All About Japan

เที่ยวเซนได 4 ฤดู

Sendai Miyagi โทโฮคุ

Sendai Page 2

ฤดูใบไม้ร่วง

ฤดูใบไม้ร่วงเป็นฤดูที่อากาศจะเริ่มแห้งและเย็นขึ้นเรื่อยๆ ลมก็พัดแรงมากขึ้น แต่ก็นับว่าเป็นช่วงที่อากาศกำลังสบายๆ พอเหมาะ ใบไม้เริ่มเปลี่ยนเป็นสีแดง สีเหลือง สีอมส้ม ช่วงเวลานี้นักท่องเที่ยวก็ทยอยมาเที่ยวชมใบไม้เปลี่ยนสีกันแล้ว ที่เซนไดมีจุดชมใบไม้เปลี่ยนสีที่ไหนบ้างนั้น เรามาดูกันเลย

ช่องเขาไรไรเกียว (Rairaikyo)

ช่องเขาไรไรเกียว (Rairaikyo)

https://commons.wikimedia.org/wiki/File:Akiu_Rairaikyo_2008B.jpg

ช่องเขาไรไรเกียวในเซนไดนี้ตั้งอยู่ทางทิศใต้ของเมืองเซนได เคยใช้เป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์เรื่อง “รักแท้…แพ้แรงดึงดูด (Gravity of Love)” ด้วยนะ ที่นี่มีลักษณะเป็นทางเดินเล็กๆ ตามแม่น้ำนาโตริงาวะ (Natorigawa River) ที่ไหลลงสู่ทะเล ไฮไล?์ของที่นี่คือสะพานโนโซกิบาชิ (Nozokibashi Bridge) ซึ่งว่ากันว่าเป็นสะพานศักดิ์สิทธิ์แห่งคู่รัก เพราะใต้สะพานจะมีรอยเว้าตามธรรมชาติของหินเป็นรูปหัวใจ เชื่อกันว่าถ้ามากับคนรัก ความสัมพันธ์รักจะยิ่งแนบแน่นขึ้น จึงเป็นจุดเช็คอินสำหรับคู่รักที่ได้รับความนิยมแห่งหนึ่งของเซนได และในฤดูใบไม้ร่วงก็ยิ่งเพิ่มความโรแมนติกแบบแรงๆ ด้วยวิวใบไม้เปลี่ยนสีด้วย อะไรจะขนาดนี้

เวลาทำการ
เปิดตลอด
เปิดไฟไลท์อัพ 18.30 - 20.30 น.
ค่าเข้าชม
ฟรี
การเดินทาง
ขึ้นรถบัส Miyagi Kotsu จากสถานี Sendai มาลงป้าย Akiu-Bunka-no-Sato Center

ซุยโฮเด็ง (Zuihoden Mausoleum)

ซุยโฮเด็ง (Zuihoden Mausoleum)

https://commons.wikimedia.org/wiki/File:Zuihouden(%E7%91%9E%E9%B3%B3%E6%AE%BF%E3%83%BB%E4%BC%8A%E9%81%94%E5%AE%B6%E9%9C%8A%E5%BB%9F)_-_panoramio_-_Fumihiko_Ueno.jpg

ซุยโฮเด็งเป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่สำคัญของเซนได เนื่องจากเป็นที่ฝังศพของดาเตะ มาซามุเนะ (Date Masamune) เจ้าผู้ครองเมืองเซนไดคนแรกที่มีชื่อเสียงโด่งดังมากในสมัยเอโดะ นอกจากนี้ยังมีสุสานคันเซ็นเด็ง (Kansenden) ของบุตรชายท่านดาเตะ ซึ่งเป็นผู้ครองเมืองในรุ่นที่ 2 และสุสานเซ็นโนเด็ง (Zennoden) ของหลานชายท่าน ซึ่งเป็นทายาทผู้ครองเมืองรุ่นที่ 3 อีกด้วย สุสานทั้ง 3 ในปัจจุบันถูกสร้างขึ้นใหม่แทนของเดิมที่ถูกทำลายไปในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ตั้งอยู่บนเนินเขาเคียวงามิเนะ (Kyogamine) ที่มีทัศนียภาพสวยงามด้วยป่าสนและป่าไผ่ เป็นอีกจุดหนึ่งที่ขึ้นชื่อเรื่องการชมใบไม้เปลี่ยนสีของเซนไดเลยล่ะ

