10 จุดชมใบไม้เปลี่ยนสีในภาคกลางญี่ปุ่น (จูบุ)
6. หุบเขาคุโรเบะ จังหวัดโทยามา (Kurobe Gorge, Toyama)
หุบเขาคุโรเบะ ตั้งอยู่ในป่าทางทิศเหนือของเทือกเขาแอลป์ญี่ปุ่น ซึ่งในฤดูใบไม้ร่วงก็จะมีขบวนรถไฟท่องเที่ยวสำหรับบริการชมวิวใบไม้เปลี่ยนสีท่ามกลางธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ เรียกว่ารถไฟ Torokko สาย Kurobe Gorge Railway โดยมีระยะทางราว 20 กิโลเมตร ใช้เวลาทั้งสิ้น 1 ชั่วโมง 20 นาที เป็นขบวนรถไฟแบบ open-air ที่นักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสบรรยากาศธรรมชาติอย่างใกล้ชิดมากที่สุด
เวลาทำการ : 08.00-16.30 น.(รถไฟเที่ยวสุดท้ายออกเวลา 15.40 น.)
ค่าเข้าชม : ค่าโดยสารรถไฟสายหุบเขาคุโรเบะ(Kurobe Gorge Railway) แบบเที่ยวเดียวไปยัง Keyakidaira ราคา 1,710 เยน
การเดินทาง : จากสถานี Tokyo ขึ้นรถไฟสาย Hokuriku Shinkansen ไปลงที่สถานี Kurobe Unazuki Onsen ใช้เวลา 3 ชั่วโมง แล้วเดินไปต่อรถไฟที่สถานี Shin-Kurobe Station ไปลงที่ Unazuki Onsen Station จากที่นี่จะต่อรถไฟสายท่องเที่ยว Kurobe Gorge Railway ได้
7. สวนเคนโรคุเอ็น คานาซาวะ จังหวัดอิชิคาวะ (Kenrokuen Garden Kanazawa, Ishikawa)
สวนเคนโรคุเอ็น คือสวนสาธารณะในใจกลางเมืองคานาซาวะและ เป็น 1 ใน 3 สวนที่สวยที่สุดในญี่ปุ่นอีกด้วย เมื่อถึงฤดูใบไม้ร่วง สวนพฤกษชาติที่เต็มไปด้วยต้นไม้แห่งนี้ก็จะเข้าสู่บรรยากาศของทิวทัศน์ใบไม้เปลี่ยนสีไปทั่วทั้งสวน ในช่วงเดือนพฤศจิกายน นอกจากจะได้ชมวิวใบไม้เปลี่ยนสีแล้วก็จะได้เพลิดเพลินกับพื้นที่ในสวนที่มีทั้งสระน้ำ น้ำตกและร้านน้ำชาด้วย
เวลาทำการ : 08.00-17.00 น.
