All About Japan

10 ที่เที่ยวที่ไม่ควรพลาดใน "โอกินาว่า"

ที่พัก ชายฝั่ง ชายทะเล เกาะ แผนการการเดินทาง ทะเลญี่ปุ่น รีสอร์ท Okinawa

โอกินาว่า (Okinawa) คือจังหวัดที่เป็นหมู่เกาะเล็กๆ จำนวนมากมาย ซึ่งมีความยาวกว่า 100 กิโลเมตร เต็มไปด้วยชายหาดอันสวยงามมากมายและได้รับความนิยมทั้งจากชาวญี่ปุ่นและชาวต่างชาติ คนไทยเองก็เริ่มรู้จักเมืองนี้มากขึ้นหลังมีสายการบินโลว์คอสต์เปิดเที่ยวบินตรงจากกรุงเทพ วันนี้เราขอแนะนำ 10 ที่เที่ยวที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาเยือนโอกินาว่า

1. พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำชูราอุมิ (Okinawa Churaumi Aquarium)

1. พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำชูราอุมิ (Okinawa Churaumi Aquarium)

พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำชูราอุมิ เป็นพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของประเทศญี่ปุ่น และยังเคยเป็นพิพิธสัตว์น้ำที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลกมาจนถึงในปี 2005 (ปัจจุบันเป็นอันดับที่ 3)

พื้นที่ภายในจัดแสดงความหลากหลายของระบบนิเวศน์ใต้ท้องทะเลโอกินาว่าด้วยสัตว์น้ำนานาชนิด โดยแบ่งออกเป็น 3 โซนหลักๆ ประกอบไปด้วยโซนสัตว์น้ำและปะการัง ซึ่งสามารถสัมผัสกับปลาดาวชนิดต่างๆได้อย่างใกล้ชิด โซนแทงค์น้ำคุโรชิโอะ แทงค์น้ำขนาดยักษ์ที่เปรียบเสมือนไฮไลท์สำคัญของพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ ด้วยการจัดแสดงโลกใต้น้ำที่จำลองมาจากทะเลจริงๆในแถบโอกินาว่า ใส่ลงในแทงค์น้ำขนาดมหึมา มีพระเอกคือฉลามวาฬขนาดยักษ์ที่แหวกว่ายให้ชมได้อย่างเต็มตา ห้อมล้อมไปด้วยสัตว์น้ำอีกหลากหลายสายพันธุ์ ปิดท้ายด้วยโซนโลกใต้ท้องทะเลลึก ที่ทุกคนจะได้พบกับบรรดาสัตว์น้ำหายากต่างๆที่อาศัยอยู่ลึกลงไปใต้ทะเล

การเดินทาง : จากสนามบินสามารถขึ้นรถบัสสายตรงได้หลายสาย เช่นสาย 5, 7, 101, 117 หรือ Airport Limousine ไปลงที่ป้าย Kinen Koen Mae (Okinawa Churaumi) โดยใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงกับอีก 15-30 นาที
ค่าเข้าชม : 1,850 เยน
เวลาเปิดทำการ :
เดือนตุลาคม – กุมภาพันธ์ เปิดทำการเวลา 08.30 – 18.30 น.
เดือนมีนาคม – กันยายน เปิดทำการเวลา 08.30 – 20.00 น.