เวลาทำการ
กุมภาพันธ์ - พฤศจิกายน 09.00 - 16.30 น.
ธันวาคม - มกราคม 09.00 - 16.00 น.
วันหยุด 30 ธันวาคม - 1 มกราคม
ค่าเข้าชม
550 เยน
การเดินทาง
ขึ้น Loople Bus หน้าสถานี Sendai ไปลงป้าย Zuihoden Mae

วัดรินโนจิ (Rinnoji Temple)

วัดรินโนจิ (Rinnoji Temple)

https://rinno-ji.or.jp/

วัดรินโนจิ เป็นวัดพุทธในเมืองเซนได ถูกสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1441 แต่ต่อมามีการย้ายตามการย้ายปราสาทของตระกูลดาเตะ (Date) หลายครั้งจนกระทั่งมาอยู่ในที่ปัจจุบัน หลังจากที่ย้ายมาที่นี่แล้ว ในปี ค.ศ. 1876 เกิดไฟไหม้จนวัดได้รับความเสียหาย และได้รับการบูรณะใหม่อีกครั้งในปี ค.ศ. 1915 ภายในบริเวณวัดมี เจดีย์ 5 ชั้น เจดีย์ 3 ชั้น และไฮไลท์อยู่ที่สวนซึ่งทุ่มงบประมาณสร้างในช่วงบูรณะไปไม่น้อย จนกลายเป็นหนึ่งในสวนที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในภูมิภาคโทโฮกุ เป็นจุดชมใบไม้เปลี่ยนสีที่งดงามอีกแห่งในฤดูใบไม้ร่วงของเซนได แต่วัดริโนจิก็ไม่ได้สวยแค่ฤดูใบไม้ร่วงนะ เราสามารถมาเที่ยวชมได้ทั้ง 4 ฤดูเลยล่ะ

เวลาทำการ
08.00 - 17.00 น.
ค่าเข้าชม
นักเรียนชั้นประถมต้นขึ้นไป 300 เยน
การเดินทาง
จากสถานี Sendai ขึ้นรถไฟสาย JR Senzan ลงสถานี Kitayama แล้วเดินต่อไปอีกประมาณ 10 นาที

ศาลเจ้าคาโมะ (Kamo Shrine)

ศาลเจ้าคาโมะ (Kamo Shrine)

https://commons.wikimedia.org/wiki/File:Acer_palmatum,_Kamo_Shrine,_Sendai,_Japan.JPG

ศาลเจ้าคาโมะ ตั้งอยู่บนเนินเขาในตำบลอิซุมิ (Izumi) เมืองเซนได ที่มีแม่น้ำนานากิตะ (Nanakita River) ไหลผ่าน ภายในมี 2 ศาลเจ้าคือศาลเจ้าคามิงาโมะ (Kamigamo Shrine) และศาลเจ้าชิโมงาโมะ (Shimogamo Shrine) ยามฤดูใบไม้ร่วง ใบไม้แดงสีสดอวดโฉมคู่ไปกับประตูโทริอิสีแดงของศาลเจ้าสวยอย่าบอกใคร ที่นี่อาจไม่โด่งดังแต่บรรยากาศที่สงบร่มรื่นเมื่อมาสักการะที่ศาลเจ้าพร้อมๆ กับเดินชมความแดงสวยของใบไม้เปลี่ยนสีที่ศาลเจ้าคาโมะก็เป็นอีกตัวเลือกหนึ่งที่ยอดเยี่ยมในการมาเซนไดช่วงฤดูใบไม้ร่วงนะ

