เดินป่าญี่ปุ่นที่เกาะยาคุชิมะ (Yakushima)
ยาคุชิมะ เป็นเกาะที่มีป่าไม้อุดมสมบูรณ์และมีความหลากหลายทางชีวภาพมากที่สุดแห่งหนึ่งจนถูกจดทุเบียนเป็นมรดกโลกทางธรรมชาติ มีเส้นทางท่องเที่ยวตามธรรมชาติหลายสาย มีทั้งน้ำตก ภูเขา และยังเป็นที่อยู่ของสัตว์ป่าจำนวนมากด้วย
เกาะยาคุชิมะ เป็นเกาะรูปทรงกลมที่อยู่ในเขตพื้นที่ในจังหวัดคาโกชิมะ โดยอยู่ห่างจากเกาะคิวชูไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ประมาณ 60 กิโลเมตร มีชาวเมืองอาศัยอยู่ราวๆ 13,000 คน ในหมู่บ้านเล็กๆ 2 แห่ง ตัวเกาะมีเส้นรอบวงความยาวประมาณ 132 กิโลเมตรและยอดเขามิยาโนะอุระ (Mt.Miyanoura) ที่มีความสูง 1,963 เมตร เป็นจุดที่สูงที่สุดบนเกาะ เกาะยาคุชิมะได้รับการคัดเลือกจากยูเนสโก้ (Unesco)ให้เป็นเป็นมรดกโลกทางธรรมชาติตั้งแต่ปี ค.ศ.1993
ถ้าใครเคยดูภาพยนตร์อนิเมชั่นของค่ายสตูดิโอจิบลิ เรื่องเจ้าหญิงโมโนโนเกะ (Mononoke-Hime) ที่ออกฉายเมื่อปี ค.ศ. 1997 คงจำได้ดีว่าอนิเมชั่นเรื่องมีฉากหลังเป็นป่าศักดิ์สิทธิ์ที่ปกคลุมไปด้วยมอส และต้นแบบของป่าศักดิ์สิทธิ์ที่ปรากฏในเรื่องก็ได้รับแรงบันดาลใจมาจากป่ามอสดึกดำบรรพ์บนเกาะยาคุชิมะนี่เอง
บนเกาะยาคุชิมะที่เต็มไปด้วยความหลากหลายทางธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ ความน่าสนใจของที่นี่คือป่าดงดิบซึ่งบรรยากาศภายในป่าจะมีสีเขียวสดเนื่องจากสภาพภูมิอากาศที่มีความชื้นสูงและฝนที่ตกลงมาตลอดทั้งปีแล้วก็ไม่ใช่เรื่องแปลกที่จะเห็นหิมะปกคลุมพื้นที่สูงในช่วงฤดูหนาว อีกทั้งยังมีต้นสนนับร้อยสายพันธุ์ซึ่งถูกปกคลุมด้วยหญ้ามอสสีเขียวขจีแถมยังมีอายุยาวนานนับพันปี หนึ่งในนั้นเป็นต้นสนอายุกว่า 7,000 ปี คาดว่าน่าจะเป็นต้นสนที่มีอายุมากที่สุดในญี่ปุ่น ชื่อว่า โจมงสุกิ (Jomonsugi) มีความยาวเส้นรอบวงถึง 16.1 เมตร, ความสูง 30 เมตร
ด้วยความที่จุดเด่นของเกาะคือธรรมชาติ กิจกรรมการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์จึงได้รับความนิยมมากจากนักท่องเที่ยวทั้งชาวญี่ปุ่นและชาวต่างชาติ โดยเฉพาะการเดินป่า ที่มีเส้นทางเดินป่าให้เลือกหลากหลายเส้นทางตามความต้องการของนักท่องเที่ยว โดยมีตัวอย่างเส้นทางเดินป่ายอดนิยมที่จะแนะนำสำหรับมือใหม่และนักเดินป่าที่พอมีประสบการณ์มาบ้าง ได้แก่
1. เส้นทางยาคุสุกิแลนด์ (Yakusugi Land Trail)
พื้นที่เดินป่านี้จะมี 4 เส้นทางย่อย ในเส้นทางนี้ ใช้เวลาในการเดิน ตั้งแต่ 30 นาที - 2 ชั่วโมงครึ่ง เหมาะสำหรับมือใหม่ (มีค่าบำรุงสถานที่ 300 เยน)
