หนึ่งในสัญลักษณ์แสดงความเจริญของญี่ปุ่นในช่วงยุคหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 หอคอยแห่งความหวังครั้งใหม่ของคนในยุคโชวะ ที่นี่คือโตเกียวทาวเวอร์ หอคอยแห่งนี้เป็นหอคอยสื่อสารที่ใช้สำหรับส่งสัญญาณวิทยุโทรทัศน์ ความสูงของโตเกียวทาวเวอร์คือ 333เมตร มีชั้นบนดิน 16ชั้น และใต้ดินอีก 3ชั้น

นอกจากจะเป็นความภาคภูมิใจของคนญี่ปุ่นแล้ว โตเกียวทาวเวอร์ยังกลายมาเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ชาวต่างชาติต่างแวะเวียนมาชมความงามทั้งภายนอกและภายในกันอยู่ไม่ขาดสาย ด้วยหน้าตาที่เป็นเอกลักษณ์ ทำให้ปัจจุบันกลายเป็นสัญลักษณ์ของโตเกียวและประเทศญี่ปุ่นไปแล้ว

โตเกียวทาวเวอร์ตั้งตระหง่านอยู่กลางโตเกียวที่เขตมินาโตะ (แปลว่าเขตท่าเรือ) มินาโตะเป็นย่านธุรกิจใหญ่ใจกลางโตเกียวที่อยู่ติดกับอ่าวโตเกียว

โตเกียวทาวเวอร์ก่อสร้างโดยบริษัทจัดการติดตั้งหอคอยส่งสัญญาณโทรทัศน์และวิทยุ Nippon Television City Corporation โดยมีค่าใช้จ่ายในการก่อสร้างอยู่ที่เกือบ 3,000 ล้านเยน เริ่มก่อสร้างในปี 1957 และใช้เวลาเพิียงปีครึ่งหอคอยสื่อสารแห่งนี้ก็สร้างเสร็จเป็นที่เรียบร้อย

ในสมัยก่อนโตเกียวทาวเวอร์มีหน้าที่ส่งสัญญาณโทรทัศน์และวิทยุไปทั่วทั้งบริเวณโตเกียว และจังหวัดใกล้เคียง โดยโตเกียวทาวเวอร์เคยเป็นหอคอยที่สูงที่สุดในญี่ปุ่นในช่วงเวลานั้น ก่อนที่ยุคสมัยจะเปลี่ยนไป โตเกียวเริ่มเจริญขึ้นเรื่อยๆ มีทั้งตึกสูงและคอนโดมิเนียมขนาดใหญ่อยู่เกือบทั่วทุกพื้นที่ ความสูงของอาคารเหล่านั้นกลายเป็นอุปสรรคในการส่งสัญญาณจากโตเกียวทาวเวอร์ทำให้เกิดปัญหาขึ้นอยู่บ่อยครั้ง นอกจากนี้จากการเปลี่ยนแปลงการใช้คลื่นสัญญาณโทรทัศน์จากรูปแบบอนาล็อกเป็นดิจิตอล เมื่อดูจากความสูงของโตเกียวทาวเวอร์แล้ว มันไม่เพียงพอต่อการส่งสัญญาณไปยังจุดห่างไกลได้อีกต่อไป

หลังจากโตเกียวสกายทรีเปิดตัวในปี 2012 สัญญาณโทรทัศน์ วิทยุ และอื่นๆ ก็ถูกย้ายจากโตเกียวทาวเวอร์ออกไปเกือบทั้งหมด ปัจจุบันโตเกียวทาวเวอร์ยังคงส่งสัญญาณรายการวิทยุบางสถานีและเป็นเสาสำรองเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉินกับโตเกียวสกายทรีเท่านั้น

หลังจากโตเกียวทาวเวอร์สร้างเสร็จและเปิดใช้ไป 50ปี ก็มีการจัดสร้างหอคอยส่งสัญญาณใหม่ ที่เป็นทั้งสิ่งก่อสร้างที่สูงที่สุดในญี่ปุ่นและหอคอยที่สูงที่สุดในโลกนั่นก็คือ โตเกียวสกายทรี ที่มีความสูงถึง 634เมตร

หากเปรียบเทียบในแง่ความสะดวกสบาย การเดินทางจากสถานีรถไฟไปยังจุด 2จุดนี้ โตเกียวทาวเวอร์จะตั้งห่างจากสถานีรถไฟมากกว่า เมื่อเทียบกับโตเกียวสกายทรีที่อยู่ติดกับสถานีรถไฟใต้ดินเลย

ส่วนในเรื่องของที่ตั้งและการวางแผน โตเกียวสกายทรีจะอยู่ใกล้กับย่านอาซาคุสะและสวนอุเอโนะมากกว่า ในขณะที่โตเกียวทาวเวอร์จะใกล้กับสถานีโตเกียว ย่านโอไดบะ และตลาดปลาซึคิจิมากกว่าเป็นต้น หากต้องการวางแผนไปสองที่นี้ก็น่าจะลองใส่ไว้วันเดียวกับที่เที่ยวอื่นๆ ที่อยู่ใกล้ๆกันดู

ในส่วนของวิวทิวทัศน์จากจุดชมวิว หอคอยชมวิวของโตเกียวทาวเวอร์จะตั้งอยู่ที่ความสูง 150เมตรจากพื้นดิน แต่ของโตเกียวสกายทรีจะอยู่ที่ 350เมตรจากพื้นดิน ซึ่งความสูงของจุดชมวิวของโตเกียวทาวเวอร์ในตอนนี้ แทบไม่ต่างอะไรกับความสูงของตึกสูงอื่นๆ ในโตเกียวแล้ว เพราะฉะนั้นถ้าต้องการไปชมความงามของโตเกียวแบบสุดลูกหูลูกตาคงต้องแนะนำให้ลองไปขึ้นโตเกียวสกายทรี

