All About Japan

รวมที่เที่ยวเด่นของคนไป "อิวาเตะ" ครั้งแรก

Iwate โทโฮคุ

จังหวัดอิวาเตะอยู่ในภูมิภาคโทโฮกุ (Tohoku) บนเกาะฮอนชู หรือแถบภาคตะวันออกเฉียงเหนือของญี่ปุ่น มีขนาดใหญ่รองจากฮอกไกโด และเนื่องจากพื้นที่ติดกับมหาสมุทรแปซิฟิก จึงมีสถานที่ท่องเที่ยวทางทะเลหลายแห่ง นอกจากนี้ยังมีที่เที่ยวเป็นวัดเก่าแก่หลายแห่งเช่นกัน ซึ่งล้วนแล้วแต่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์และเป็นรดกโลกอีกด้วย เราจะพาไปสัมผัสที่เด่นๆ เหล่านี้กัน

First Time Iwate Trip

1 วัดจูซนจิ (Chusonji Temple)

1 วัดจูซนจิ (Chusonji Temple)

https://pixta.jp

เริ่มต้นการท่องเที่ยวอิวาเตะจากเมืองมรดกโลกที่เมืองฮิราอิซึมิ (Hiraizumi) เมืองมรดกโลกทางวัฒนธรรมที่ประกอบไปด้วยวัด อาราม วิหารโบราณ สวนญี่ปุ่นที่ล้วนมีคุณค่าทางศาสนาหลายแห่ง ได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยองค์การ UNESCO เมื่อปี 2011 เราจะพาไปแนะนำวัดจูซนจิ (Chusonji Temple) หนึ่งในวัดของบริเวณฮิราอิซึมิ ตามด้วยวัดโมสึจิ (Motsuji Temple) ในหัวข้อถัดไป

วัดจูซนจิเป็นวัดเก่าแก่ที่ยังคงหลงเหลือวิหารทองคำไว้ให้รุ่นเราได้ชมเป็นบุญตา หลังจากที่อาคารและเจดีย์หลายหลังถูกทำลายลงเพราะสงครามโลกครั้งที่ 2 วิหารสีทองคำหรือ Konjikido คือไฮไลท์ของที่นี่นั่นเอง ซึ่งไม่สามารถเห็นได้หากไม่ไปดูด้วยตัวเอง เพราะทางวัดสร้างอาคารไม้สีขาวขนาดใหญ่ ครอบวิหารสีทองของจริงเอาไว้เพื่อป้องกันไม่ให้เสียหาย เมื่อก้าวเข้าไปในวิหาร เราจะสัมผัสได้ถึงสถาปัตยกรรมที่งดงามปราณีต ลวดลายละเอียดอ่อนที่ดูลงตัวไปหมด และแสงสีทองอร่ามที่ส่องประกายมาเข้าตาเรา ถัดไปที่น่าไปชมคือวิหารหลักของวัด ซึ่งเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปเก่าแก่ 3 องค์ที่ทำด้วยไม้และปิดองค์ด้วยทองสวยงาม นอกจากวิหารทั้ง 2 หลังแล้วก็ยังมีพิพิธภัณฑ์ที่รวบรวมเครื่องใช้ไม้สอยของตระกูลฟุจิวาระในสมัยก่อนไว้ชมด้วย และเมื่อย่างเข้าฤดูใบไม้ร่วง ที่วัดจูซนจิก็เป็นจุดชมใบไม้เปลี่ยนสีที่สำคัญแห่งหนึ่งของจังหวัดอิวาเตะ

เวลาทำการ
1 มีนาคม - 3 พฤศจิกายน 08.30 - 17.00 น.
4 พฤศจิกายน - กุมภาพันธ์ 08.30 - 16.30 น.
ค่าเข้าชม
ผู้ใหญ่ 800 เยน
นักเรียนมัธยมปลาย 500 เยน
นักเรียนมัธยมต้น 300 เยน
นักเรียนประถม 200 เยน
การเดินทาง
ขึ้นรถไฟสาย Tohoku Main Line ลงสถานี Hiraizumi จากนั้นต่อรถบัสประมาณ 5 นาที หรือเดินประมาณ 25 นาที

