10 ที่เที่ยวไม่ควรพลาดเมื่อไปเยือนคุมาโมโตะ
6. พิพิธภัณฑ์ศิลปะชิมาดะ (Shimada Museum of Art)
ตั้งอยู่ในพื้นที่บริเวณบ้านส่วนตัวของ ชิมาดะ มาโตมิ (Shimada Matomi) นักอนุรักษ์โบราณวัตถุชาวญี่ปุ่น ภายในเป็นพื้นที่จัดแสดงหลายอย่างรวมถึงเรื่องราวของนักดาบชื่อดัง มิยาโมโตะ มูซาชิ (Miyamoto Musashi) ไม่ว่าจะเป็นโบราณวัตถุรวมถึงงานศิลปะที่เกี่ยวข้องกับมูซาชิ เช่น อาวุธต่างๆที่เขาเคยใช้ นอกจากนี้ยังมีการจัดนิทรรศการศิลปะแบบหมุนเวียน และมีอาร์ตแกลอรี่กับคาเฟ่สำหรับบริการนักท่องเที่ยวด้วย
เวลาทำการ : 10.00-17.00 น. หยุดทุกวันอังคาร และช่วงปีใหม่ 31 ธ.ค.-1 ม.ค.
ค่าเข้าชม : ผู้ใหญ่ 700 เยน, นักศึกษามหาวิทยาลัยและเด็กมัธยมปลาย 400 เยน, เด็กมัธยมต้นและเด็กประถม 200 เยน
การเดินทาง : จากสถานี JR Kumamoto ขึ้นรถราง Kumamoto City Tram Guide สาย A หรือ B ไปลงที่ Bus Center จากนั้นต่อรถบัสสาย Araohashi ไปลงที่ป้าย Jikei Byoin-mae แล้วเดินต่ออีก 3 นาที
7. ศาลเจ้าข้างปราสาท คุมาโมโตะอินาริ (Kumamoto Inari Shrine)
ศาลเจ้านิกายชินโตขนาดเล็ก โดยเชื่อกันว่าศาลเจ้าแห่งนี้สร้างขึ้นเพื่อคุ้มครองปราสาทคุมาโมโตะจากสิ่งชั่วร้าย ส่วนใหญ่ผู้คนที่เดินทางมาก็มักจะขอพรในเรื่องเกี่ยวกับการเกษตร พืชผล และธุรกิจให้ประสบความสำเร็จ โดยเฉพาะช่วงเทศกาลประจำปีในเดือนกุมภาพันธ์ของทุกปีที่ชื่อว่า Hatsu Uma Taisai แต่ละปีจะมีผู้คนมาร่วมงานจำนวนมาก
เวลาทำการ : 06.00-18.00 น.
ค่าเข้าชม : ฟรี
การเดินทาง : จากสถานี JR Kumamoto นั่งรถราง Kumamoto City Tram Guide สาย A หรือ B ไปลงที่สถานี Torichosuji จากนั้นเดินต่อประมาณ 3 นาที
8. สวนซุยเซนจิ (Suizenji Jojuen)
เป็นสวนสไตล์ญี่ปุ่นขนาดใหญ่ที่สวยงามติดอันดับ 1 ใน 3 ของสวนญี่ปุ่นที่ควรค่าแก่การไปเยือน ภายในสวนมีทั้งสนามหญ้า ต้นไม้ ดอกไม้ ทะเลสาบที่มีปลาคาร์ฟหลากสีสัน รวมทั้งสัตว์อื่นๆที่อาศัยอยู่ เช่น นกกระยาง ฝูงเป็ด และมีศาลเจ้าที่สามารถเดินเข้าไปขอพรได้ด้วย
เวลาทำการ : เดือนมีนาคม - พฤศจิกายน 07.30-18.00 น., เดือนธันวาคม - กุมภาพันธ์ 08.30-17.00 น.
ค่าเข้าชม : ผู้ใหญ่ 400 เยน, เด็ก 200 เยน
การเดินทาง : จากสถานี JR Kumamoto นั่งรถราง Kumamoto City Tram Guide สาย A ไปลงที่ สถานี Suisenji-Koen แล้วเดินต่ออีก 3 นาที
9. หุบเขาคิคุจิ (Kikuchi Gorge)
หนึ่งในหุบเขาที่มีทิวทัศน์สวยงามและมีน้ำตกในพื้นที่หุบเขาติด 1 ใน 100 อันดับน้ำตกที่สวยที่สุดในญี่ปุ่น น้ำในลำธารที่ต้นกำเนิดมาจากปล่องภูเขาไฟอะโสะยาวประมาณ 4 กิโลเมตร และเป็นน้ำที่เย็นตลอดทั้งปี จึงกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวพักผ่อนในฤดูร้อนของชาวญี่ปุ่นและบรรดานักท่องเที่ยว นอกจากนี้ยังเป็นจุดสำหรับเดินป่าดูนกที่ได้รับความนิยมมากด้วยเพราะมีนกป่าอาศัยอยู่หลากสายพันธุ์
เวลาทำการ : เปิดเฉพาะช่วงเดือนเมษายน-พฤศจิกายน ตั้งแต่เวลา 8.30-17.00 น.
ค่าเข้าชม : ฟรี แต่มีกล่องรับบริจาคสนับสนุนการดำเนินงาน (ควรบริจาค 100 เยน)
การเดินทาง: เช่ารถจะสะดวกที่สุด หากจะไปด้วยรถสาธารณะ จากสถานี JR Kumamoto นั่งรถบัส Kumamoto Dentetsu Bus ไปยังป้าย Kikuchi จากนั้นต้องนั่งแท็กซี่ต่อ
10. บ้านนัทสึเมะ โซเซกิ (Natsume Soseki Memorial Hall)
สถานที่สำหรับระลึกถึง นัทสึเมะ โซเซกิ (Natsume Soseki) นักเขียนผู้ทรงอิทธิพลในแวดวงวรรณกรรมของญี่ปุ่น ชาวญี่ปุ่นและผู้ชื่นชอบวรรณกรรมญี่ปุ่นรู้จักดี และที่สำคัญเขาคือบุคคลที่มีภาพอยู่บนธนบัตร 1,000 เยน ของญี่ปุ่นด้วย
นัทสึเมะ โซเซกิ เคยเป็นครูสอนหนังสืออยู่ที่คุมาโมโตะราวๆ 4 ปี อีกทั้งลูกสาวคนโตของเขาก็เกิดที่บ้านหลังนี้ ปัจจุบันภายในบ้านมีการเปิดให้เข้าชมห้องแบบญี่ปุ่นและต้นฉบับหนังสือที่ถูกตีพิมพ์ครั้งแรกของ นัทสึเมะ โซเซกิ
เวลาทำการ : 09.30-16.30 น. หยุดวันจันทร์ และช่วงปีใหม่ 29 ธันวาคม-3 มกราคม
ค่าเข้าชม : ผู้ใหญ่ 200 เยน , เด็ก 100 เยน
การเดินทาง: จากสถานี JR Kumamoto ขึ้นรถราง Kumamoto City Tram Guide สาย A ไปลงที่ Kotsu Bus Center จากนั้นต่อรถบัสหมายเลข 1 หรือ 3 ไปลงที่ป้าย Tsuboibashi แล้วเดินต่ออีก 3 นาที