2. ปราสาทชูริ (Shuri Castle)

2. ปราสาทชูริ (Shuri Castle)

สถานที่ท่องเที่ยวในโอกินาว่าไม่ได้มีแต่ชายหาดและท้องทะเลสวยๆเพียงเท่านั้น แต่โอกินาว่ายังมีสถานที่เที่ยวสำคัญอีกหนึ่งแห่ง ที่เป็นปราสาทและพระราชวังเก่าแก่ซึ่งเปรียบเสมือนสัญลักษณ์ของเมือง และยังสะท้อนให้เห็นถึงความรุ่งเรืองในอดีตเมื่อครั้งที่โอกินาว่ายังเป็น ”อาณาจักรริวกิว” อาณาจักรซึ่งมีบทบาทสำคัญทางด้านการค้าทางทะเลในยุคกลางของเอเชียตะวันออกเป็นอย่างมาก

อาณาจักรริวกิวได้รับอิทธิพลหลายด้านมาจากประเทศจีน ทำให้ปราสาทชูริแห่งนี้มีหน้าตาเหมือนพระราชวังของจีน ซึ่งแตกต่างจากรูปแบบของปราสาทอื่นๆในประเทศญี่ปุ่น ตัวปราสาทเดิมถูกสร้างขึ้นในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 14 แต่ได้ถูกทำลายลงในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ปราสาทที่เห็นในปัจจุบันเป็นของที่ถูกบูรณะขึ้นใหม่ โดยเพิ่งจะเสร็จสมบูรณ์เมื่อปี 1992 นี่เอง

การเดินทาง : โดยสารรถไฟโมโนเรลไปลงที่สถานี “Shuri” จากนั้นเดินต่ออีกประมาณ 15 นาที
ค่าเข้าชม : 820 เยน สำหรับผู้ใหญ่
เวลาเปิดทำการ :
เดือนเมษายน – มิถุนายน 08.30 – 19.00 น.
เดือนกรกฎาคม – กันยายน 08.30 – 20.00 น.
เดือนตุลาคม – พฤศจิกายน 08.30 – 19.00 น.
เดือนธันวาคม – มีนาคม 08.30 – 18.00 น.

3. หาดมันสะ (Manza Beach)

3. หาดมันสะ (Manza Beach)

https://www.flickr.com/photos/london/3744441901/

คราวนี้ก็ถึงเวลาแนะนำชายหาดสวยๆในโอกินาว่ากันบ้าง โดยชายหาดแห่งแรกที่อยากแนะนำก็คือ ”หาดมันสะ” ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโรงแรม ANA InterContinental Manza Beach Resort ตั้งอยู่บริเวณตอนกลางของเกาะโอกินาว่า

มีลักษณะเป็นแผ่นดินเล็กๆยื่นออกไปในทะเล จึงทำให้มีบรรยากาศที่ค่อนข้างเป็นส่วนตัว และเนื่องจากชายหาดสวยๆหลายแห่งในโอกินาว่านั้นถือเป็นพื้นที่ส่วนตัวของรีสอร์ทและโรงแรมต่างๆในบริเวณใกล้เคียง หลายที่จึงอาจมีการเก็บค่าเข้าชมชายหาดเพิ่มเติมจากทางโรงแรม แต่สำหรับชายหาดมันสะนั้นนักท่องเที่ยวทุกคนสามารถแวะมาสนุกกันได้ฟรี และยังมีเครื่องเล่นทางน้ำหรือสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆให้บริการเพิ่มเติมอีกด้วย

การเดินทาง : ขึ้นรถบัส Airport limousine จากสนามบินนาฮา มาลงที่ ANA Intercontinental Manza Beach Resort
ค่าเข้าชม : เข้าชมฟรี
เวลาเปิดทำการ : 09.00 – 18.30 น.

4. หาดนิราอิ (Nirai Beach)

4. หาดนิราอิ (Nirai Beach)

ชายหาดยอดนิยมในโอกินาว่าอันดับถัดมาก็คือ “หาดนิราอิ” ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโรงแรม Nikko Alivila มีลักษณะเป็นชายหาดสีขาวความยาว 400 เมตร จุดเด่นของชายหาดแห่งนี้คือความใสและคุณภาพของน้ำที่ได้รับการประเมินให้เป็นระดับ AA หรือระดับคุณภาพน้ำที่ดีที่สุดจากกระทรวงทรัพยากรประเทศญี่ปุ่น และมีแนวปะการังใกล้ชายฝั่งซึ่งสามารถดำน้ำแบบสน็อกเกิลเพื่อชมความสวยงามได้อย่างใกล้ชิด