เวลาทำการ
เปิดตลอด
ค่าเข้าชม
ฟรี
การเดินทาง
จากสถานี Izumi-Chuo นั่งรถบัสมาลงป้าย Kamo Jinja แล้วเดินอีก 1 นาที

ถนนโจเซ็นจิ (Jozenji Avenue)

ถนนโจเซ็นจิ (Jozenji Avenue)

https://ja.m.wikipedia.org/wiki/%E3%83%95%E3%82%A1%E3%82%A4%E3%83%AB:JozenjiSt_Nov24_2007.jpg

ถนนโจเซ็นจิตั้งอยู่ในเมืองเซ็นได เป็นถนนสายช้อปปิ้งที่ทอดยาวเป็นแนวจากทิศตะวันออกไปถึงทิศตะวันตกประมาณ 700 เมตร มีต้นเคยากิ (ต้นเซลโคว่าญี่ปุ่น) เรียงรายตลอดสองฟากฝั่ง เหมาะกับการมาเดินเล่นชิลๆ กินบรรยากาศ หรือแวะช้อปปิ้งตามร้านต่างๆ ถ้ามาในฤดูใบไม้ร่วง ที่ถนนโจเซ็นจินี้ก็เป็นอีกจุดชมใบไม้เปลี่ยนสีใจกลางเมืองเซนไดที่ยอดเยี่ยมอีกจุดหนึ่ง ใครไม่อยากไปไกลก็ขอแนะนำที่นี่เลย

เวลาทำการ
เปิดตลอด
ค่าเข้าชม
ฟรี
การเดินทาง
จากสถานี JR Sendai ต่อรถไฟใต้ดินสาย Namboku ลงสถานี Kotodai-Koen แล้วเดินต่อไปอีก 1 นาที

ฤดูหนาว

เมื่อฤดูหนาวมาเยือน เราก็จะเริ่มนึกถึงหิมะ และความขาวบริสุทธิ์ บรรยากาศช่วงนี้เต็มไปด้วยความโรแมนติกของคู่รัก นักท่องเที่ยวก็วางแผนเที่ยวให้เหมาะกับเทศกาลฤดูหนาวกัน ลองไปดูว่าหนาวๆ แบบนี้เราจะทำอะไรกันดี

ตลาดเช้าเซนได (Asaichi Morning Market)

ตลาดเช้าเซนได (Asaichi Morning Market)

https://commons.wikimedia.org/wiki/File:Sendai_Asaichi_02.JPG

ยังไม่ได้เดินซื้อของเท่าไรเลย มาแวะตลาดเช้าเซนไดกันดีกว่า ตลาดเช้าเซนไดนี้มีลักษณะเป็นถนนสายเล็กๆ ยาวประมาณ 100 เมตรได้ มีร้านค้าตั้งอยู๋สองข้างทางกว่า 70 ร้าน เป็นศูนย์รวมสินค้าท้องถิ่นทั้งหลาย เช่น ปลาท้องถิ่น สินค้าสดจากทะเลตามฤดูกาล อาหารทะเลแปรรูป ผักและผลไม้ ดอกไม้ตามฤดูกาล และอีกสารพัด และถึงแม้ได้ชื่อว่าเป็นตลาดเช้า แต่ร้านส่วนใหญ่ก็เปิดตั้งแต่เช้าจรดเย็น ดังนั้นไม่ต้องกลัวว่ามาสายแล้วจะไม่ได้ช้อป

เวลาทำการ
08.00 - 18.00 น.
หยุดวันอาทิตย์ วันหยุดราชการ และช่วงปีใหม่
ค่าเข้าชม
ฟรี
การเดินทาง
จากสถานีรถไฟ JR Sendai ทางออกด้านทิศตะวันตก เดินไปประมาณ 5 นาที

