รวมที่เที่ยวเด่นของคนไป "โออิตะ" ครั้งแรก
Oita
จังหวัดโออิตะตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของภูมิภาคคิวชู มีพื้นที่ 6,338.82 ตารางกิโลเมตร เป็นจังหวัดที่ขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองแห่งออนเซ็นอันดับ 1 ของญี่ปุ่น แต่มีพื้นที่ซึ่งเป็นภูเขาไฟเสียคิดเป็นสัดส่วนมากที่สุดของจังหวัด จึงทำให้มีบ่อน้ำพุร้อนใหญ่ๆเกิดขึ้นมากมาย โดยเมืองที่นักท่องเที่ยวนิยมไปแช่ออนเซ็นกันมากที่สุดก็คือยุฟุอินกับเบปปุ วิวดังๆที่เราจะเห็นก็คือบรรยากาศของเมืองที่มีควันขาวๆพวยพุ่งขึ้นมาทั่วไปหมด
1 ยุฟุอิน (Yufuin)
ยุฟุอินเป็นเมืองเล็กๆที่มีชื่อเสียงในเรื่องออนเซ็นเมืองหนึ่งของโออิตะ เสน่ห์ของยุฟุอินนั้น นอกจากขึ้นชื่อว่าออนเซ็นใหญ่เป็นอันดับ 3 ของญี่ปุ่นและมีจำนวนบ่อน้ำร้อนออนเซ็นมากอันดับ 2 ของญี่ปุ่นแล้ว ก็ยังมีจุดขายอยู่ที่ร้านค้าต่างๆในเมือง ไม่ว่าจะเป็นร้านขนม คาเฟ่ ร้านขายของที่ระลึกที่แต่ละร้านก็ตกแต่งน่ารัก สไตล์เก๋ ไว้คอยต้อนรับนักท่องเที่ยวซึ่งแวะเวียนกันมามากหน้าหลายตา
อย่างเช่นย่าน Yufuin Floral Village มุมเล็กๆ ซึ่งเป็นที่ตั้งของร้านขายของกระจุกกระจิก ผลงานศิลปะแนวๆ งานอาร์ตๆ งานแฮนด์เมดต่างๆ นอกจากนี้ยังมีจุดชมวิวสวยๆ ตรงทะเลสาบคินรินโกะ (Kinrinko Lake) ที่วิวจะเปลี่ยนไปตามฤดูกาลต่างๆ เป็นอีกจุดชมใบไม้แดงที่คนนิยมมากันด้วย ยิ่งถ้าเป็นฤดูหนาวเราจะเห็นหมอกขาวฟุ้งๆ เหนือผิวน้ำในทะเลสาบจากการที่อุณหภูมิที่ร้อนของน้ำตัดกับอากาศหนาวนั่นเอง คนที่มาแช่ออนเซ็นที่นี่มักจะกลับมาอีกครั้งเพราะทิวทัศน์ของยุฟุอินงดงามมากจริงๆ
เวลาทำการ
- ถ้าเข้าพักเรียวกังก็ขึ้นอยู่กับเวลาเปิด-ปิดของที่พัก
- ร้านค้าส่วนใหญ่คึกคักช่วงสายๆ แต่พอถึงบ่ายมากๆ ก็เริ่มไม่ค่อยมีคนเท่าไหร่แล้ว
ค่าเข้าชม
ฟรี
การเดินทาง
ขึ้นรถไฟ JR Kyushu สาย Kyudai Honsen มาลงสถานี Yufuin