เส้นทางนี้เป็นเส้นทางยอดนิยม ซึ่งผู้ที่เพิ่งเริ่มเดินป่าก็สามารถเลือกเดินชมธรรมชาติอันยิ่งใหญ่ของต้นซีดาร์ตามระยะทางที่เหมาะสมกับสภาพร่างกายได้ นอกจากจะได้เห็นต้นซีดาร์อายุกว่า 1,000 ปีที่รายล้อมอยู่รอบตัว ก็ยังมีแม่น้ำสายใหญ่ไหลผ่านเส้นทางรวมถึงทิวทัศน์จากบนสะพานด้วย เรียกว่าเป็นบรรยากาศธรรมชาติที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้อย่างดีเลยทีเดียว
การเข้าถึง : นั่งรถบัสจากป้าย Anbou ไปที่ Yakusugi มีรถบัสให้บริการ 2 รอบต่อวัน ใช้เวลาเดินทางประมาณ 40 นาที
2. เส้นทางไปชมต้นสนเก่าแก่ โจมงสุกิ (Jomonsugi Trail)
เป็นเส้นทางสำหรับเดินไปชมต้นสนที่เก่าแก่ที่สุดและมีจุดที่ต้องปีนขึ้นเขาด้วย ใช้เวลาไป-กลับ ประมาณ 9-10 ชั่วโมง (มีค่าบำรุงสถานที่ 300 เยน)
โดยส่วนแรกของเส้นทางก็คือเส้นทางเดินป่าชื่ออาราคาวะ-โอคาบุ (Arakawa-Okabu Trail) ลักษณะเป็นทางรถไฟเก่าที่ใช้เพื่อขนไม้เมื่อราว 50 ปีที่แล้ว ตรงกลางรางมีแผ่นไม้วางเรียงไว้ให้เดินได้สะดวก หากเดินไปครึ่งทางจะพบกับวิวที่ได้รับความนิยมมากนั่นคือตอไม้ขนาดใหญ่ ที่เงยหน้ามองขึ้นไปจากด้านใน จะเห็นรอยตัดเป็นรูปหัวใจ
เส้นทางนี้เหมาะกับการเที่ยวแบบ 1 วันสำหรับนักท่องเที่ยวที่ชอบเดิน แต่ถ้าไม่มั่นใจในพละกำลังของตัวเอง แนะนำให้พักค้างคืนที่ Takatsuka lodge ตั้งอยู่ระหว่างทางที่มุ่งหน้าไปยังโจมงสุกิ ที่สำคัญคือต้องเตรียมอาหารและถุงนอนไปเองเพราะไม่มีเจ้าหน้าที่คอยดูแล
การเข้าถึง : เริ่มต้นที่ Miyanoura หรือ Anbou นั่งรถบัสไปยัง Yakusugi Shizenkan แล้วเปลี่ยนเป็นรถบัสสาย Tozan เพื่อไป Arakawa ให้ลงที่ป้าย Arakawa Tozan-guchi (จาก Yakusugi Shizenkan ไปยัง Arakawa Tozan-guchi ใช้เวลาประมาณ 40 นาที และหยุดให้บริการช่วงเดือนมกราคม-กุมภาพันธ์)
3. เส้นทางหุบเขาชิราทานิ-อุนซุยเคียว (Shiratani Unsui-kyo Gorge Trail)
พื้นที่นี้มี 3 เส้นทางย่อย โดยใช้เวลาตั้งแต่ 1-5 ชั่วโมง (มีค่าบำรุงสถานที่ 300 เยน)
สำหรับหุบเขาชิราทานิ-อุนซุยเคียว ก็เป็นอีกหนึ่งทิวทัศน์ที่งดงามน่าทึ่งราวกับอยู่ในภาพยนตร์ และที่นี่เองที่เป็นฉากต้นแบบของป่าในอนิเมชันเรื่องเจ้าหญิงโมโนโนเกะ ซึ่งทางผู้กำกับจากสตูดิโอจิบลิก็ได้แรงบันดาลใจมาจากที่แห่งนี้เอง