อะกิอุ ออนเซ็น (Akiu Onsen)

อะกิอุ ออนเซ็น (Akiu Onsen)

https://commons.wikimedia.org/wiki/File:Akiu_Onsen,_Ryokusuitei_01.jpg

อากาศหนาว หิมะตกๆ แบบนี้ เราไปแช่ออนเซ็นให้อุ่นกันดีกว่า ที่อะกิอุ ออนเซ็น ซึ่งเป็นหมู่บ้านออนเซ็นที่ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกของจังหวัดมิยางิไม่ไกลจากตัวเมืองเซนไดมากนัก อะกิอุออนเซ็นนี้อยู่ติดกับแม่น้ำนาโตริงาวะ (Natorigawa) ที่ไหลจากอ่าวเซ็นไดสู่มหาสมุทรแปซิฟิก ทำให้มีทิวทัศน์ธรรมชาติที่สวยงามมาก และเนื่องจากเป็นแหล่งแช่ออนเซ็นที่ได้รับความนิยมมาก ออนเซ็นสาธารณะเลยอาจจะมีคนเข้ามาใช้บริการเยอะ ถ้ายังไงก็มีตัวเลือกเป็นแช่ออนเซ็นตามโรงแรมก็ได้

เวลาทำการ
08.00 - 17.00 น.
ค่าเข้าชม
ฟรี
ค่าใช้บริการออนเซ็นก็แล้วแต่ที่ ออนเซ็นสาธารณะ 300 เยน
การเดินทาง
จากสถานีรถไฟ Sendai สาย Senzan ต่อรสบัส Miyagi Kotsu Bus ไปลง Akiu Onsen Yumoto

ซากุนามิ ออนเซ็น (Sakunami Onsen)

ซากุนามิ ออนเซ็น (Sakunami Onsen)

https://commons.wikimedia.org/wiki/File:SakunamiOnsen2006-03,.jpg

ซากุนามิ ออนเซ็น อยู่ที่เมืองเซนได กล่าวกันว่าถูกค้นพบเมื่อ 1300 ปีก่อน เป็นออนเซ็นที่มีประวัติมายาวนาน คุณภาพของน้ำแร่ที่นี่ก็ดี มีประโยชน์ต่อผิวมาก มีคนมาใช้บริการมากมายตลอดทั้งปี ซากุนามิ ออนเซ็นเริ่มเปิดให้บริการตั้งแต่ปี ค.ศ. 1796 การแช่ออนเซ็นที่นี่มีทั้งแบบเปิดโล่ง และแช่ในห้องอาบที่ล้อมรอบด้วยหิน โดยมีวิวหุบเขาซึ่งล้อมรอบ ระดับความลึกของน้สามารถยืนถึง แช่ออนเซ็นไปชมทิวทัศน์ธรรมชาติไปด้วยแบบนี้ เป็นอีกความสุขสำหรับหน้าหนาวในเซนไดเลยล่ะ

เวลาทำการ
แตกต่างกันไปตามแต่ละโรงแรม 08.00 - 22.00 น.
ค่าเข้าชม
ฟรี
ถ้าแช่ออนเซ็น ใช้บริการของโรงแรม ราคาสตาร์ทตั้งแต่ 500 เยน
การเดินทาง
จากสถานี JR Sendai ทางออกตะวันตก ขึ้นรถบัสไปลงที่ Sakunami Onsen Motoyu

หมู่บ้านสุนัขจิ้งจอก (Zao Fox Village)

หมู่บ้านสุนัขจิ้งจอก (Zao Fox Village)

https://commons.wikimedia.org/wiki/File:Zao_Fox_Village,_Shiroishi-shi,_Japan_(Unsplash).jpg