นอกจากนี้หาดนาราอิยังเป็นชายหาดที่สามารถชมวิวพระอาทิตย์ตกได้สวยงามเป็นอันดับต้นๆของโอกินาว่า และนักท่องเที่ยวสามารถแวะมาเยือนได้โดยไม่มีการเก็บค่าเข้าชมจากทางโรงแรม ทั้งหมดนี้จึงทำให้ชายหาดแห่งนี้กลายเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมอย่างมากบนเกาะโอกินาว่า

การเดินทาง : ขึ้นรถบัส Airport limousine จากสนามบินนาฮา มาลงที่โรงแรม Nikko Alivila
ค่าเข้าชม : เข้าชมฟรี
เวลาเปิดทำการ : 09.00 – 18.30 น.

5. หาดมูนบีช (Moon Beach)

5. หาดมูนบีช (Moon Beach)

หาดมูนบีชนั้นเป็นส่วนหนึ่งของโรงแรม Moon beach หนึ่งในโรงแรมที่เก่าแก่ที่สุดของโอกินาว่า ชายหาดส่วนตัวของโรงแรมนี้มีความยาว 150 เมตร เมื่อมองลงมาจากด้านบนจะเห็นเป็นรูปทรงพระจันทร์เสี้ยว โอบล้อมด้วยอาคารทั้งสองปีกของตัวโรงแรม ทำให้มีความเป็นส่วนตัวอย่างมาก จุดเด่นของชายหาดแห่งนี้คือการผสมผสานระหว่างความงดงามของน้ำทะเลและชายหาด เข้ากับบรรยากาศอันเป็นเอกลักษณ์ของตัวโรงแรม ซึ่งทางโรงแรมก็ได้มีการจัดเครื่องเล่นและสิ่งอำนวยความสะดวกเอาไว้ให้พร้อม ทำให้เหมาะทั้งสำหรับคนที่ต้องการเพลิดเพลินไปกับกิจกรรมสนุกต่างๆริมชายหาด และผู้ที่ต้องการดื่มด่ำความงามของท้องทะเลโอกินาว่าอย่างใกล้ชิดและเป็นส่วนตัว

การเดินทาง : ขึ้นรถบัส Airport limousine จากสนามบินนาฮา มาลงที่โรงแรม Moon Beach
ค่าเข้าชม : หาดส่วนตัวของโรงแรม มีค่าเข้า 500 เยน (ฟรีสำหรับผู้เข้าพัก)
เวลาเปิดทำการ : 24 ชั่วโมง

6. โคคุไซโดริ ถนนสายช้อปปิ้ง (Kokusai Dori)

6. โคคุไซโดริ ถนนสายช้อปปิ้ง (Kokusai Dori)

https://www.flickr.com/photos/tony926/24657593720/

ต่อจากชายหาดสวยๆ คราวนี้ก็ถึงเวลาของสถานที่ช้อปปิ้งที่ขึ้นชื่อที่สุดของเกาะโอกินาว่ากันบ้าง นั่นก็คือถนนโคคุไซ-โดริ (ชื่อแปลว่า ถนนนานาชาติ) ที่นี่คือถนนสายช้อปปิ้งที่มีความยาวประมาณ 2 กิโลเมตร เริ่มต้นตั้งแต่บริเวณสถานีรถไฟโมโนเรล Makishi ไปจนถึงหน้าศาลาว่าการจังหวัด และสถานีรถบัส Naha

โดยตลอดทั้งสองฟากฝั่งของถนนสายนี้จะเต็มไปด้วยร้านอาหาร คาเฟ่ ร้านขายของ สถานบันเทิง ห้างสรรพสินค้า และโรงแรม มีจุดที่น่าสนใจอย่างเช่น ตลาดเฮวะโดริ (Heiwadori) ซึ่งเป็นถนนคนเดินที่จำหน่ายสินค้าท้องถิ่นหลากหลายรูปแบบ

