รวมที่เที่ยวเด่นของคนไป "กุนมะ" ครั้งแรก
Gunma Trip
1 ศาลเจ้าฮารุนะ (Haruna Shrine)
ศาลเจ้าฮารุนะเป็นศาลเจ้าเก่าแก่กว่า 1400 ปี ตั้งอยู่ที่เมืองทากาซากิ (Takasaki) เป็นศาลเจ้าที่สักการะเทพเจ้าของภูเขาฮารุนะและเป็นจุดที่รับพลังจากเทพเจ้า (Power Spot) ที่คนนิยมมาสักการะกันมากมาย โด่งดังในเรื่องการขอพรต่อเทพเจ้าทั้งในด้านการเกษตร ธุรกิจการค้า และความรัก
ไฮไลท์ของศาลเจ้านี้คือใบเสี่ยงเซียมซี (ราคา 200 เยน) โดยเราจะได้ใบเซียมซีที่แบ่งเป็นช่องๆ ตามคำทำนายแต่ละเรื่อง แต่ยังไม่มีคำทำนายอะไรเขียนอยู่เป็นเหมือนใบเซียมซีเปล่าๆ ต้องเอาไปแช่ที่บ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์แล้วถึงจะมีตัวหนังสือขึ้นมา ซึ่งน่ามหัศจรรย์มากเป็นเหมือนจุดขายของที่นี่ ใครชอบเกี่ยวกับดวงหรือคำทำนายโชคชะตาห้ามพลาดเลยล่ะ
เวลาทำการ
เปิดตลอด
ค่าเข้าชม
ฟรี
การเดินทาง
ขึ้นรถบัสสายที่จะไปทะเลสาบ Harunako จากสถานี Takasaki ไปลงป้าย Haruna Jinjamae
2 วัดโชรินซัง ดารุมะจิ (Shorinzan Darumaji Temple)
เชื่อกันว่าวัดโชรินซัง ดารุมะจิ เป็นที่กำเนิดของตุ๊กตาดารุมะ ตุ๊กตานำโชคที่มีชื่อเสียงมากของญี่ปุ่น ในวันที่ 6 - 7 มกราคมของทุกปีที่วัดจะมีงานโชรินซัง นานาคุสะ ไทไซ ดารุมะอิจิ (Shorinzan Nanakusa Taisai Darumaichi) ซึ่งเป็นงานที่ผู้คนมหาศาลจะมาที่วัดเพื่อขอพรปีใหม่กับตุ๊กตาดารุมะกัน โดยซื้อตุ๊กตาดารุมะมาอธิษฐาน ใช้หมึกเขียนตาข้างซ้ายให้ตุ๊กตาดารุมะ แล้วเมื่อคำอธิษฐานสมหวังก็จะเขียนตาข้างขวาให้ตุ๊กตาดารุมะ เสร็จก็นำไปคืนที่วัด
เวลาทำการ
09.00 - 17.00 น.
