10 สิ่งที่ไม่ควรพลาดเมื่อไปเยือนโอซาก้า(Osaka)
1.ปราสาทโอซาก้า (Osaka Castle)
ที่นี่ถือว่าเป็นแลนมาร์กอีกแห่งของโอซาก้าเลยก็ว่าได้ นอกจากความสวยงามทางสถาปัตยกรรมแล้ว สิ่งที่น่าสนใจอีกอย่างก็คือ รอบตัวปราสาทที่เป็นสวนสาธารณะบรรยากาศดี เหมาะกับการเดินเล่นสบายๆ แม้ว่าทางเดินจากสถานีรถไฟมายังปราสาทแห่งนี้จะค่อนข้างไกล แต่ทางเดินที่รายล้อมด้วยต้นไม้น้อยใหญ่และทะเลสาบ ก็ทำให้เพลิดเพลินจนไม่รู้สึกว่าไกลเลย นอกจากนี้เมื่อไปถึงบริเวณตัวปราสาท ก็มี ร้านขายอาหารอร่อยๆ กับร้านขายของที่ระลึกต่างๆ ให้ได้แวะซื้อกันเพลินๆอีกด้วย เป็นสถานที่ที่สามารถเดินทางมาเที่ยวชมได้ตลอดทุกฤดูกาล ซึ่งแต่ละฤดูกาลก็มีความสวยงามแตกต่างกันไป
วิธีเดินทาง : จาก Tanimachi 4-chrome Sta. เดินต่อไปอีก 10 นาที หรือ จาก Osakajokoen Sta. เดินต่อไปอีก 15 นาที
ค่าเข้าชม : มีค่าเข้าชมด้านในปราสาท 600 เยน (แต่ถ้าไม่เข้าก็ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ)
เวลาทำการ : 09.00 น. – 17.00 น. (หยุดวันที่ 28 เดือนธันวาคม – 1 เดือนมกราคม)
2.ยูนิเวอร์แซล สตูดิโอ แจแปน (Universal Studios Japan, USJ)
สวนสนุกยอดนิยมของนักท่องเที่ยวทั้งในญี่ปุ่นและนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศ โดยเฉพาะคนรักแฮร์รี่ พอตเตอร์ ไม่ควรพลาดที่นี่เลยจริงๆ แต่ถ้าได้เข้าไปสัมผัสจริงๆแล้วจะพบว่า ไฮไลท์ของที่นี่ไม่ได้มีแค่ธีมแฮร์รี่ พอตเตอร์เท่านั้น เพราะยังมีความสนุกสนานอื่นๆอีกมากมายของเครื่องเล่นต่างๆ การแสดงโชว์ ขบวนพาเหรดในธีมจากภาพยนตร์ของยูนิเวอร์แซลสตูดิโอ ซึ่งหากใครมีแผนไปที่นี่ต้องบอกว่า อยู่ได้ทั้งวันทั้งคืนไม่รู้เบื่อเลยทีเดียว
วิธีเดินทาง : นั่งรถไฟสาย Sakurajima Line ลงที่สถานี Universal City จากนั้นเดินต่อประมาณ 5 นาที
ค่าเข้าชม : ตั๋ว 1 วัน ผู้ใหญ่ 7,400 เยน , ผู้สูงอายุ 6,650 เยน , เด็ก 4,980 เยน และ
Universal Express Pass 7 : เด็ก 6,600 เยน ,ผู้ใหญ่ 9,800 เยน ,
Universal Express Pass 5 : เด็ก 5,200 เยน , ผู้ใหญ่ 7,200 เยน
Universal Express Pass 3: เด็ก 3,300 เยน , ผู้ใหญ่ 4,500 เยน
เวลาทำการ : ตั้งแต่ 10:00 - 17:00 น. (Low Season) และ 9:00 - 21:00 น (Peak Season)
3.Tower Of The Sun หอคอยแห่งพระอาทิตย์ ณ สวนอนุสรณ์งานเอ็กซ์โป (Osaka Expo Commemoration Park)
