หากกล่าวว่าสัญลักษณ์ของโตเกียวก็คือโตเกียวทาวเวอร์ สัญลักษณ์ของเมืองซัปโปโร ก็คงจะเป็นซัปโปโรทีวีทาวเวอร์นี่เอง นอกจากหน้าตาที่คล้ายคลึงกับสัญลักษณ์แห่งโตเกียวแล้ว ก็ยังทำหน้าที่ไม่ต่างกัน ทั้งในการเป็นจุดศูนย์กลางของเมือง เป็นสถานที่ที่กระจายสัญญาณโทรทัศน์วิทยุของภูมิภาค และยังเป็นหนึ่งในจุดชมวิวเมืองซัปโปโรที่สวยงามสำหรับชาวเมืองและนักท่องเที่ยว

ซัปโปโรทีวีทาวเวอร์ถูกสร้างขึ้นในปี 1957 มีความสูง 147.2 เมตร และมีจุดชมวิวตั้งอยู่ตรงความสูงที่ 90 เมตร ซึ่งจากบริเวณจุดชมวิวนั้น นักท่องเที่ยวสามารถมองเห็นตั้งแต่วิวของสวนสาธารณะโอโดริที่อยู่เบื้องล่าง รวมไปถึงทิวทัศน์เมืองซัปโปโรที่มีภูเขาสูงรายล้อมอยู่รอบเมือง

การเดินทาง : ขึ้นรถไฟใต้ดินมาลงที่สถานี Odori
ค่าเข้าชม : 720 เยน
เวลาเปิดทำการ : 09.00 – 22.00 น.

เมื่อพูดถึงซัปโปโรทีวีทาวเวอร์ไปแล้ว สถานที่ท่องเที่ยวสำคัญอีกแห่งที่ควรพูดถึงควบคู่กันไปก็คือสวนสาธารณะโอโดริ ที่เป็นสถานที่ตั้งของซัปโปโรทีวีทาวเวอร์ โดยจุดเริ่มต้นของสวนสาธารณะแห่งนี้มาจากการสร้างแนวกันไฟ และแยกผังเมืองซัปโปโรออกเป็นทิศเหนือและทิศใต้ด้วยการสร้างถนนขึ้นมาสายหนึ่งในปี 1871 ซึ่งในภายหลังได้มีการเปลี่ยนชื่อถนนสายนี้มาเป็นชื่อ "โอโดริ" และพัฒนาพื้นที่บางส่วนให้เป็นสถานที่สำหรับพักผ่อนหย่อนใจของชาวเมือง และใช้เป็นพื้นที่ในการจัดเทศกาลสำคัญต่างๆของเมืองซัปโปโร

หนึ่งในเทศกาลสำคัญที่มีชื่อเสียงในระดับโลกซึ่งจัดขึ้น ณ สวนสาธารณะโอโดริแห่งนี้ ก็คือเทศกาลหิมะซัปโปโร เทศกาลประจำปีช่วงฤดูหนาว และถือเป็นเทศกาลหิมะที่ใหญ่ที่สุดของประเทศญี่ปุ่น ที่ดึงดูดผู้คนมากกว่า 2 ล้านคนให้เดินทางมาเยือนเมืองซัปโปโร โดยระหว่างการจัดงานนั้น ตลอดทั้งพื้นที่ของสวนสาธารณะโอโดริจะเต็มไปด้วยงานประติมากรรมแกะสลักน้ำแข็งอันสวยงามมากมายหลายรูปแบบ

การเดินทาง : ขึ้นรถไฟใต้ดินมาลงที่สถานี Odori
ค่าเข้าชม : ฟรี
เวลาเปิดทำการ : 24 ชั่วโมง

แลนด์มาร์คสำคัญอีกแห่งหนึ่งของเมืองซัปโปโรซึ่งตั้งอยู่ไม่ไกลจากสวนสาธารณะโอโดริ และสถานีรถไฟซัปโปโร ด้วยรูปแบบทางสถาปัตยกรรมที่โดดเด่นด้วยการก่อสร้างด้วยอิฐสีแดงเป็นจำวนถึง 2 ล้าน 5 แสนก้อน และใช้รูปแบบอาคารทางตะวันตกด้วยสไตล์อเมริกันผสมผสานกับนีโอบารอก และถือเป็นอาคารขนาดใหญ่เพียงไม่กี่อาคารที่ถูกสร้างขึ้นในเมืองซัปโปโรในอดีต

ตึกที่ทำการรัฐบาลเก่าฮอกไกโดแห่งนี้สร้างขึ้นในปี 1888 และถูกใช้เป็นที่ทำการของรัฐบาลเป็นเวลายาวนานกว่า 80 ปี จนกระทั่งมีการก่อสร้างที่ทำการแห่งใหม่ขึ้นในภายหลัง ตึกแห่งนี้ก็ได้รับการเก็บรักษาและดูแลเป็นอย่างดี นอกจากนี้ยังเปิดให้คนทั่วไปสามารถเข้ามาชมความงดงามภายในตัวอาคารได้โดยไม่มีค่าใช้จ่าย ทั้งในส่วนของห้องรับรอง ห้องประชุม และห้องสมุด

การเดินทาง : จากสถานีรถไฟ JR Sapporo หรือสถานีรถไฟใต้ดิน Sapporo เดินเท้าต่อมาอีกประมาณ 5 นาที
ค่าเข้าชม : ฟรี
เวลาเปิดทำการ : 08.45 – 18.00 น.