2 วัดโมสึจิ (Motsuji Temple)

2 วัดโมสึจิ (Motsuji Temple)

https://pixta.jp

วัดโมสึจิเป็นวัดพุทธนิกายเทนได (Tendai) ของเมืองฮิราอิซึมิ (Hiraizumi) ที่ขึ้นทะเบียนมรดกโลกอีกแห่งที่จะพูดถึง ก่อตั้งโดยพระอาจารย์เอ็นนิน (Ennin) เมื่อกว่า 1200 ปีมาแล้ว ระหว่างสมัยของฟุจิวาระ โมโตฮิระ (Fujiwara Motohira) ถึงสมัยของฟุจิวาระ ฮิเดฮิระ (Fujiwara Hidehira) แต่หลังจากตระกูลฟุจิวาระเสื่อมอำนาจลง อาคารส่วนใหญ่ของวัดก็ถูกเผา ไฟไหม้หมดเหลือเพียงวิหารหลัก แต่อย่างไรก็ตามสวนญี่ปุ่น Pure Land garden ที่อยู่ล้อมรอบสระ Oizumi ga Ike ก็เป็นสวนที่ยังคงสภาพของเดิมในสมัยเฮอันได้สมบูรณ์มากที่สุด ซึ่งสวนที่คงสภาพแบบออริจินัลไว้ได้แบบนี้มีเหลืออยู่ไม่กีแห่งในญี่ปุ่นแล้ว ชื่อสวนมีความหมายเป็นนัยยะถึงแผ่นดินอันบริสุทธิ์ของชาวพุทธหลังความตาย และสวนนี้เองที่เป็นดาวเด่นของวัดโมสึจิ ใครอยากเก็บภาพสวนสมัยเฮอันที่เก่าแก่ก็อย่าได้พลาดโอกาสนี้นะ

เวลาทำการ
08.30 - 17.00 น.
ค่าเข้าชม
ผู้ใหญ่ 500 เยน
นักเรียนมัธยมปลาย 300 เยน
นักเรียนประถม - มัธยมต้น 100 เยน
การเดินทาง
นั่งรถบัส Hiraizumi Loop Bus จากสถานี Hiraizumi /หรือเดินจากสถานี Hiraizumi ไปประมาณ 10 นาที

3 โจโดงาฮามะ (Jodogahama)

3 โจโดงาฮามะ (Jodogahama)

https://commons.wikimedia.org/wiki/File:Jyoudogahama.jpg

หลังจากสัมผัสมรดกโลกทางวัฒนธรรมที่สำคัญของอิวาเตะไปแล้ว ต่อไปก็ถึงคิวของทิวทัศน์ทางธรรมชาติสวยๆ กันบ้าง ใครที่ชอบถ่ายรูปสถานที่สวยงามน่าจะถูกใจกันไม่น้อย เราจะไปค้นหาที่วิวดีในอุทยานแห่งชาติซันริกุ ฟุคโค (Sanriku Fukko National Park) โดยเริ่มที่โจโดงาฮามะกันก่อน หาดโจโดงาฮามะนี้เป็นเหมือนแดนสวรรค์ของอิวาเตะเลยก็ว่าได้เพราะเป็นชายหาดที่งดยงามบริสุทธิ์ ทรายสีขาว ทะเลสีคราม ท้องฟ้ากระจ่าง มีหินสีขาวๆ หลายรูปทรงเรียงรายเป็นแถว