ที่นี่เป็นสวนสาธารณะขนาดใหญ่ ซึ่งในอดีตเคยเป็นพื้นที่จัดงาน มหกรรมโลก หรือ EXPO'70 (The Japan World Exposition) ที่ยิ่งใหญ่มากในยุคนั้น ตลอดเวลาเกือบ 50 ปีที่ผ่านมา ก็มีการปรับปรุงพื้นที่ให้กลายเป็นสวนสาธารณะที่เต็มไปด้วยต้นไม้และดอกไม้นานาชนิด ที่ออกดอกบานสวยงามตามช่วงเวลาในแต่ละฤดูแทน แต่สิ่งปลูกสร้างที่ยังหลงเหลือและเป็นไฮไลท์ของที่นี่ก็คือ Tower of the Sun หรือ หอคอยแห่งดวงอาทิตย์ อนุสาวรีย์รูปทรงแปลกตาที่มองแล้วมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ที่เคยเป็นแลนด์มาร์กและเป็นจุดศูนย์กลางของงาน ออกแบบโดยศิลปินชาวญี่ปุ่น โอคาโมโตะ ทาโร่ (Taro Okamoto) ผู้หลงไหลในศิลปะแบบ Abstract นอกจากนี้ในบริเวณใกล้กัน ยังมีพิพิธภัณฑ์ที่สามารถเข้าไปเที่ยวชมได้ด้วย
วิธีเดินทาง : นั่งรถสาย Osaka Monorail ไปลงสถานี Koen-Higashiguchi Sta.แล้วเดินต่อ 15 นาที หรือ จากสถานี Bampaku-kinen-koen Sta. เดินต่อ 20 นาที
ค่าเข้าชม : ผู้ใหญ่ 250 เยน, เด็กประถม-มัธยมต้น 70 เยน, มีส่วนลดสำหรับหมู่คณะ เเละตั๋วใช้บริการแบบหลายครั้ง
เวลาทำการ : 9:30 - 17:00 (เข้าสวนได้ก่อนปิดบริการ 30 นาที) หยุดทุกวันพุธ (กรณีตรงกับวันหยุดนักขัตฤกษ์ จะหยุดในวันถัดไป, และหยุดช่วงปีใหม่ 28 ธ.ค. - 1 ม.ค.
4.ตลาดคุโรมงอิชิบะ (Kuromon Ichiba Market)
ตลาดเก่าแก่ที่เต็มไปด้วยของอร่อย จนได้รับสมญานามว่าเป็นครัวของโอซาก้า บรรยากาศของตลาดแห่งนี้ จะมีลักษณะเป็นทางเดินในซอยเล็กๆ ระยะทางราวๆ 600 เมตร โดย 2 ข้างทางจะเต็มไปด้วยร้านค้ากว่า 160 ร้าน ซึ่งมีของขายอย่างหลากหลาย ทั้งของสด อาหารทะเล อาหารพร้อมรับประทาน และอาหารพื้นเมืองที่มีชื่อเสียง ผลไม้ตามฤดูกาล เช่น สตรอเบอร์รี่ เมลอน กีวี นอกจากนี้ก็จะมีร้านขายอุปกรณ์ทำอาหาร ของใช้ในครัว ของฝากอย่างคิทแคท และกูลิโกะ เหล่านี้เป็นต้น ต้องบอกว่าถ้าได้เข้าไปเดินตลาดนี้สักครั้ง รับรองว่าอิ่มจนตัวแตกแน่นอน
วิธีเดินทาง : ไปลงที่สถานีรถไฟใต้ดิน Nippombashi Sta. และออกทางออกหมายเลข 5 หรือ 10 แล้วเดินเข้าไปในตลาดได้เลย
ค่าเข้าชม : ไม่มี
เวลาทำการ : ขึ้นอยู่กับร้านค้า ถ้าเป็นอาหารสดส่วนใหญ่เปิดช่วงเช้าถึงบ่าย ร้านอาหารอื่นๆ อาจเปิดถึงบ่าย ,เย็น หรือเปิดถึงดึกก็มี
5.พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำไคยูคัง (Osaka Aquarium Kaiyukan)