ค่าเข้าชม
ฟรี
การเดินทาง
ขึ้นรถไฟสาย สาย JR Shinetsu Main Line มาลงสถานี Gumma-Yawata แล้วเดินต่อไปอีกประมาณ 15 นาที
3 วัดโมรินจิ (Morinji Temple)
วัดโมรินจินี้เป็นวัดของนิกายเซ็น สร้างขึ้นในปี 1426 ตั้งอยู่ที่เมืองทาเตบายาชิ (Tatebayashi) จุดเด่นของวัดโมรินจิคือตัวทานุกิที่แปลงร่างเป็นกาน้ำ ซึ่งมาจากนิทานปรัมปราเรื่องบุนบุกุ จางามะ (Bunbuku Chagama)
เรื่องย่อของนิทานก็มีอยู่หลายแบบ แต่หลักๆมีอยู่ว่า มีชายพ่อค้าไปเจอทานุกิติดกับดัก เขาสงสารเลยช่วยปล่อยทานุกิตัวนั้น ทานุกิจึงแปลงร่างเป็นกาน้ำชาให้ชายนำไปขายเพื่อตอบแทนบุญคุณ และชายผู้นั้นก็นำมาขายให้กับพระของวัดแห่งนี้ เป็นต้น
บ้างก็บอกว่าหลังจากช่วยทานุกิเสร็จ วันต่อมาชายคนเดิมเจอกาน้ำชาตั้งอยู่ตรงที่ทานุกิติดกับเมื่อวาน เขาเลยเอากาใบนั้นกลับบ้าน และนำไปถวายท่านเจ้าอาวาสวัดโมรินจิ เมื่อท่านเจ้าอาวาสใช้ชงชาก็พบว่าน้ำร้อนในกานั้นไม่เคยเหือดแห้งเลยก็มี หรืออีกเวอร์ชั่นก็คือ ทานุกิทนความร้อนจากการต้มน้ำไม่ไหวเลยกระโดดหนี และวัดก็กลายเป็นมีชื่อเสียงในเรื่องของกาต้มน้ำที่สามารถขยับได้
ที่วัดนี้มีรูปปั้นเจ้าทานุกิอยู่ถึง 21 ตัวเรียงรายตลอดทางเดินเข้าวัด เป็นสัญลักษณ์แห่งความผูกพันของทานุกิกับวัดโมรินจินี้
เวลาทำการ
09.00 - 16.00 น.
ค่าเข้าชม
ผู้ใหญ่ 300 เยน
เด็ก 100 เยน
การเดินทาง
ขึ้นรถไฟสาย Tobu Isesaki Line มาลงสถานี Morinjimae แล้วเดินต่อไปอีกประมาณ 10 นาที
4 สวนดอกไม้โทบุ (Tobu Treasure Garden)
ถัดจากวัดโมรินจิไม่ไกลก็เป็นที่ตั้งของสวนดอกไม้ Tobu Treasure Garden สวนนี้ตั้งอยู่ที่เมืองทาเตบายาชิ (Tatebayashi) ปลูกดอกไม้หลากหลายสายพันธุ์บนเนื้อที่ 80,000 ตารางเมตร ช่วงฤดูใบไม้ผลิมีดอกซากุระกับชิบะซากุระ (พิงค์มอส) บานเป็นสีชมพูหวานให้ชมถึงกว่า 200,000 ต้น แถมยังมีดอกเมโนฟีล่าบานสะพรั่งโทนสีฟ้าสดใสอีกกว่า 800,000 ต้น ทีเด็ดของที่นี่อีกอย่างคืออุโมงค์ดอกกุหลาบหลายสายพันธุ์สวยงาม เหมาะสำหรับการถ่ายรูปเป็นที่ระลึก
เวลาทำการ
1 เมษายน - 6 พฤษภาคม 09.00 - 17.00 น.
7 พฤษภาคม - 10 มิถุนายน 09.00 - 17.00 น.
ตุลาคม - พฤศจิกายน 10.00 - 16.30 น.