เราสามารถเลือกทำกิจกรรมที่หาดโจโดงาฮามะได้หลายอย่างเช่นว่ายน้ำ ดำน้ำชมความงามใต้ท้องทะเล หรือจะนั่งเรือชมตามเกาะแก่งทั้งหลาย มีคอร์สล่องเรือ Blue Cave Cruise ใช้เวลาชมวิว 20 นาที เขาจะพาไปชมเกาะหินต่างๆอย่างใกล้ชิด และพาไปลอดถ้ำสีฟ้า (Ao no Dokutsu) เป็นถ้ำขนาดเล็กที่มีน้ำทะเลสีฟ้าโคบอลต์สดใส และระหว่างทางก็สามารถให้อาหารนกนางนวลได้ด้วย

เวลาทำการ
เปิดตลอด
ค่าเข้าชม
ฟรี
ค่านั่งเรือชมวิวบนเรือ Blue Cave Cruise คนละ 1500 เยน
การเดินทาง
ขึ้นรถบัส Iwate Kenpoku Bus จากสถานี Miyako ไปลงป้ายสุดท้าย Jodogahama แล้วเดินต่อไปอีกประมาณ 10 นาที

4 คิตายามาซากิ (Kitayamazaki)

4 คิตายามาซากิ (Kitayamazaki)

https://ja.wikipedia.org/wiki/%E3%83%95%E3%82%A1%E3%82%A4%E3%83%AB:Kitayamasaki.jpg

มาที่คิตายามาซากิกันบ้าง หน้าผาหินนี้ก็อยู่ในอุทยานแห่งชาติซันริกุ ฟุคโค (Sanriku Fukko National Park) เช่นกัน หน้าผามีความสูง 200 เมตรและยาวขนานชายฝั่งทะเลประมาณ 8 กิโลเมตร โขดหินและเกาะเล็กเกาะน้อยต่างๆ มีรูปทรงหลากหลาย บางก้อนก็ถูกน้ำทะเลกัดเซาะจนกลายเป็นหินรูปร่างแปลกๆ มหัศจรรย์หลายจุดเลยทีเดียว มีหินอยู่ส่วนหนึ่งของหน้าผาที่ยื่นออกไปและถูกน้ำทะเลกัดเซาะจนกลายเป็นถ้ำ ตรงนี้ก็เป็นอีกจุดหนึ่งที่นักท่องเที่ยวให้ความสนใจ จะเช่าเรือนั่งไปชมก็มี หรือถ้าจะชมวิวจากจุดชมวิวก็ย่อมได้ หอชมวิวคิตายามาซากิ (Kitayamazaki Observatory) เป็นจุดชมวิวที่สามารถมองเห็นทิวทัศน์งดงามที่สุด

เวลาทำการ
เปิดตลอด
ค่าเช้าชม
ฟรี
การเดินทาง
ขึ้นรถไฟสาย Sanriku Railway Kita-Rias Line ไปลงสถานี Tanohata จากนั้นต่อรถบัส Sonmin Bus ไปลงป้าย Kitayamazaki แล้วเดินไปจุดชมวิว หรือจะไปท่าเรือเพื่อนั่งเรือชมวิวได้ตามอัธยาศัย

5 เกบิเค (Geibikei)

5 เกบิเค (Geibikei)

https://ja.m.wikipedia.org/wiki/%E3%83%95%E3%82%A1%E3%82%A4%E3%83%AB:Geibi-kei_(%E7%8C%8A%E9%BC%BB%E6%B8%93)_-_panoramio_-_Ocavis_Leechroot.jpg