เป็นพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ถูกออกแบบมาให้มีสภาพแวดล้อมคล้ายกับธรรมชาติในมหาสมุทรแปซิฟิก ไฮไลท์ของที่นี่คือ แทงก์น้ำรูปอุโมงค์ ที่เต็มไปด้วยปลาในเขตร้อนชื้นอาศัยอยู่ และแทงก์ "ขั้วโลกใต้" ที่จะได้พบกับฝูงนกเพนกวินที่น่าตื่นตาตื่นใจ นอกจากนี้ ยังมีสัตว์น้ำที่ถูกเลี้ยงไว้ให้ชมกว่า 620 ประเภท รวมเป็นจำนวนกว่า 30,000 ตัว แมงกะพรุนนับร้อยชนิด และปลาฉลามวาฬยักษ์ขนาดประมาณ 12 เมตรอีก สองตัว ทั้งหมดนี้ทุกคนสามารถเข้าชมได้อย่างใกล้ชิด และหลังเวลา 5 โมงเย็น จะมีโอกาสได้เห็นชีวิตความเป็นอยู่ของสัตว์น้ำในยามค่ำคืนด้วย เรียกว่าเหมาะกับการมาเที่ยวเป็นครอบครัวอย่างยิ่ง โดยเฉพาะถ้ามีเด็กๆมาด้วย
วิธีเดินทาง : จากสถานี Osakako Sta. เดินต่อ 5 นาที
ค่าเข้าชม : ผู้ใหญ่ (16 ปีขึ้นไป) 2,300 เยน, เด็กประถม-มัธยมต้น 1,200 เยน, เด็ก 4 ปีขึ้นไป 600 เยน
เวลาทำการ : ตั้งแต่ 10:00 – 20:00 (เข้าอาคารได้ก่อนปิดบริการ 1 ชม.)
6.ศาลเจ้าสุมิโยชิ (Sumiyoshi Taisha) ศาลเจ้าใหญ่กลางโอซาก้า
สำหรับใครที่ชอบเที่ยววัดและศาลเจ้า ที่นี่ก็มีศาลเจ้าที่ได้รับความศรัทธามากที่สุดในโอซาก้า และมีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 1,800 ปี ปลูกสร้างด้วยสถาปัตยกรรมอันโดดเด่นซึ่งหาดูได้ยากนั่นก็คือ ศาลเจ้าสุมิโยชิ ซึ่ง ศาลเอกทั้ง 4 ของศาลเจ้าได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกของประเทศญี่ปุ่นด้วย นอกจากนี้ที่นี่ยังเป็นสถานที่ๆมีการจัดงานเทศกาลน่าสนใจหลายอย่าง เช่น เทศกาลสุมิโยชิมัตสึริ (Sumiyoshi-matsuri) เทศกาลฤดูร้อนของญี่ปุ่น ที่จัดขึ้นทุกวันจันทร์ที่ 3 ของเดือนกรกฎาคม และจากวันที่ 30 กรกฎาคมถึงวันที่ 1 สิงหาคม โดยในวันสุดท้ายของเทศกาล จะได้พบกับการแห่ศาลเจ้า Mikoshi porable และ Omitama ที่ถือว่าเป็นจิตวิญญาณของศาลเจ้าสุมิโยชิ ไปตามท้องถนน ถือเป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่สืบทอดต่อกันมา และมีผู้สนใจเข้าร่วมชมจำนวนมากในทุกๆปี
วิธีเดินทาง : นั่งรถไฟสาย Hankaidenki-Hanki มาลงที่สถานี Sumiyoshi Sta. และเดินอีกประมาณ 3 นาที
ค่าเข้าชม : ไม่มี
เวลาทำการ : เดือนเมษายน -กันยายน เปิดทำการตั้งแต่ 06:00 น. – 17:00 น. และเดือนตุลาคม - มีนาคม เปิดทำการตั้งแต่ 06:30 น. – 17:00 น.