สำหรับผู้ที่เลือกเดินป่าเส้นทางนี้หากเตรียมร่างกายมาพร้อม ก็มีจุดชมวิวบนภูเขาที่จะแนะนำนั่นคือ ผาหินไทโกะ (Taiko Iwa) ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นจุดชมวิวที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งของเกาะด้วย
การเข้าถึง : จาก Miyanoura ถึงหุบเขา Shiratani Unsui-kyo มีรถบัสวิ่งให้บริการ 5 รอบต่อวัน ใช้เวลาเดินทางประมาณ 30 นาที
การเดินทางไปเกาะยาคุชิมะ : มี 3 วิธี นั่นคือ เดินทางโดยเครื่องบินภายในประเทศ, เรือเฟอร์รี่ และเรือด่วน
การเดินทางโดยเครื่องบิน จะมีเครื่องบินตรงจากสนามบินอิตามิโอซาก้า, สนามบินฟุกุโอกะ และสนามบินคาโกชิมา
จากสนามบินอิตามิในโอซาก้าไปยังสนามบินยาคุชิมะ
จำนวนเที่ยวบิน : 1 เที่ยว/วัน ใช้เวลาประมาณ 90 นาที
จากสนามบินฟุกุโอกะไปยังสนามบินยาคุชิมะ
จำนวนเที่ยวบิน : 1 เที่ยว /วัน ใช้เวลาประมาณ 60 นาที
จากสนามบินคาโกชิมาไปยังสนามบินยาคุชิมะ
จำนวนเที่ยวบิน : 4 เที่ยว /วัน ใช้เวลาประมาณ 35 นาที
กรณีที่ไม่ได้เริ่มต้นเดินทางมาจากโอซาก้าหรือฟุกุโอกะ ก็สามารถเดินทางไปยังจังหวัดคาโกชิมาก่อนแล้วต่อเครื่องบิน หรือเฟอร์รี่และเรือด่วนไปยังเกาะยาคุชิมะ
การเดินทางด้วยเรือเฟอรี่หรือเรือเร็ว : ให้ขึ้นรถบัสจากสนามบินคาโกชิมาไปที่ท่าเรือ ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง ตารางเวลาเดินเรืออาจเปลี่ยนแปลงตามฤดูกาลและมีการยกเลิกได้หากสภาพอากาศไม่ดี ดังนั้นในการเดินทางต้องวางแผนล่วงหน้าและสอบถามที่ปลายทางให้ทราบแน่ชัด ซึ่งที่เกาะยาคุชิมะจะมีจุดจอดเรือทั้งหมด 2 แห่ง
จากท่าเรือคาโกชิมาไปเกาะยาคุชิมะ: จะมีเรือเฟอร์รี่และเรือด่วนให้บริการ เรือเฟอร์รี่สำหรับเดินทางระหว่างท่าเรือคาโกชิมาและท่าเรือมิยาโนะอุระ (Miyanoura) บนเกาะยาคุชิมะ มีบริการไป-กลับวันละ 1 เที่ยว ใช้เวลาเดินทาง 4 ชั่วโมง
ในส่วนของเรือด่วน จะใช้เวลาเดินทางสั้นกว่าเรือเฟอร์รี่ โดยจะวิ่งให้บริการระหว่างท่าเรือคาโกชิมาและท่าเรือมิยาโนะอุระกับท่าเรืออัมโบ (Anbou) วิ่งให้บริการไป-กลับวันละ 6 รอบ ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 50 นาที
การเดินทางภายในเกาะยาคุชิมะ : จะมีรถบัสประจำทางโดย 2 บริษัทผู้ให้บริการ คือ Matsubanda Kotsu และ Tanegashima Yakushima Kotsu เริ่มวิ่งตั้งแต่เวลา 04.10 น. จนถึงเที่ยวสุดท้าย 19.30 น. ราคาขึ้นอยู่กับระยะทาง
ข้อควรระวัง : เนื่องจากเกาะยะคุชิมะมีฝนตกหนักตลอดทั้งปี และแม้จะอยู่ทางใต้แต่ในช่วงฤดูหนาวก็มีหิมะด้วย ทำให้รถบัสอาจจะหยุดให้บริการในช่วงนี้จึงควรตรวจสอบตารางเดินรถก่อนการเดินทาง