เกบิเค (Geibikei) เป็นช่องแคบอยู่ระหว่างหุบเขาที่มีแม่น้ำอิวาอิ (Iwai) ไหลผ่าน อยู่ที่เมืองอิจิโนเซกิ (Ichinoseki) กิจกรรมที่นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่มาเที่ยวที่นี่ก็คือชมธรรมชาติ ถ่ายรูปสวยๆ และล่องเรือชมทัศนียภาพของหุบเขา เหมาะที่จะมาเที่ยวได้ตลอดทั้งปีเพราะภูมิทัศน์ของหุบเขาเกบิเคจะเปลี่ยนแปลงไปตามฤดูกาล ฤดูใบไม้ผลิมีดอกซากุระบานสะพรั่งให้ชมความงาม ฤดูร้อนเราจะได้เห็นความเขียวขจีของต้นไม้ที่ขึ้นตามแนวผาโดยรอบ ฤดูใบไม้ร่วงนั่งเรือชมใบไม้เปลี่ยนสี ฤดูหนาวเห็นหิมะขาวโพลนและน้ำแข็งเกาะสวยงามไปอีกแบบ จุดขายตั๋วเพื่อจะลงเรือก็อยู่ไม่ไกลจากสถานี ซื้อเสร็จก็ลงมาที่ท่าเรือเพื่อต่อคิวลงเรือ จะมีนายท่าจัดคิวให้ขึ้นไปลำละประมาณ 30 คน ระหว่างล่องเรือจะมีพวกนกเป็ดน้ำว่ายมา เราสามารถให้อาหารได้ เรือจะจอดแวะพักที่ถ้ำบิชามน (Bishamon) ตรงนี้เราสามารถโยนก้อนหินอธิษฐานให้เข้าไปในหน้าผาที่มีความเชื่อกันว่าคำอธิษฐานจะเป็นจริง มีภาษาไทยบอกว่าหินก้อนไหนใช้อธิษฐานเรื่องอะไรด้วยนะ

เวลาทำการ
เวลาให้บริการเรือเริ่มตั้งแต่ 08.30 - 16.30 น.
ค่าบริการเรือนั่งชมธรรมชาติ
ผู้ใหญ่ 1600 เยน
นักเรียนประถม 860 เยน
เด็กเล็ก (ตั้งแต่ 3 ขวบขึ้นไป) 200 เยน
อายุต่ำกว่า 3 ขวบ ฟรี
เรือออกเป็นรอบ รอบละ 90 นาที
การเดินทาง
ขึ้นรถไฟ Shinkansen Hayabusa จากโตเกียว มาลงสถานี Ichinoseki จากนั้นเปลี่ยนไปขึ้นสาย Ofunato Line ไปลงสถานี Geibikei แล้วเดินต่อไปอีกนิดก็ถึง

6 ถ้ำริวเซนโด (Ryusendo Cave)

6 ถ้ำริวเซนโด (Ryusendo Cave)

http://www.iwate-ryusendo.jp/

ที่เที่ยวทางธรรมชาติอีกแห่งที่จะพลาดไม่ได้เมื่อมาอิวาเตะคือถ้ำริวเซนโด ถ้ำนี้ติดอันดับถ้ำหินปูนที่ดีที่สุดและยาวที่สุดในญี่ปุ่น ถึงจะเป็นถ้ำแต่ภายในนั้นมีความปลอดภัยและเดินง่าย โดยถ้ำริวเซนโดมีความยาวลึกเข้าไปในภูเขาประมาณ 5000 เมตร เข้าสำรวจไปแล้วประมาณ 3500 เมตร แต่ส่วนที่เปิดให้บริการเข้าไปเที่ยวชมได้จะยาวแค่ประมาณ 700 เมตรเท่านั้น ภายในถ้ำเราจะเห็นหินงอกหินย้อยรูปร่างแปลกตา และเห็นน้ำสีฟ้าเข้มซึ่งเมื่อเปิดไฟก็จะยิ่งเห็นความสวยสว่างสดใสสะท้อนแสงออกมา น้ำสีฟ้านี้จะไหลไปรวมกันเป็นทะเลสาบใต้ดิน โดยมีจุดให้ชมใหญ่ๆอยู่ 3 จุดด้วยกัน