สวนปิดเดือนกรกฎาคม - กันยายน และกลางเดือนพฤศจิกายน - มีนาคม
ค่าเข้าชม
Moss phlox Festive
ผู้ใหญ่ 600 - 1000 เยน
เด็กนักเรียนประถม 200 - 400 เยน
Rose & Garden Festive
ผู้ใหญ่ 1000 - 1800 เยน
เด็กนักเรียนประถม 400 - 800 เยน
Autumn Rose & Garden festive
ผู้ใหญ่ 800 - 1000 เยน
เด็กนักเรียนประถม 200 - 400 เยน
การเดินทาง
ขึ้นรถไฟ Tobu สาย Isesaki ลงสถานี Morinjimae แล้วเดินต่อไปอีกประมาณ 15 นาที
5 คุซัตสึ ออนเซ็น (Kusatsu Onsen)
อย่างที่เกริ่นไปว่ากุนมะเป็นจังหวัดที่มีออนเซ็นดีที่สุดในญี่ปุ่น เพราะฉะนั้นเราก็ต้องไม่พลาดไปแช่ออนเซ็นกันให้สุขใจกันสักที่ใดที่หนึ่ง (หรือจะเลือกค้างคืนที่เมืองออนเซ็นก็เหมาะ) และคุซัตสึออนเซ็นนี่ล่ะเป็นเมืองออนเซ็นสุดเจ๋งของกุนมะ เป็นเจ้าแห่งออนเซ็นที่อยู่ในอันดับ 1 ในการจัดอันดับ 100 ออนเซ็นของญี่ปุ่นติดต่อกันถึง 13 ปีเลยทีเดียว น้ำร้อนของคุซัตสึออนเซ็มีแร่ธาตุคุณภาพสูงอยู่หลายชนิด ว่ากันว่าสามารถรักษาโรคได้หลายโรคเลยนะ แต่สำหรับคนที่ผิวแพ้ง่ายก็อาจต้องระวังกันหน่อยเนื่องจากน้ำแร่ของที่นี่มีความเป็นกรดสูง สามารถฆ่าเชื้อแบคทีเรียและเชื้อจุลินทรีย์ได้ดี ใครผิวบางๆ อาจระคายเคืองหรืออักเสบได้
เวลาทำการและค่าใช้จ่าย
ขึ้นอยู่กับเรียวกัง/โรงแรมที่เราพัก
การเดินทาง
ขึ้นรถไฟสาย JR Agatsuma มาลงสถานี Naganohara-kusatsuguchi แล้วจะมีรถบัสรับ-ส่งไปออนเซ็น
6 น้ำตกฟุกิวาเระ (Fukiware Waterfall)
น้ำตกฟุกิวาเระเป็นน้ำตกขนาดใหญ่ ตั้งอยู่ที่แม่น้ำคาตาชินะ (Katashina) กว้างประมาณ 30 เมตรและสูงประมาณ 7 เมตร มีกระแสน้ำไหลแรง เป็นน้ำตกของจังหวัดกุนมะที่มีชื่อเสียงโด่งดังไม่น้อย มีลักษณะคล้ายน้ำตกไนแอการาถึงกับมีการขนานนามว่าเป็นน้ำตกไนแอการาแห่งเอเชียเลยเชียว จึงไม่น่าแปลกใจถ้าน้ำตกฟุกิวาเระจะติดอันดับ 1 ใน 100 น้ำตกที่สวยงามที่สุดของญี่ปุ่น เพราะทิวทัศน์โดยรอบของน้ำตกก็งดงามมาก เป็นจุดชมใบไม้เปลี่ยนสีอันสำคัญที่คนนิยมมากันในฤดูใบไม้ร่วงจุดหนึ่งด้วย
เวลาทำการ
เปิดตลอด
ค่าเข้าชม
ฟรี
การเดินทาง
ขึ้นรถไฟสาย JR Joetsu มาลงสถานี Numata จากนั้นต่อรถบัส Kanetsu Bus มาลงที่น้ำตก
7 ปราสาทล็อคฮาร์ท (Lockheart Castle)
ปราสาทล็อคฮาร์ทเป็นปราสาทสไตล์ยุโรปโบราณ เดิมเป็นปราสาทเก่าแก่ของจริงที่เคยตั้งอยู่ที่ประเทศสก็อตแลนด์ เจ้าของคือตระกูลล็อคฮาร์ทซึ่งเป็นตระกูลอัศวินในสก็อตแลนด์ ภายหลังถึงค่อยภูกแยกส่วน ขนย้ายผ่านทางเส้นทางรถไฟสายทรานส์-ไซบีเรีย (Trans-Siberian Railway) และนำมาสร้างใหม่ที่ญี่ปุ่น ภายในมีโบสถ์ แกลลอรี่ ร้านค้า ร้านอาหารต่างๆ และมีพิพิธภัณฑ์ซานตาคลอสอีกด้วย ไม่เพียงแค่นั้น เนื่องจากปราสาทมีวิวสวยและบรรยากาศดีมาก จึงถูกใช้เป็นโลเกชั่นถ่ายทำละคร ภาพยนตร์ และมิวสิควิดีโอหลายเรื่อง ทำให้คนนิยมใช้เป็นสถานที่ถ่ายพรีเวดดิ้งและจัดงานแต่งงานกันเลย ใครที่มาเที่ยวเป็นคู่ เราขอแนะนำปราสาทล็อคฮาร์ทสำหรับเป็นสถานที่เดทหรือขอแต่งงานได้เลย โรแมนติกสุดๆ
เวลาทำการ
09.00 - 17.00 น.
