หากเทียบกับภูมิภาคอื่นๆในประเทศญี่ปุ่นที่นั้น เกาะฮอกไกโดอาจไม่มีประวัติศาสตร์อันยาวนานเป็นพันๆปี เนื่องจากเป็นเกาะที่เพิ่งได้รับการเข้ามาพัฒนาในช่วงปลายของประวัติศาสตร์ญี่ปุ่นยุคใหม่ แต่ถึงอย่างนั้นเกาะฮอกไกโดก็ยังมีประวัติความเป็นมาและรูปแบบวิถีชีวิตที่น่าสนใจ และยังมีเอกลักษณ์อันแตกต่างจากพื้นที่อื่นๆในประเทศญี่ปุ่น ทั้งจากสภาพภูมิประเทศ และภูมิอากาศที่ถูกปกคลุมด้วยหิมะยาวนานกว่าที่อื่นๆ

ที่หมู่บ้านประวัติศาสตร์ฮอกไกโดแห่งนี้เป็นพิพิธภัณฑ์กลางแจ้งที่จัดแสดงและจำลองวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของชาวฮอกไกโดในอดีต ผ่านรูปแบบอาคารหลากหลายประเภทรวมทั้งหมด 60 หลังในประวัติศาสตร์ ที่เราสามารถเดินเข้าไปชมและสัมผัสบรรยากาศในยุคต่างๆ ตามพื้นที่ที่แบ่งออกเป็น 4 โซนหลักคือชุมชนเมือง หมู่บ้านชาวประมง หมู่บ้านเกษตรกร และหมู่บ้านบนภูเขา สำหรับนักท่องเที่ยวแล้วถือว่าเป็นสถานที่ที่ทั้งได้สัมผัสบรรยากาศย้อนยุค ได้ถ่ายรูปสวยๆคู่กับตึกเก่าๆ และยังมีรถม้าให้บริการนำเที่ยวรอบๆหมู่บ้านอีกด้วย

การเดินทาง : จากสถานีรถไฟ Shin Sapporo โดยสารรถบัสหมายเลข 22 (to Kaitakunomura) ลงที่ป้ายสุดท้าย
ค่าเข้าชม : 800 เยน
เวลาเปิดทำการ : 09.00-17.00 น. ในเดือนพฤษภาคมถึงกันยายน ช่วงอื่นๆของปีเปิดถึง 16.30

เป็นสวนสาธารณะสำคัญอีกหนึ่งแห่งในเมืองซัปโปโรคู่กับสวนสาธารณะโอโดริ โดยสวนสาธารณะแห่งนี้มีความสำคัญทั้งการเป็นที่ตั้งของสถานที่ท่องเที่ยวขึ้นชื่ออย่างสวนสัตว์มารุยามะ ซัปโปโร ที่ถือเป็นสวนสัตว์เก่าแก่ลำดับที่ 10 ของประเทศญี่ปุ่น ปัจจุบันประกอบไปด้วยสัตว์ต่างๆ หลากหลายชนิดจำนวนกว่า 1,000 ตัว นอกจากนี้ยังเป็นที่ตั้งของศาลเจ้าฮอกไกโด ศาลเจ้าสำคัญของชาวเมืองซัปโปโรซึ่งจะกล่าวถึงอย่างละเอียดในข้อถัดไป

นอกจากสวนสาธารณะมารุยาม่าจะเป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจของชาวเมืองแล้ว ยังถูกใช้เป็นสถานที่จัดกิจกรรมตามเทศกาลต่างๆตลอดทั้งปี ตั้งแต่เทศกาลชมดอกซากุระ ที่ถือเป็นหนึ่งในจุดชมดอกซากุระอันดับต้นๆของภูมิภาคฮอกไกโด รวมถึงเทศกาลทางศาสนา และเทศกาลฤดูร้อนอีกมากมาย

การเดินทาง : ขึ้นรถไฟใต้ดินมาลงที่สถานี Maruyama-Koen
ค่าเข้าชม : ฟรี
เวลาเปิดทำการ : ตัวสวนสาธารณะเปิด 24 ชั่วโมง

ศาลเจ้าสำคัญของศาสนาชินโต ที่เปรียบเสมือนศูนย์กลางของความศรัทธาของชาวเมืองซัปโปโร และเป็นสถานที่ในการจัดพิธีสำคัญทางศาสนามากมาย ศาลเจ้าแห่งนี้ได้รับความนิยมอย่างสูงในการเดินทางมาขอพรช่วงวันปีใหม่ ขอพรวันเกิด รวมไปถึงใช้ประกอบพิธีแต่งงานในรูปแบบญี่ปุ่นดั้งเดิม และมีบรรยากาศอันเงียบสงบจากการตั้งอยู่ด้านหลังของสวนสาธารณะมารุยามะ ห้อมล้อมไปด้วยต้นไม้สูงสีเขียวขจี

