E3%82%A4%E3%83%AB:Nebuta_house_Wa-Rasse.JPG

อาคารแปลกตานี้เป็นอาคารของพิพิธภัณฑ์ศิลปะพื้นบ้านเนบูตะ ที่รายล้อมด้วยแผ่นโลหะสีแดงสะดุดตา ภายในจัดแสดงนิทรรศการเกี่ยวกับเทศกาลโคมประดับของญี่ปุ่นที่มีชื่อเสียงที่จัดขึ้นเป็นประจำทุกปีในช่วงต้นเดือนสิงหาคม หรือที่เรียกว่า เทกาลเนบูตะมัตสุริ (Nebuta Matsuri) นั่นเอง เราจะสามารถชมโคมขนาดใหญ่ที่ใช้ในงานเทศกาลแบบใกล้ๆ ได้ก็ที่นี่เอง ภายในมีคาเฟ่อาหารอร่อยให้นั่งจิบชาเพลินๆ ด้วย

know-before-you-go