ค่าเข้าชม : 310 เยน
การเดินทาง : จากสถานี Kanazawa ขึ้นรถบัสสาย Hokutetsu Bus ไปลงที่ป้าย Kenroku-en Shita ใช้เวลา 15 นาที จากนั้นเดินต่ออีกประมาณ 2 นาที
8. สวนสาธารณะซากปราสาทอุเอดะ จังหวัดนากาโนะ (Ueda Castle Ruin Park, Nagano)
สวนสาธารณะซากปราสาทอุเอดะ (Ueda Castle Ruin Park) อีกหนึ่งจุดชมใบไม้เปลี่ยนสีที่น่าสนใจในนากาโนะ ซึ่งในเดือนพฤศจิกายนบรรยากาศในสวนและพื้นที่รอบๆ ปราสาทไม้ญี่ปุ่นโบราณหลังนี้ก็จะเต็มไปด้วยทิวทัศน์ของใบไม้สีแดง ส้ม เหลืองสดใส และในตอนกลางคืนก็จะมีงานประดับไฟ (Light up) อย่างสวยงามซึ่งในงานก็จะมีการออกร้านขายอาหาร ขนมแบบท้องถิ่น ให้ได้เลือกชิมกันอย่างจุใจด้วย
เวลาทำการ : ตลอดทั้งวัน
ค่าเข้าชม : ฟรี
การเดินทาง : จากสถานี Tokyo ขึ้นรถไฟ Hokuriku Shinkansen ไปลงที่สถานี Ueda ใช้เวลาประมาณ 90 นาที จากนั้นเดินไปยังสวนสาธารณะซากปราสาทอุเอดะ ใช้เวลาประมาณ 10 นาที
9. ทะเลสาบคาวากูชิโกะ จังหวัดยามานาชิ (Lake Kawaguchiko, Yamanashi)
หนึ่งในห้าทะเลสาบที่ล้อมรอบภูเขาไฟฟูจิเอาไว้ สามารถเดินทางจากโตเกียวได้อย่างสะดวกทั้งแบบเดย์ทริปหรือวางแผนค้างคืน เมื่อถึงฤดูใบไม้ร่วงที่นี่ก็จะเป็นจุดชมใบไม้เปลี่ยนสีที่สามารถมองเห็นวิวภูเขาไฟฟูจิไปพร้อมๆกันได้อย่างสวยงาม จึงเป็นอีกหนึ่งจุดชมวิวที่ได้รับความนิยมมากจากนักท่องเที่ยวในช่วงที่ใบไม้เปลี่ยนสีกลางเดือนพฤศจิกายน
เวลาทำการ : 09.00–17.00 น.
ค่าใช้จ่าย : ฟรี
การเดินทาง : นั่งรถไฟ JR สาย Chuo line ไปลงที่สถานี Otsuki จากนั้นเปลี่ยนไปนั่งรถไฟสาย Fujikyu Railway ไปลงที่สถานี Kawaguchiko ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง 30 นาที
หรือจากสถานี Shinjuku นั่งรถบัสไปยังสถานี Kawaguchiko ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาที
10. หุบเขาโชเซ็นเคียว จังหวัดยามานาชิ (Shosenkyo Gorge, Yamanashi)
หุบเขาโชเซนเคียว ตั้งอยู่ในเมืองโคฟุ (Kofu) เมืองเอกของจังหวัดยามานาชิ สำหรับการเดินทางไปชมวิวใบไม้เปลี่ยนสีช่วงปลายเดือนตุลาคม-กลางเดือนพฤศจิกายนที่นี่ ก็จะเริ่มต้นที่สถานีรถบัส Shosenkyo Taki Ue ซึ่งเชื่อมต่อกับสถานีโรปเวย์โชเซนเคียว ระหว่างทางบนโรปเวย์ก็จะได้พบกับทิวทัศน์อันงดงามของเทือกเขาแอลป์ทางตอนใต้ของญี่ปุ่น หากวันไหนที่ท้องฟ้าโปร่งก็อาจจะมองเห็นภูเขาไฟฟูจิได้เลยทีเดียว
เวลาทำการ : 09.00-17.30 น.(เดือนธันวาคม-มีนาคม ปิด 16.30 น.)
ค่าเข้าชม : มีค่าขึ้นโรปเวย์ เที่ยวเดียว 650 เยน, ไป-กลับ 1,200 เยน
การเดินทาง : จากสถานี Shinjuku ให้ขึ้นรถบัส highway bus ที่ Keio Highway Bus Terminal ไปลงสถานี Kofu ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง 10 นาที จากนั้นให้ต่อรถบัส (มีรถออกทุกๆ 1-2 ชั่วโมง) ไปลงที่สถานีปลายทาง Shosenkyo Taki Ue ใช้เวลา 50 นาที ซึ่งสถานีนี้จะเชื่อมต่อกับสถานีโรปเวย์สำหรับชมวิวใบไม้เปลี่ยนสี