สำหรับใครที่ยังติดใจพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำชูรามิ ที่ถนนสายนี้ก็ยังมีร้านจำหน่ายของที่ระลึก พร้อมกับมีโซนจัดแสดงสัตว์น้ำขนาดเล็กเพื่อสร้างบรรยากาศอีกด้วย และที่พลาดไม่ได้ก็คือการตระเวนเดินชิมอาหารท้องถิ่นโอกินาว่าหลากหลายชนิดตามแผงลอยและร้านอาหารต่างๆบนถนนเส้นนี้

การเดินทาง : โดยสารรถไฟโมโนเรลไปลงได้ที่หลายสถานี เช่นสถานี Kenchō-mae(Prefectural Office) หรือสถานี Makishi
ค่าเข้าชม : เข้าชมฟรี
เวลาเปิดทำการ : ต่างกันไปแล้วแต่ร้านค้า ร้านส่วนใหญ่เปิดทำการตั้งแต่ช่วงสายๆของวันเหมือนห้างสรรพสินค้า แต่จะคึกคักเป็นพิเศษตั้งแต่ช่วงเย็นเป็นต้นไป

7. หมู่บ้านอเมริกันมิฮามะ (Mihama American Village)

7. หมู่บ้านอเมริกันมิฮามะ (Mihama American Village)

https://www.flickr.com/photos/u-suke/5400535522/

นอกจากถนนโคคุไซ ในเมืองโอกินาว่ายังมีสถานที่ช้อปปิ้งและสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจอีกหนึ่งแห่ง คือหมู่บ้านอเมริกันมิฮามะ โดยแรกเริ่มเดิมทีนั้นหมู่บ้านแห่งนี้เป็นหมู่บ้านของทหารอเมริกันที่เข้ามาตั้งถิ่นฐานระหว่างการยึดครองหมู่เกาะโอกินาว่าในช่วงสงครามโลก จนในภายหลังถูกพัฒนาให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวซึ่งมีทั้งร้านอาหาร คาเฟ่ โรงหนัง และร้านค้า ซึ่งถูกนำเสนอในสไตล์อเมริกันทั้งหมด

สำหรับนักท่องเที่ยวแล้ว สถานที่แห่งนี้ถือเป็นจุดที่สามารถเพลิดเพลินไปกับบรรยากาศรอบๆ และถ่ายภาพมุมต่างๆในหมู่บ้านที่มีความสวยงามเป็นเอกลักษณ์ได้อย่างจุใจ จุดที่พลาดไม่ได้ก็คือชิงช้าสวรรค์ขนาดใหญ่ที่เปรียบเสมือนแลนด์มาร์คของหมู่บ้าน นอกจากนี้ถัดไปอีกเพียงไม่กี่ร้อยเมตร ก็จะพบกับ Sunset Beach ชายหาดยอดนิยมอีกหนึ่งแห่งในโอกินาว่าซึ่งขึ้นชื่อจากการเป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกที่สวยงามอีกด้วย

การเดินทาง : จากสถานีรถบัส Naha โดยสารรถบัสสาย 20, 28, 29 หรือ จากสนามบินนั่งสาย 120 ไปลงที่ป้าย Gunbyoin-mae
ค่าเข้าชม : 500 เยน
เวลาเปิดทำการ : 11.00 – 22.00 น.