7.วัดชิเทนโนจิ (Shitennoji Temple)
เป็นวัดพุทธแห่งแรกของญี่ปุ่นที่มีอายุราว 1,400 ปี ตัวอาคารเคยถูกไฟไหม้มาก่อน ทำให้มีบางส่วนทรุดโทรมตามสภาพ แต่ก็ได้รับการบูรณะเพื่อให้คงรูปแบบดั้งเดิมไว้มากที่สุด จุดเด่นคือชั้นในของวัดซึ่งมีสวน เจดีย์ 5 ชั้น และห้องเก็บสมบัติ และยังมีการจัดแสดงภาพวาดพระคัมภีร์กับสมบัติที่มีคุณค่าของวัดอีกหลายชิ้น โดยบริเวณรอบนอกนักท่องเที่ยวสามารถเข้าชมได้ฟรี แต่ถ้าเป็นภายในวัดจะมีส่วนที่ต้องเสียค่าเข้าชมด้วย นอกจากนี้ไฮไลท์อีกอย่างหนึ่งของที่นี่ก็คือ สวนโกคุราคุ-โจโด ที่มีการตกแต่งแบบญี่ปุ่นดั้งเดิมแท้ๆ ที่เข้าไปเดินเล่นชมความงามได้เช่นกัน
วิธีเดินทาง : จากสถานี JR Tennoji Sta. เดินต่ออีก 10 นาที
ค่าเข้าชม : ส่วนใหญ่ฟรีแต่บางส่วนอย่างเช่นสวนโกคุราคุ-โจโดมีค่าเข้า 300 เยน
เวลาทำการ : ตั้งแต่ 8:30 น. – 16:30 น.
8.ย่านโดทงโบริ (Dotonbori) ที่ๆคนไปโอซาก้าทุกคนต้องแวะซักครั้ง
ถ้าอยากถ่ายรูปกับป้ายกูลิโกะ แลนมาร์กอีกแหล่งของโอซาก้า ก็ต้องมาที่นี่ ย่านโดทงโบริ แหล่งช้อปปิ้งที่เต็มไปด้วยสีสันทั้งกลางวันและกลางคืน สิ่งที่น่าสนใจเมื่อมาเดินย่านนี้คือ ร้านขายของแต่ละร้านมีเอกลักษณ์ในการเรียกลูกค้าที่ไม่มีใครยอมใครเลย เช่น ปูคานิโดราคุ (Kani Doraku crab sign) ทาโกะยากิยักษ์ เกี๊ยวซ่ายักษ์ ร้านอาหารต่างๆก็มีให้เลือกมากมายจนแทบเลือกไม่ถูก มีแหล่งรวมความบันเทิง ร้านขายของสำหรับนักช้อปก็เช่นกัน หรือแม้กระทั่งของฝากต่างๆ ก็มาซื้อที่ย่านนี้ได้ เพราะหลายๆร้านก็เปิดถึงหลังเที่ยงคืน หรืออย่างร้านกาแฟสตาร์บัคส์ก็เปิดถึงตี 4 เลยทีเดียว
วิธีเดินทาง : จากสถานีรถไฟใต้ดิน Namba Sta. เดินต่อไปอีกประมาณ 5-10 นาที
เวลาทำการ : แล้วแต่ร้านค้า
9.อาคารชมวิวอุเมดะสกาย (Umeda Sky Building) ชมวิวยามค่ำคืนของโอซาก้า
จุดชมวิวโอซาก้าบนตึกสูงในย่านอุเมดะ ความสูง 173 เมตร ที่ชั้น 40 และดาดฟ้าของที่นี่ ก็เปิดให้นักท่องเที่ยวขึ้นไปชมวิว
ในวันที่อากาศดี สามารถมองเห็นวิวโอซาก้าได้โดยรอบ จนถึงบริเวณเกาะอาวาจิ (Awaji Island) ที่อยู่ห่างจากโอซาก้าไปประมาณ 50 กิโลเมตร ที่ชั้น 40 เป็นจุดชมวิวในอาคาร ซึ่งมีที่นั่งแบบส่วนตัว ยกสูงจากพื้นประมาณครึ่งเมตร นั่งได้ประมาณ 2-3 คน ส่วนชั้นดาดฟ้า จะเป็นชั้นบนสุดของตึก มองเห็นวิวได้ชัดที่สุด และเดินดูได้รอบแบบ 360 องศา สิ่งที่ควรทราบคือ การชมวิวบนชั้นดาดฟ้านั้นไม่อนุญาตให้นำร่ม หมวก และขาตั้งกล้องขึ้นไป เพื่อป้องกันลมพัดสิ่งของปลิวตกลงไปด้านล่าง การไปชมวิวที่อุเมดะสกาย สามารถไปได้ทั้งช่วงกลางวันและกลางคืน โดยรอบสุดท้ายตอนกลางคืนคือ 22:00 น.