2 บ่อนรกทั้ง 8 แห่งเบปปุ (Beppu Jigoku Meguri)
เบปปุเป็นอีกเมืองออนเซ็นยอดนิยมที่อยู่ไม่ไกลจากยุฟุอินมากนัก มีจุดท่องเที่ยวที่ห้ามพลาดหากคิดจะมาเที่ยวเบปปุก็คือ 8 บ่อน้ำนรก โดยในแต่ละบ่อจะมีสีของน้ำและอุณหภูมิที่แตกต่างกัน เช่น บ่อสีส้ม สีฟ้า สีเทา สีขาวเหมือนน้ำนม บ่อโคลน เป็นต้น เห็นแล้วจะรู้สึกทึ่งในสิ่งที่ธรรมชาติสร้างแน่นอน แต่ละบ่อก็มีเอกลักษณ์ของตัวเองต่างกันไป สีสันของน้ำดูเข้มข้นและสวยแปลกตาไม่ซ้ำกันสักบ่อดีจริงๆ อ้อ ยกเว้นบ่อ Oniyama Jigoku ที่เป็นน้ำสีธรรมดา แต่เป็นบ่อที่มีการเลี้ยงจระเข้
มีทั้งจุดที่เราสามารถแช่เท้าคลายความเมื่อยล้า จุดที่ใช้ความร้อนของออนเซ็นนรกลวกไข่กิน จุดให้ทดลองดื่มน้ำออนเซ็นก็มี ถ้าอยากสัมผัสประสบการณ์ทัวร์นรก (ทางนั้นเขาใช้คำนี้เป็นสโลแกนการท่องเที่ยวจริงๆ) ก็ต้องไปให้ได้ ไม่อย่างนั้นจะเรียกว่ามาไม่ถึงเบปปุนะจ๊ะ
เวลาทำการ
08.00 - 17.00 น.
ค่าเข้าชม
บัตรเข้าชมแบบซื้อแยก บ่อละ 400 เยน
บัตรเข้าชม 8 บ่อ 2000 เยน
การเดินทาง
ขึ้นรถไฟ JR Kyushu สาย Nippo ไปลงสถานี Higashi-Beppu
3 สวนดอกไม้คุจู (Kuju Flower Park)
Kuju Flower Park เป็นสวนดอกไม้ขนาดใหญ่ที่สุดสวนหนึ่งของเกาะคิวชู ตั้งอยู่บนพื้นที่กว่า 130 ไร่และมีดอกไม้มากมายกว่า 3 ล้านดอก กว่า 500 สายพันธุ์ บานให้ชมความงามกันได้ตลอดทั้งปี (ยกเว้นฤดูหนาว) สวนนี้ปลูกดอกไม้ตามฤดูกาลเกือบทุกฤดูเช่นทุ่งดอกลาเวนเดอร์ ดอกทิวลิป ดอกทานตะวัน ดอกป้อปปี้ ดอกพิงค์มอสสีชมพู บลูเบอร์รี่ เป็นต้น และนอกจากเป็นสวนกว้างใหญ่ที่มีทางเดินเชื่อมต่อกันให้สามารถเดินถ่ายรูปได้อย่างต่อเนื่องแล้วก็ยังมีดอกไม้ที่ปลูกในเรือนกระจกอีกด้วย
ใครชอบธรรมชาติและดอกไม้ ขอแนะนำให้มาเที่ยวที่นี่เลย นอกจากดอกไม้แล้วก็ยังมีธรรมชาติที่ยิ่งใหญ่อย่างภูเขาคุจู (Kuju Mountain) เป็นฉากหลังด้วย
เวลาทำการ
08.30 - 17.30 น.