8. สวนสนุกโอกินาว่าเวิลด์ (Okinawa World)

8. สวนสนุกโอกินาว่าเวิลด์ (Okinawa World)

https://www.flickr.com/photos/mollenborg/19684622298/

สวนสนุกโอกินาว่าเวิลด์นั้นเป็นสวนสนุกที่มีความแตกต่างจากสวนสนุกแห่งอื่นๆ ตรงที่ไม่มีเครื่องเล่นน่าตื่นตาตื่นใจ หรือมีมาสคอตน่ารักๆคอยต้อนรับและถ่ายรูปกับนักท่องเที่ยว เนื่องจากสวนสนุกแห่งนี้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อนำเสนอประวัติศาสตร์ ศิลปวัฒนธรรม รวมถึงความงดงามทางธรรมชาติของโอกินาว่า

จุดที่มีชื่อเสียงที่สุดของสถานที่แห่งนี้ก็คือ “ถ้ำ Gyokusendo” ซึ่งเป็นถ้ำที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ มีอายุถึงสามแสนปี และมีความยาวทั้งหมด 5 ถึงกิโลเมตร ระยะทางที่เปิดให้เข้าชมในปัจจุบันอยู่ที่ 850 เมตร ซึ่งตลอดเส้นทางจะมีไกด์นำเราไปสัมผัสความสวยงามของหินงอกหินย้อยหลากหลายขนาด ซึ่งบางส่วนนั้นมีสีขาว และส่องสะท้อนแสงเป็นประกายระยิบระยับ

นอกจากถ้ำแห่งนี้แล้ว ภายในโอกินาว่าเวิลด์ยังมีสถานที่ที่น่าสนใจอีกสองจุด คือสวนงู (Habu Park) และศูนย์วัฒนธรรมโอกินาว่า (Kingdom Village) ซึ่งสามารถเรียนรู้วัฒนธรรมท้องถิ่นที่มีชื่อเสียงอย่างการเป่าแก้ว ชุดพื้นเมือง และดนตรีพื้นเมือง และยังเป็นแหล่งจำหน่ายผลิตภัณฑ์ท้องถิ่นและของที่ระลึกที่น่าสนใจเช่นกัน

การเดินทาง : จากสถานีขนส่ง Naha โดยสารรถบัสสาย 83 ไปลงที่ป้าย Gyokusendo-mae
ค่าเข้าชม : 1,650 เยน สำหรับตั๋วที่รวมค่าเข้าชมทุกอย่าง (ถ้ำ, Kingdom Village, habu Museum)
เวลาเปิดทำการ : 09.00 – 18.00 น.

9. สวนสาธารณะโอเชี่ยนเอ็กซ์โป (Ocean Expo Park)

9. สวนสาธารณะโอเชี่ยนเอ็กซ์โป (Ocean Expo Park)

สวนสาธารณะโอเชี่ยนเอ็กซ์โป เป็นสวนสาธารณะขนาดใหญ่ของเกาะโอกินาว่า และเป็นที่ตั้งของพิพิธภัณท์สัตว์น้ำชูราอูมิ (Okinawa Churaumi Aquarium) ที่ได้แนะนำไปในตอนต้น แต่นอกจากพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำที่มีชื่อเสียงแล้ว ภายในพื้นที่ของสวนสาธารณะแห่งนี้ยังมีจุดที่น่าสนใจอีกมากมายดังต่อไปนี้

1. พิพิธภัณฑ์วัฒนธรรม (Oceanic Culture Museum) พิพิธภัณฑ์ที่จัดแสดงเรื่องราวเกี่ยวกับวัฒนธรรมของประเทศต่างๆในเขตเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และยังมีท้องฟ้าจำลองอยู่ด้านในพิพิธภัณฑ์อีกด้วย

2. หมู่บ้านพื้นเมืองโอกินาว่า (Native Okinawa Village) เป็นพื้นที่กลางแจ้งซึ่งจัดแสดงรูปแบบอาคารบ้านเรือนท้องถิ่นของชาวโอกินาว่าจำนวน 20 หลัง แบ่งออกตามยุคต่างๆในประวัติศาสตร์ท้องถิ่น

