รวมเมืองเล็กแต่สวยในญี่ปุ่นที่น้อยคนจะรู้จัก
5. มินามิโอกุนิ จังหวัดคุมาโมโตะ (Minamioguni, Kumamoto)
เมืองเล็กๆที่ตั้งอยู่บริเวณที่ราบสูงเชิงเขาอะโสะ (Aso) ในคุมาโมโตะและยังเป็นที่ตั้งของ คุโรคาวะออนเซ็น (Kurokawa Onsen) แหล่งออนเซ็นธรรมชาติที่ล้อมรอบไปด้วยบรรยากาศธรรมชาติกับชนบทที่สวยงามที่สุดแห่งหนึ่งในภูมิภาคคิวชู ที่นี่เคยได้รับรางวัล ทิวทัศน์สีเขียวที่สวยที่สุด "The most beautiful green sceneries" จากจังหวัดฟูกุโอกะ
นอกจากแหล่งออนเซ็นธรรมชาติหลายแห่ง ที่มินามิโอกุนิยังมีสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆที่น่าสนใจ เช่น น้ำตกเมโอโตะ (Meoto Waterfall) ซึ่งเป็นจุด Power Spot ที่เชื่อกันว่าถ้ามาขอพรเกี่ยวกับความรักที่น้ำตกแห่งนี้จะสมหวังกลับไป อีกทั้งยังมีขนมหวานท้องถิ่นกับสาเกท้องถิ่นที่มีชื่อเสียงให้ได้ลองชิมกันด้วย
การเดินทาง : จากสถานี Kumamoto เดินไปขึ้นรถบัสที่ Kumamoto Bus Terminal จะมีรถประจำทาง Kyushu Sanko ให้ขึ้นไปลงที่ป้าย Minamioguni town office ใช้เวลา 2 ชั่วโมง 30 นาที
หรือจากสถานี Kumamoto ให้ขึ้นรถไฟสาย Hohi Main Line ไปลงที่สถานี Uchinomaki ใช้เวลาประมาณ 1ชั่วโมง 10 นาที จากนั้นต่อรถแท็กซี่อีก 25 นาที ไปลงที่ Minamioguni
6. โอมาการิ จังหวัดอาคิตะ (Omagari, Akita)
เมืองโอมาการิเป็นเมืองหนึ่งในจังหวัดอาคิตะที่มีชื่อเสียงเรื่องงานเทศกาลดอกไม้ไฟ (Omagari Fireworks Festival) ที่ยิ่งใหญ่และมีชื่อเสียงมากที่สุดแห่งหนึ่งในญี่ปุ่นโดยมีการจัดต่อเนื่องมากว่า 100 ปี ทุกวันเสาร์สัปดาห์สุดท้ายเดือนสิงหาคมของทุกปี โดยมีนักประดิษฐ์ดอกไม้ไฟจากทั่วประเทศมารวมตัวเพื่อแข่งขันและประกวดดอกไม้ไฟนับหมื่นลูกในค่ำคืนวันงาน
ไม่เพียงแค่จุดเด่นเรื่องของเทศกาลดอกไม้ไฟเท่านั้น แต่ที่นี่มีบรรยากาศความเป็นชนบทที่สามารถมาท่องเที่ยวได้ทุกฤดู ซึ่งในฤดูใบไม้ผลิบริเวณริมแม่น้ำโอโมโนะ (Omono river) ที่จัดงานเทศกาลดอกไม้ไฟนี้ก็จะเต็มไปด้วยดอกซากุระสีชมพูบานสะพรั่งให้ได้ชมกัน
การเดินทาง : จากโตเกียวให้ขึ้นรถไฟสาย Akita Shinkansen ไปลงที่สถานี JR Omagari ได้โดยตรง ใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง 15 นาที หรือหากเริ่มต้นจากในจังหวัดอาคิตะ ให้ขึ้นรถไฟสาย Ou Main Line หรือ Tazawako Line ไปลงที่ สถานี JR Omagari
7. ชินโจ จังหวัดยามากาตะ (Shinjo, Yamagata)
ชินโจ เป็นเมืองเล็กๆในจังหวัดยามากาตะ ที่มีชื่อเสียงเรื่องงานคราฟท์และการทำเซรามิก บรรยากาศและที่ตั้งของเมืองอยู่ท่ามกลางธรรมชาติที่สวยงามทั้ง 4 ฤดูกาล ซี่งถือเป็นเสน่ห์ของเมืองนี้ นอกจากนี้ยังมีอาหารท้องถิ่นที่ขึ้นชื่อประเภทข้าว ผลไม้ และผลิตผลเกษตรกรรมของท้องที่หลายอย่าง
และในเดือนสิงหาคมทุกๆปี จะมีการจัดงานเทศกาลเก่าแก่ที่จัดต่อเนื่องมากว่า 250 ปี นั่นคือเทศกาล ชินโจมัตสึริ (Shinjo Matsuri) มีขบวนแห่มิโคะชิ (Mikoshi) หรือศาลเจ้าเคลื่อนที่และรถแห่ขนาดใหญ่หลายคัน พร้อมขบวนเต้นรำชิชิ-โอโดริ (Shishi-odori) ที่นักเต้นจะสวมหมวกเขากวาง ซึ่งเทศกาลนี้ได้รับการยกย่องให้เป็นมรดกทางวัฒนธรรมของญี่ปุ่นด้วย
การเดินทาง : จากโตเกียวให้ขึ้นรถไฟสาย Yamagata Shinkansen ไปลงที่สถานี JR Shinjo ได้โดยตรง ใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง 30 นาที