เวลาทำการ
ตุลาคม - เมษายน
08.30 - 17.00 น.
พฤษภาคม - กันยายน
08.30 - 18.00 น.
ค่าเข้าชม
ผู้ใหญ่ 1000 เยน
เด็กนักเรียน 500 เยน
การเดินทาง
จากสถานีชินกังเซ็น JR Morioka ขึ้นรถบัส JR Bus Tohoku สายที่จะไป Ryusendo

7 เมืองโมริโอกะ เที่ยวเทศกาลโมริโอกะซันสะ (Morioka Sansa Odori)

7 เมืองโมริโอกะ เที่ยวเทศกาลโมริโอกะซันสะ (Morioka Sansa Odori)

https://commons.wikimedia.org/wiki/File:Tohoku_Rokkonsai_Festival_2nd_Morioka_Sansa-Odori.jpg

หลังเที่ยวกับธรรมชาติกันเพลินพอสมควร เราก็เปลี่ยนมาเที่ยวในเมืองกันบ้าง โมริโอกะ (Morioka) เป็นเมืองหลวงของจังหวัดอิวาเตะ มีความเจริญรุ่งเรืองมาตั้งแต่ครั้งอดีต เป็นที่ๆเหมาะจะเป็นจุดพักเพราะเป็ฯเมืองใหญ่ มีชินกังเซ็น ร้านอาหาร โรงแรมมากมาย โดยจุดท่องเที่ยวสำคัญๆมีหลายแห่ง ที่เด่นๆก็สวนสาธารณะปราสาทโมริโอกะ เป็นสวนสาธารณะประจำเมืองที่เราจะได้ชมร่องรอยอารยธรรมที่เป็นซากของปราสาทโมริโอกะ (ซึ่งปัจจุบันเหลือเพียงแค่ส่วนที่เป็นกำแพงหิน) สวนนี้เป็นจุดชมซากุระและใบไม้เปลี่ยนสีที่สำคัญของชาวเมือง สามารถแวะมาพักผ่อนชมวิวได้ตามสบาย แต่ถ้ามีโอกาสมาเที่ยวในเดือนสิงหาคมก็จะได้เที่ยวงานเทศกาลโมริโอกะซันสะโอโดริ

เทศกาลโมริโอกะซันสะโอโดริ เป็นหนึ่งในเทศกาลที่ยิ่งใหญ่อลังการสุดของภูมิภาคโทโฮกุ จัดช่วงต้นเดือนสิงหาคมของทุกปี และแต่ละปีมีผู้เข้าชมมากกว่าล้านคน ได้รับการบันทึกลงกินเนสบุ๊กในปี 2007 ด้วยว่าเป็นเทศกาลที่ใช้กลองไทโกะเข้าร่วมมากที่สุดในโลก มีผู้แสดงกว่า 10,000 คน เดินพาเหรดกลองไทโกะและเต้นรำกันอย่างครึกครื้น มีหลายชุดการแสดงระบำ หลายขบวนพาเหรดที่สร้างสีสันให้กับงาน หากมีโอกาสอย่าลืมแวะมาเที่ยวกันนะ

เวลาทำการ
เทศกาลจัดช่วงต้นเดือนสิงหาคม (ประมาณวันที่ 1 - 4)
18.00 - 21.00 น.
ค่าเข้าชม
ฟรี
การเดินทาง
ขึ้น Tohoku Shinkansen ลงสถานี Morioka แล้วเดินไปยังสถานที่จัดงาน

8 อัปปิ โคเง็น สกี รีสอร์ต (Appi Kogen Ski Resort)