วิธีเดินทาง : รถไฟใต้ดินจากสถานี Umeda ให้ออกประตูหมายเลข 5 แล้วเดินเข้าทางลอดรถไฟ แล้วเดินต่อประมาณ 15 นาที หรือจากสถานี Osaka and Umeda Sta. เดินต่อประมาณ 10-15 นาที
ค่าเข้าชม : ผู้ใหญ่ 1,000 เยน ,เด็กมัธยมต้นและปลาย 700 เยน , เด็กประถม 500 เยน
เวลาทำการ : ตั้งแต่ 9:30 – 22:30 น. (เข้าชมรอบสุดท้าย 22:00 น.)
10.พิพิธภัณฑ์โรงกษาปณ์โอซาก้า (Osaka Japan Mint)
สำหรับใครชอบไปเที่ยวช่วงฤดูซากุระ ต้องรู้จักที่นี่เป็นอย่างดี เพราะเป็นอีกหนึ่งจุดชมดอกซากุระที่สวยที่สุดในญี่ปุ่นซึ่งในแต่ละปี ก็จะมีการประกาศออกมาให้นักท่องเที่ยวได้ทราบว่า จะเปิดให้เข้าไปชมดอกซากุระได้ช่วงไหน
ในส่วนของพิพิธภัณฑ์ นักท่องเที่ยวสามารถเข้าไปชมได้ตลอดทั้งปี พิพิธภัณฑ์โรงกษาปณ์โอซาก้าเป็นอาคารอิฐแดงแบบตะวันตกอาคารเดียวของสมัยเมจิที่อยู่ในพื้นที่ของกรมกษาปณ์ ซึ่งเป็นสถานที่เก็บเงินตราแบบต่างๆสำหรับจัดแสดงสู่สาธารณะด้วย
วิธีเดินทาง : พื้นที่โรงกษาปณ์โอซาก้า สามารถเดินทางมาได้จากหลายจุด เช่น เดิน 15 นาที จากสถานี Osaka Tenmangu Sta. ของสาย JR Tozai Line , เดิน 15 นาที จากรถไฟใต้ดินสถานี Minami-morimachi Sta. และเดิน 20 นาที จากรถไฟใต้ดินสถานี Temmabashi Sta. เป็นต้น
ค่าเข้าชม : ไม่มี
เวลาทำการทั่วไป : ส่วนของพิพิธภัณฑ์ ตั้งแต่ 9:00 - 16:45 (เข้าอาคารได้ถึง 16:00) หยุดทำการวันนักขัตฤกษ์และช่วงปีใหม่
เวลาทำการช่วงเทศกาลชมดอกซากุระ : โดยส่วนใหญ่จะประกาศในช่วงเดือนเมษายนของทุกปี และจะเป็นช่วงที่เปิดให้ชมสวนได้ถึงดึก (ถึงประมาณ 3 ทุ่มของแต่ละวัน)