3 เส้นทางปั่นจักรยานยอดฮิตในญี่ปุ่น
หากพูดถึงญี่ปุ่นเราจะนึกถึงศาลเจ้า ซากุระ ซูชิ เกอิชาฯลฯ แต่คุณรู้มั้ยว่าญี่ปุ่นมีอะไรมากกว่านั้น! หากใครที่เบื่อกับสถานที่ท่องเที่ยวเดิมๆที่อัดแน่นไปด้วยผู้คนลองหันมาขี่จักรยานดูสิ คุณอาจได้ประสบการณ์ที่น่าตื่นเต้นกว่าเดิม
By Chad Provost
http://www.kancycling.com/Noto/Noto.html
3. Tour De Noto (Ishikawa/Toyama)
ถ้าหากคุณอยากไปดื่มด่ำบรรยากาศในชนบทของญี่ปุ่นต้องนี่เลย Tour De Noto เส้นทางปั่นนี้เริ่มต้นจากเมือง Kanazawa ไปสิ้นสุดยังเมือง Toyama พาคุณไปชมรอบคาบสมุทร Noto ซึ่งเป็นคาบสมุทรที่ใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่น คุณจะได้ชมวิวชายทะเลอันสวยงามของจังหวัด Ichikawa ตลอดทั้งทริป อย่างไรก็ตามคอร์สนี้ไม่เหมาะกับมือสมัครเล่นเท่าไรนักเพราะแม้แต่ผู้ที่มีประสบการณ์ยังอาจต้องใช้เวลา 3-4 วันเต็มในการขี่ให้ครบระยะทาง 400 กิโลเมตรนี้ ถ้าคุณชอบขี่เป็นกลุ่มใหญ่ก็สามารถเข้าร่วมในการแข่ง Tour De Noto ที่จัดในเดือนกันยายนและมีผู้เข้าร่วมกว่าพันคนทุกปี
http://www.jnto.go.jp/eng/location/routes/g_route/golden_51.html
2. ทางเหนือของKyushu : จาก Usa ถึง Beppu (Oita)
หากคุณเป็นพวกไม่ชอบนั่งรถเดินทางไกลขอแนะนำให้คุณลองไปที่เกาะคิวชู ถนนเส้นนี้จะพาคุณจากเมือง Usa ไปยัง Beppu เมืองที่ขึ้นชื่อในด้านน้ำพุร้อนและรีสอร์ท ก่อนที่จะออกจากเมือง Usa อย่าลืมแวะไปที่ศาลเจ้าประจำเมือง ซึ่งเป็นสถานที่บูชา Hachiman เทพแห่งสงคราม หลังจากออกจาก Usa แล้วคุณมีระยะทางประมาณ 40 กิโลเมตรในการขี่จักรยานชมวิวก่อนเข้าเมือง Beppu อย่างไรก็ตามอย่าไปถึงมืดจนเกินไป ไม่งั้นคุณอาจจะพลาดชมสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญของเมืองนี้อย่าง บ่อนรกทั้งแปดของ Beppu หลังจากนั้นจึงค่อยไปใช้เวลาชิวๆในการแช่น้ำร้อน แช่บ่อทราย ของขึ้นชื่อของเมืองนี้
http://sheilaburt.com/tag/shimanami-kaido/
1. Shimanami Kaido (Hiroshima/Ehime)
เส้นทางปั่นที่ได้รับการกล่าวถึงโดยนักปั่นมากที่สุดในญี่ปุ่นคือ Shimanami Kaido เส้นทางนี้มีความยาวกว่า 70 กิโลเมตร และจะพาคุณจากจังหวัด Hiroshima ไปยังจังหวัด Ehime ใน Shikoku ถ้าคุณเคยปั่นจักรยานที่ญี่ปุ่นมาก่อนคุณจะรู้ว่าเส้นทางสำหรับขี่จักรยานในญี่ปุ่นนั้นค่อนข้างแคบ แต่Shimanami Kaido นั้นมีถนนและสะพานที่ตั้งขึ้นมาสำหรับนักปั่นและคนเดินเท้าโดยเฉพาะ ถนนดังกล่าวพาดผ่านเกาะเล็กๆถึงหกเกาะด้วยกัน ดังนั้นคุณสามารถปั่นได้อย่างสบายใจ รวมถึงสามารถแวะข้างทางเพื่อพักผ่อนและถ่ายรูปได้เรื่อยๆ โดยเฉพาะวิวทิวทัศน์อุทยานแห่งชาติ Seto และสะพาน Tatara หนึ่งในสะพานที่ใช้เคเบิลขึงที่ยาวที่สุดในโลก และถ้าหากคุณไม่อยากยกจักรยานขึ้นเครื่องบินมาญี่ปุ่น คุณสามารถเช่าจักรยานจากร้านเช่าร้านใดร้านหนึ่งที่มีอยู่ 14 ร้านตลอดเส้นทาง และถ้าคุณอยากจะค่อยๆปั่นไปชมวิวไปก็สามารถพักค้างคืนที่ที่ตั้งแคมป์หรือโรงแรมได้เช่นกัน