ศาลเจ้าฮอกไกโดแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นในปีค.ศ. 1871 ซึ่งเป็นช่วงเวลาเดียวกับที่เกาะฮอกไกโดเริ่มถูกบุกเบิกและพัฒนา โดยการก่อสร้างศาลเจ้ามาจากพระบรมราชโองการขององค์จักรพรรดิเมจิ เพื่อให้ศาลเจ้าแห่งนี้เป็นที่พึ่งทางจิตใจของคณะบุกเบิกฮอกไกโด ภายในศาลเจ้าเป็นที่ประดิษฐานของเทพเจ้าทั้งหมด 4 องค์ตามความเชื่อในศาสนาชินโต

การเดินทาง : ขึ้นรถไฟใต้ดินมาลงที่สถานี Maruyama-Koen
ค่าเข้าชม : ฟรี
เวลาเปิดทำการ : 24 ชั่วโมง

ภูเขาโมอิวะ เป็นภูเขาลูกเล็กๆ ความสูง 531 เมตร ที่ตั้งอยู่ในเขตเมืองซัปโปโร โดยนักท่องเที่ยวสามารถขึ้นกระเช้ามาบนภูเขา เพื่อชมวิวทิวทัศน์อันสวยงามรอบด้านของเมืองซัปโปโรได้อย่างเต็มตา โดยจุดชมวิวแห่งนี้ขึ้นชื่ออย่างมากสำหรับการชมวิวยามค่ำคืนของเมืองซัปโปโรที่มีบรรยากาศอันแสนโรแมนติก และบนภูเขาโมอิวะยังไม่ได้มีเพียงแค่จุดชมวิวเท่านั้น แต่ยังมีร้านขายของที่ระลึก รวมถึงร้านอาหารให้นักท่องเที่ยวได้ทานอาหารอร่อยๆ ควบคู่ไปกับการดื่มด่ำทัศนีย์ภาพของเมืองได้อีกด้วย

สัญลักษณ์สำคัญของจุดชมวิวแห่งนี้คือ”ระฆังแห่งความรัก” ที่ให้คู่รักจับเชือกลั่นระฆังนี้คนละเส้น ซึ่งมีความเชื่อว่าหากคู่รักคู่ใดที่ได้ลั่นระฆังแห่งความรักพร้อมกัน ความรักก็จะมีความสดใสเช่นเดียวกับเสียงระฆัง นอกจากนี้ในช่วงฤดูหนาว ภูเขาโมอิวะยังเป็นหนึ่งในลานสกีขึ้นชื่อของเมืองซัปโปโร ที่นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางมาเล่นสกีได้อย่างสนุกสนานอีกด้วย

การเดินทาง : ขึ้นรถไฟใต้ดินมาลงที่สถานี Suzukino จากนั้นต่อรถรางมาลงที่สถานี Ropeway Iriguchi Station และเดินไปที่สถานีกระเช้าลอยฟ้า
ค่าเข้าชม : ชมฟรี มีค่ากระเช้าไปกลับคนละ 1,700 เยน
เวลาเปิดทำการ : 24 ชั่วโมง

นอกจากจุดชมวิวบนภูเขาโมอิวะแล้ว ยังมีจุดชมวิวอีกหนึ่งแห่งที่ในเมืองซัปโปโรที่ให้ความโรแมนติกและสามารถมองเห็นทัศนีย์ภาพอันงดงามของเมืองได้ไม่แพ้กัน นั่นคือจุดชมวิวบนอาคาร JR Tower ที่สถานีรถไฟซัปโปโร ซึ่งอาคารแห่งนี้มีความสูง 38 ชั้น เป็นทั้งโรงแรม ออฟฟิศ ห้างสรรพสินค้า ร้านอาหาร และจุดชมวิวยอดนิยมที่ตั้งอยู่บนชั้น 38 ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถเดินทางมาได้อย่างสะดวกสบาย เพราะตั้งอยู่ในตัวสถานีรถไฟหลักของเมือง คือสถานี Sapporo เลย

จุดเด่นของทิวทัศน์จากจุดชมวิวที่อาคารแห่งนี้ คือสามารถมองเห็นภาพของเมืองซัปโปโร คู่กับสัญลักษณ์ของเมืองก็คือซัปโปโรทีวีทาวเวอร์ได้อย่างชัดเจน และที่ชั้นของจุดชมวิวนั้นยังมีทั้งร้านอาหารและบาร์คอยให้บริการ และยังมีจุดเด่นที่ไม่เหมือนใคร และหลายๆคนอาจคิดไม่ถึง ก็คือห้องน้ำในบริเวณจุดชมวิวนั้นยังเป็นกระจกใสเช่นเดียวกับพื้นที่จุดชมวิว ที่ทำให้เราได้ชมวิวทิวทัศน์ของเมืองซัปโปโรได้แม้กระทั่งตอนที่แวะไปเข้าห้องน้ำ จนถูกขนานนามให้เป็นห้องน้ำที่มีวิวสวยที่สุดในโลกไปแล้ว

การเดินทาง : อยู่ภายในสถานีรถไฟ JR Sapporo
ค่าเข้าชม : 720 เยน
เวลาเปิดทำการ : 10.00-23.00 น.