8 อัปปิ โคเง็น สกี รีสอร์ต (Appi Kogen Ski Resort)

https://commons.wikimedia.org/wiki/File:A_View_from_Appi_Gondola.jpg

ถ้ามีโอกาสมาเที่ยวอิวาเตะในช่วงฤดูหนาวก็ขอเชิญชวนให้ไปเล่นสกีกันที่ Appi Kogen Ski Resort ที่นี่เป็นสกีรีสอร์ตที่ใหญ่ติดอันดับต้นๆ ของญี่ปุ่นเลย การบริการและสิ่งอำนวยความสะดวกที่เกี่ยวกับสกีก็มีครบวงจร ทั้งโรงแรม ร้านอาหาร โรงเรียนสอนเล่นสกีและสโนว์บอร์ด ร้านให้เช่าอุปกรณ์สกี สามาถมาสนุกกันได้ทั้งครอบครัวเพราะมีลานสกีและสโนว์บอร์ดที่รองรับทุกวัย คนที่ชอบความท้าทายก็ไม่ผิดหวังเมื่อมาที่นี่เพราะมีเส้นทางสกีกว่า 45.1 กิโลเมตรให้ทดสอบความสามารถ

เวลาทำการ
ธันวาคม-พฤษภาคม
กลางวัน 08:30 - 16:00
กลางคืน 16:00 - 20:00
ค่าสกีลิฟท์
สำหรับตั๋วแบบ 1 วัน
ต้นธันวาคม และหลังมีนาเป็นต้นไป
ผู้ใหญ่ 3900 เยน
ผู้อาวุโส 3000 เยน
เด็ก 2600 เยน
ปลายธันวาคมจนถึงมีนา (ช่วงไฮซีซั่น)
ผู้ใหญ่ 5900 เยน
ผู้อาวุโส 4200 เยน
เด็ก 3600 เยน
การเดินทาง
ขึ้นรถไฟสาย JR Hanawa จากสถานี Morioka ไปลงสถานี Appi-Kogen แล้วขึ้นรถชัทเทิลบัสไปลง Appi Kogen Ski Resort

9 ฟาร์มโคอิวาอิ (Koiwai Farm)

9 ฟาร์มโคอิวาอิ (Koiwai Farm)

https://commons.wikimedia.org/wiki/File:Koiwai_Farm_Makiba-kan.jpg

เมื่อนึกถึงของฝากจากอิวาเตะก็ขอแนะนำให้ลองแวะมาซื้อผลิตภัณฑ์จากฟาร์มโคอิวาอิกัน เป็นฟาร์มขนาดใหญ่ที่ทำทั้งฟารม์ปศุสัตว์ ปลูกผักผลไม้ เลี้ยงวัว เลี้ยงแกะ และเลี้ยงม้าด้วยนะ ที่นี่มีกิจกรรมเด็ดๆ ให้ทำกันเยอะ เช่น กิจกรรมขี่ม้า ยิงธนู เก็บผักและผลไม้ในฟาร์มมาทำอาหารกันเอง ทำไอศกรีมแบบโฮมเมดชิมกันเอง เป็นต้น วิวธรรมชาติก็สวยงาม อากาศบริสุทธิ์เหมาะแก่การพักผ่อนกันทั้งครอบครัวเลย หลังเที่ยวฟาร์มเสร็จแล้วก็ลองอุดหนุนผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติที่อุดมไปด้วยคุณค่ามากมาย โดยเป็นแบรนด์ของฟาร์มโคอิวาอิเองด้วย แบรนด์ Koiwai Dairy Products ของฝากที่เหมาะจะซื้อติดไม้ติดมือไปฝากพรรคพวกก็คือผลิตภัณฑ์ตระกูลนม ชีสนี่ล่ะ

เวลาทำการ
09.00 - 17.30 น.
เปิดให้ชมในช่วงมีนาคมถึงกันยายน หยุดวันพฤหัสบดีของสัปดาห์ที่ 2 ในเดือนเมษายน
ค่าเข้าชม
ผู้ใหญ่ 400-800 เยน เปลี่ยนแปลงตามฤดูกาล
เด็ก 150-300 เยน เปลี่ยนแปลงตามฤดูกาล
การเดินทาง
ขึ้นรถบัส Iwateken Kotsu Bus สายที่จะไป Koiwai Nojo Makibaen/Amihari Onsen จากสถานี JR Morioka

know-before-you-go