หมู่บ้านสุนัขจิ้งจอกซาโอะนี้ จะแบ่งออกเป็น 2 โซน โซนแรกเหมือนสวนสัตว์ คือมีการแยกน้องสัตว์ใส่ในกรงตามปกติ มีทั้ง สุนัขจิ้งจอก กระต่าย แพะ ม้า เป็นต้น ส่วนอีกโซนเขาเลื้ยงสุนัขจิ้งจอกแบบปล่อยตามธรรมชาติ ทำให้เราได้เห็นพฤติกรรมการใช้ชีวิตของน้องๆ สุนัขจิ้งจอกได้ตามที่เป็นจริง นอกจากนี้เรายังสามารถให้อาหารจิ้งจอกได้ด้วย อาหารราคาถุงละ 100 เยน น้องๆ จิ้งจอกก็จะตามเราต้อยๆ เลยเพราะอยากได้อาหาร น่ารักมากๆ อยากให้มาเที่ยวกันเยอะนะจ๊ะ

เวลาทำการ
16 มีนาคม – 30 พฤศจิกายน เปิด 09.00 – 17.00 น. (เข้าก่อน 16.30 น.)
1 ธันวาคม – 15 มีนาคม เปิด 09.00 – 16.00 น. (เข้าก่อน 15.30 น.)
หยุดทุกวันพุธ ยกเว้นช่วงเดือนกุมภาพันธ์ สิงหาคม
ค่าเข้าชม
ผู้ใหญ่ (อายุ 13 ปีขึ้นไป) 1,000 เยน
เด็ก (ต่ำกว่า 12 ปี) ฟรี
การเดินทาง
ขึ้นรถไฟ JR จากสถานี Sendai มาลงสถานี Shiroishi-Zao แล้วนั่งรถแท็กซี่ต่อไปที่ Zao Fox Village (ขากลับบอกจองแท็กซี่ไว้ก่อนเลย เขาจะให้บัตรคิว)

สปริงวัลเลย์ อิสึมิโคเง็น สกี รีสอร์ท (Spring Valley Izumi Kogen Ski Resort)

สปริงวัลเลย์ อิสึมิโคเง็น สกี รีสอร์ท (Spring Valley Izumi Kogen Ski Resort)

http://www.springvalley.co.jp/winter/

ไหนๆ มาเซนไดช่วงฤดูหนาวแล้ว เราจะพลาดกิจกรรมที่ท้าทายบนหิมะขาวนวลได้ยังไง ไปเล่นสกีกันที่ Spring Valley Izumi Kogen Ski Resort เถอะนะ ที่นี่มีคอร์สสกีให้เลือกทั้งหมด 12 คอร์ส ทั้งคอร์สง่ายๆ สำหรับคนเพิ่งเริ่มเล่น (มีสอนเล่นสกีสำหรับคนไม่เคยเล่นด้วย) ไปจนถึงคอร์สแอดวานซ์สำหรับนักเล่นมือฉมัง นอกจากสกีก็ยังมีสโนว์บอร์ด กับรถลากเลื่อนให้เล่นอีกด้วย

เวลาทำการ
09.00 – 21.00 น. (วันเสาร์อาทิตย์และวันหยุดนักขัตฤกษ์ เปิด 8.30 น.)
ค่าตั๋วลิฟต์ 4 ชั่วโมง
ผู้ใหญ่ 3,200 เยน
ค่าเช่า
สกี 3,900 เยน / 4 ชม.
สโนว์บอร์ด 3,900 เยน / 4 ชม.
ชุดสกี 3,300 เยน / 4 ชม.
รถลากเลื่อนบนหิมะ 300 เยน
การเดินทาง
ขึ้นรถบัสสายที่จะไป Izumi Kogen Ski-jo จากป้ายขึ้นรถหมายเลข 2 ของรถไฟฟ้าใต้ดินสถานี Izumichuo

  • 1
  • 2
  • 1
  • 2
  • 1
  • 2
know-before-you-go