ถือเป็นสถานที่ซึ่งไม่ว่าคุณจะเป็นนักชิมหรือนักท่องเที่ยวสายใดก็ตาม ก็ไม่ควรพลาดที่จะแวะมาเยือนตลาดปลานิโจแห่งนี้สักครั้งเมื่อได้มาท่องเที่ยวที่เมืองซัปโปโร ภายในตัวตลาดประกอบไปด้วยโซนขายอาหารทะเลสดๆ หลากหลายชนิดทั้งกุ้ง หอย ปลาชนิดต่างๆ รวมไปถึงปูตัวโตๆ ที่ถือเป็นอาหารขึ้นชื่อในแถบฮอกไกโด และยังมีโซนร้านอาหารมากมายให้ได้ลองเลือกชิมเมนูอาหารทะเลสดๆกันอย่างจุใจ

ตลาดปลานิโจถือเป็นตลาดปลาสำคัญของเมืองซัปโปโร ซึ่งมีประวัติความเป็นมายาวนานกว่า 100 ปี จนถือเป็นครัวแห่งเมืองซัปโปโรที่ทั้งชาวเมือง ร้านอาหาร และนักท่องเที่ยวต่างก็แวะมาหาซื้อวัตถุดิบชั้นดีกันที่นี่ และด้วยขนาดของตลาดที่ไม่กว้างใหญ่จนเกินไป จึงสามารถเดินชมบรรยากาศในโซนต่างๆ และแวะทานอาหารได้โดยที่ไม่กินเวลานานจนเกินไป สำหรับคนรักอาหารทะเลที่อาจจะยังไม่จุใจ หรืออยากสัมผัสบรรยากาศเพิ่มเติม ในเมืองซัปโปโรนั้นยังมีตลาดปลาขึ้นชื่ออีกแห่งหนึ่งคือ “ตลาดซัปโปโรโจไก (Sapporo Jogai Market)” ให้แวะไปเที่ยวกันต่อได้อีกด้วย

การเดินทาง : ขึ้นรถไฟใต้ดินมาลงที่สถานี Odori ออกทางออกหมายเลข 34 จากนั้นเดินเท้าอีกประมาณ 7 นาที
ค่าเข้าชม : ฟรี
เวลาเปิดทำการ : 07.00-18.00 น.

ย่านซุซุกิโนะถือเป็นย่านบันเทิงหลักของเมืองซัปโปโร ที่เต็มไปด้วยบรรยากาศอันมีชีวิตชีวาทั้งในตอนกลางวันและกลางคืน มีตั้งแต่โรงแรม ร้านอาหาร ห้างสรรพสินค้า และสถานบันเทิงหลากหลายรูปแบบ ซึ่งเมื่อนับรวมร้านรวงต่างๆในย่านนี้นั้น ก็มีมากถึง 4,000 ร้าน จนถือว่าเป็นย่านบันเทิงและย่านท่องเที่ยวสำคัญที่ไม่แพ้ย่านหลักๆอย่างชิบูย่า หรือย่านชินจูกุในโตเกียวเลย

สำหรับนักชิม ในย่านนี้ก็ถือว่ามีเมนูขึ้นชื่อของฮอกไกโดให้ลิ้มลองอย่างครบถ้วน ทั้งราเม็งหลากหลายรูปแบบ ไปจนถึงบาร์บีคิวเนื้อแกะ และเนื้อย่างเจงกิสข่าน นอกจากนี้ย่านซูซูกิโนะยังให้บรรยากาศที่แตกต่างไปจากย่านบันเทิงแห่งอื่นๆในประเทศญี่ปุ่น ด้วยการมีรถรางท้องถิ่นวิ่งให้บริการไปยังจุดต่างๆในละแวกใกล้เคียง และด้วยเหตุผลเรื่องความสะดวกสบายทั้งในเรื่องการเดินทางและครบถ้วนทั้งเรื่องกินเที่ยว จึงทำให้ย่านนี้ถือเป็นย่านที่พักที่ได้รับความนิยมอย่างสูงในหมู่นักท่องเที่ยว

การเดินทาง : ขึ้นรถไฟใต้ดินมาลงที่สถานี Suzukino
ค่าเข้าชม : ฟรี
เวลาเปิดทำการ : ขึ้นอยู่กับสถานที่แต่ละแห่งภายในย่าน