3. สวนพฤกษศาสตร์ (Tropical Dream Center) สวนพฤกศาสตร์ที่เต็มไปด้วยพืชเขตร้อนมากมายหลายสายพันธุ์ และพื้นที่เรือนกระจกสำหรับเพาะเลี้ยงไม้ดอกไม้ประดับชนิดต่างๆ มีจุดเด่นอยู่ที่หอคอยชมวิวความสูง 36 เมตร ซึ่งด้านบนสามารถมองเห็นไปไกลถึงชายหาดและหมู่เกาะอื่นๆในบริเวณใกล้เคียง

4. หาดมรกต (Emerald Beach) เป็นชายหาดที่อยู่ติดกับเขตสวนสาธารณะโอเชี่ยนเอ็กซ์โป มีการแบ่งพื้นที่ของหาดเป็น 3 ส่วน คือพื้นที่สำหรับการเล่นน้ำและเล่นสนุกริมชายหาด พื้นที่สำหรับการพักผ่อน และพื้นที่สำหรับการชมวิวทิวทัศน์อันสวยงามของน้ำทะเลที่มีสีเขียวเหมือนมรกต

การเดินทาง : ขึ้นรถบัสสาย 20, 111 หรือ120 ไปลงที่สถานีรถโดยสารนาโกะ (Nago Bus Terminal) จากนั้นขึ้นรถบัสสาย 65, 66 หรือ 70 ไปลงที่ป้าย “Kinen Koen Mae”
ค่าเข้าชม : พิพิธภัณฑ์วัฒนธรรมมีค่าเข้าชม 170 เยน และสวนพฤกษศาสตร์มีค่าเข้าชม 690 เยน
เวลาเปิดทำการ : 08.00 – 19.30 น.

10. อนุสรณ์สถานสงครามโอกินาว่า (Okinawa Peace Memorials)

10. อนุสรณ์สถานสงครามโอกินาว่า (Okinawa Peace Memorials)

https://www.flickr.com/photos/63122283@N06/15384427136/

นอกจากประวัติความเป็นมาอันยาวนานของอาณาจักรริวกิวอันรุ่งเรืองในอดีต ประวัติศาสตร์สำคัญอีกช่วงเวลาที่มีส่วนในการพลิกโฉมเกาะโอกินาว่าให้เป็นอย่างที่เห็นในปัจจุบันก็คือการเป็นสมรภูมิรบอันดุเดือดในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ซึ่งคร่าชีวิตทั้งทหารฝ่ายญี่ปุ่น ฝ่ายอเมริกัน และชาวบ้านบนเกาะไปเป็นจำนวนมากถึง 200,000 คน

ภายหลังเมื่อสงครามสิ้นสุดลงจึงได้มีการสร้างอนุสรณ์สถานสงครามโอกินาว่าขึ้น ซึ่งประกอบไปด้วยสวนแห่งสันติภาพ (Peace Memorials Park) พิพิธภัณฑ์อนุสรณ์สถานสันติภาพ (Peace Memorial Museum) และอนุสาวรีย์ฮิเมยูริ (Himeyuri Monument) ซึ่งเป็นตัวแทนของเด็กผู้หญิงมัธยมคนหนึ่งซึ่งเคยทำงานเป็นพยาบาลในกองทัพญี่ปุ่นและต้องเสียชีวิตลงระหว่างการทำสงครามอย่างน่าเศร้าใจ

การเดินทาง : จากสถานีรถบัส Naha โดยสารรถบัสสาย 89 ไปลงที่ Itoman Terminal และต่อรถบัสสาย 82 ไปลงที่ป้าย Heiwakinendo Iriguchi
ค่าเข้าชม : พิพิธภัณฑ์อนุสรณ์สถานสันติภาพมีค่าเข้าชม 300 เยน และอนุสาวรีย์ฮิเมยูริมีค่าเข้าชม 310 เยน
เวลาเปิดทำการ : 09.00 – 17.00 น.

know-before-you-go