ค่าเข้าชม
ผู้ใหญ่ 1000 เยน
นักเรียนมัธยมต้นและมัธยมปลาย 800 เยน
เด็กเล็ก (4 ขวบ - นักเรียนประถม) 500 เยน
การเดินทาง
ขึ้นรถไฟสาย JR Joetsu มาลงสถานี Numata จากนั้นต่อรถบัส Kan-etsu Kotsu สายที่จะไป Nakayama-honjuku ลงป้าย Lockheart jo mae
8 พิพิธภัณฑ์ของเล่น ตุ๊กตา และรถเมืองอิคาโฮะ (Ikaho Toy, Doll and Car Museum)
เปลี่ยนบรรยากาศมาเที่ยวชมวัฒนธรรมญี่ปุ่นผ่านความทรงจำแบบเด็กๆ กันที่พิพิธภัณฑ์ของเล่น ตุ๊กตา และรถเมืองอิคาโฮะ (Ikaho Toy, Doll and Car Museum) กันสักหน่อย พิพิธภัณฑ์แห่งนี้เป็นศูนย์รวมของเล่นในอดีตนานาชนิดและรถโบราณหลายรุ่น ส่วนใหญ่จะเป็นของสัญชาติญี่ปุ่น มีของเล่นต่างประเทศอยู่บ้างเหมือนกัน (มีนางรำสวมชฎาที่เป็นของเล่นไทยด้วยนะ)
การจัดแสดงข้างในพิพิธภัณฑ์เขาก็จำลองเป็นฉากๆ และได้บรรยากาศแบบเรโทรตั้งแต่สมัยเอโดะถึงโชวะ น่าจะถูกใจคนที่ชอบสะสมของเล่นไม่น้อย ตัวเด่นตัวดังมาครบ เกือบทุกคนน่าจะรู้จักเจ้าหนูอะตอมกัน หน้ากากเสือก็มา มีโซนร้านโชว์ห่วยสมัยก่อน โซนตู้ปาจิงโกะโบราณ โซนมวยปล้ำและอีกหลายโซน สิ่งหนึ่งที่พลาดไม่ได้ก็คือโซนรถยนต์คลาสสิก จัดเต็มกันแบบนี้แล้ว อยากให้ทุกคนลองแวะมาเที่ยวให้ได้ จะเด็กหรือผู้ใหญ่ก็มีอะไรให้ดูมากมาย สนุกได้ทุกคน
เวลาทำการ
25 เมษายน - 31 ตุลาคม
08.30 - 18.00 น.
1 พฤศจิกายน - 24 เมษายน
08.30 - 17.00 น.
ค่าเข้าชม
ผู้ใหญ่ 1080 เยน
นักเรียนมัธยมต้น - มัธยมปลาย 860 เยน
เด็กเล็ก (ตั้งแต่ 4 ขวบ) - นักเรียนประถม 430 เยน
การเดินทาง
ขึ้นรถไฟสาย JR Joetsu มาลงสถานี Shibukawa จากนั้นต่อรถบัส Gunma Bus สายที่จะไป Ikaho Onsen ลงป้าย Uenohara หน้าพิพิธภัณฑ์พอดี