ปิดปลายเดือนธันวาคม - กุมภาพันธ์
ค่าเข้าชม
ผู้ใหญ่ (ตั้งแต่มัธยมปลายขึ้นไป) 1300 เยน
เด็กเล็ก (ตั้งแต่ 5 ขวบขึ้นไป) 500 เยน
ผู้สูงอายุ (อายุ 70 ปีขึ้นไป) 1100 เยน
การเดินทาง
ขึ้นรถไฟ JR Hohi Main Line จากสถานี JR Oita ไปลงสถานี Bungotaketa แล้วนั่งแท็กซี่ต่อไปอีกประมาณ 30 นาที
4 ฮาร์โมนี่ แลนด์ (Harmony Land)
สวนสนุกฮาร์โมนี่ แลนด์ แดนหรรษาของตัวการ์ตูนซานริโอ้อีกแห่งตั้งอยู่ที่จังหวัดโออิตะนี้เอง ไปเซย์ฮัลโหลคิตตี้กันให้บันเทิงใจกับสวนสนุกที่เป็นบ้านหลังใหญ่ของคิตตี้กัน ไปเที่ยวชมปราสาทคิตตี้ ดูโชว์การแสดงอันสุดประทับใจของเหมียวคิตตี้และเพื่อน สนุกไปกับเครื่องเล่นนานาชนิดที่ตกแต่งเป็นตัวการ์ตูนซานริโอ้ อาทิเช่น รถไฟเหาะ ชิงช้าสวรรค์ 60 เมตร โรงภาพยนตร์ 3 มิติ หรือจะนั่งรถไฟที่มีรางผ่านทั่วสวนเล่นเพื่อชมวิวให้ทั่วก็ได้ ไปล่องเรือผจญภัยในอุโมงค์ซานริโอ้ แล้วไปนั่งชิลๆจิบเครื่องดื่มชิมขนมหวานในคาเฟ่สุดน่ารักก็เหมาะ
เวลาทำการ
10.00 - 18.00 น. (ถ้ามีอีเวนท์พิเศษหรือการแสดงโชว์สเปเชี่ยลก็ปิด 21.00 น.)
สามารถตรวจสอบเวลาเปิด-ปิดสวนสนุกได้ที่นี่
ค่าเข้าชม
ตั๋วพาสปอร์ต 1 วัน 2900 เยน (อายุต่ำกว่า 4 ขวบ เข้าฟรี)
การเดินทาง
ขึ้นรถไฟ JR สาย Nippo Main Line จากสถานี Oita ไปลงสถานี Hiji แล้วต่อแท็กซี่ไปอีกประมาณ 10 นาที
5 เมืองโชวะ (Showa no Machi)
เมืองโชวะ (Showa no Machi) กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่เริ่มจะโด่งดังขึ้นมาจากอิทธิพลของการใช้เป็นฉากประกอบในภาพยนตร์เรื่อง Namiya Zakkaten no kiseki สร้างจากนิยายของฮิงาชิโนะ เคโงะ (Higashino Keigo) หรือที่นำมาแปลเป็นฉบับภาษาไทยในชื่อ ปาฏิหาริย์ร้านชำของคุณนามิยะ ทำให้เกิดเป็นกระแสการตามรอยร้านชำของคุณนามิยะขึ้นมา
เมืองโชวะนี้ตั้งอยู่ที่เมืองบุงโงตากาดะ (Bungotakada) จังหวัดโออิตะ เป็นเมืองที่จำลองสมัยโชวะของญี่ปุ่น ที่มีกลิ่นอายของช่วงเศรษฐกิจญี่ปุ่นที่เริ่มรุ่งเรืองขึ้นมาใหม่ๆ ร้านค้า ร้านจัดแสดงสินค้า ถนนหนทาง และบรรดาป้ายตามตึกและร้านรวงต่างๆ ก็ให้บรรยากาศเรโทรเก่าๆ มีเสน่ห์มากเลยขอบอก และในวันหยุด เสาร์-อาทิตย์ เขาจะมีรถ Bonnet Bus ให้บริการนั่งชมเมืองโชวะกับสถานที่ท่องเที่ยวรอบๆอีกด้วย
เวลาทำการ
09.00 - 18.00 น.(ขึ้นอยู่กับแต่ละร้าน)
ค่าเข้าชม
ฟรี
การเดินทาง
ขึ้นรถบัสหน้าสถานี Usa สายที่จะไป Bungo Takada หรือ Kunimi ใช้เวลาเดินทางประมาณ 10 นาที