ในส่วนของสิ่งอำนวยความสะดวกด้านใน ไม่ว่าจะที่ไหนก็มีร้านอาหาร ร้านขายของฝาก คาเฟ่ และอื่นๆ ให้บริการเช่นกัน แต่ความกว้างขวางโอ่อ่าของโตเกียวสกายทรีนั้นใหญ่กว่ามาก เพราะนอกจากร้านข้างต้นที่กล่าวมาแล้ว ในบริเวณใกล้กันนั้นยังมีพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำซุมิดะ (すみだ水族館) และท้องฟ้าจำลองเท็นคูของ Konica Minolta อีกด้วย

ในแง่ความใหม่ ความทันสมัย และความสูง โตเกียวทาวเวอร์คงสู้โตเกียวสกายทรีไม่ได้เลย แต่หากพูดถึงความเป็นสัญลักษณ์ของญี่ปุ่น ความเป็นโตเกียวแล้ว สิ่งที่อยู่คู่กับคนญี่ปุ่นมานานละเป็นสถานที่ที่อยู่ในความทรงจำของทั้งคนญี่ปุ่นและคนรักญี่ปุ่นหลายๆคน ต้องเป็นโตเกียวทาวเวอร์อย่างแน่นอน

ตอนกลางคืนของโตเกียวทาวเวอร์ถูกจัดแสดงด้วยไลท์อัพสีแดงส้มสดใสสวยงาม เมื่อเทียบกับแสงไฟที่บริเวณโดยรอบของหอคอยแล้ว ดูโรแมนติกยิ่งกว่าอะไรทั้งนั้น ทำให้คู่รักชาวญี่ปุ่นรวมไปถึงชาวต่างชาติหลายคนมองหาอาคารสูงบริเวณใกล้เคียงไปดินเนอร์เดทชมวิวโตเกียวทาวเวอร์กันในยามค่ำคืน

นอกจากนี้ไฟไลท์อัพก็ยังแตกต่างกันไปตามช่วงเวลาของปีอีกด้วย！ โตเกียวทาวเวอร์ในช่วงฤดูร้อน (เดือนกรกฎาคมถึงเดือนตุลาคม) กับไฟในช่วงฤดูหนาว (เดือนพฤศจิกายนถึงเดือนมิถุนายน) นั้นก็แตกต่างกัน นอกจากนี้ยังมีไฟประดับที่เรียกว่า "Daimond Veil (ダイヤモンドヴェール)" ซึ่งเป็นไฟติดบริเวณโดยรอบของหอคอย มีด้วยกัน 7สี แต่ละสีก็จะมีความหมายแตกต่างกันไป เช่น สีขาวหมายความว่าชั่วนิรันดร์ สีเหลืองหมายถึงความหวัง เทศกาล สีแดงม่วงหมายถึงความฝัน โชคดี สีแดงหมายถึงความรัก การขอบคุณ เป็นต้น ซึ่งไฟนี้จะเปิดทุกวันเสาร์เวลา 20.00 น. ถึง 22.00 น. เป็นเวลา 2ชั่วโมงเท่านั้น

นอกจากนี้ทุกคืนจันทร์เต็มดวงของแต่ละเดือน หอคอยแห่งนี้ก็จะจัดไฟพิเศษนี้ แถมยังมีการปิดไฟที่ยอดด้านบนเพื่อให้ทุกคนได้ชมกับแสงจันทร์ที่ส่องสว่างที่สุดในแต่ละเดือนด้วย มันช่างโรแมนติคอะไรอย่างนี้ สำหรับใครที่อยากชมไฟจัดแสดงพิเศษนี้ สามารถเข้าไปดูตารางการจัดแสดงไฟของแต่ละเดือนได้ทางเวปไซต์ของโตเกียวทาวเวอร์เลย

ไม่ใช่แค่การชมแสงไฟของตัวหอคอยจากด้านนอก เราอยากจะแนะนำให้คุณขึ้นไปลองชมด้านบนบริเวณกลางคืนกันด้วย เพราะภายในจุดชมวิวเขาก็มีการตกแต่งไฟโดยเปลี่ยนไปตามเทศกาลต่างๆ อย่างในช่วงฤดูร้อนปีนี้เขาก็จัดเป็นธีมทางช้างเผือก ทำให้ตลอดทางเดินกลายเป็นสีฟ้า หรือในช่วงฤดูหนาวปีก่อนๆ ก็แต่งด้วยไฟสีส้มให้สมเป็นเทศกาลคริสมาสต์ ใครมองหาสถานที่สำหรับเดท ขอแต่งงาน ฉลองครบรอบต่างๆ โตเกียวทาวเวอร์ในยามค่ำคืนถือเป็นทางเลือกโรแมนติกที่คู่ของคุณต้องประทับใจไม่รู้ลืมอย่างแน่นอน

วิวที่มองจากจุดชมวิวในยามกลางคืน แม้จะอยู่สูงแค่ 150เมตร แต่ก็เป็นความสูงในระดับที่กำลังดี ทำให้มองเห็นแสงไฟในยามดึกได้ชัดเจน

ค่าเข้าชมจุดชมวิวหลักอยู่ที่ผู้ใหญ่ (นักเรียนชั้นมัธยมปลายขึ้นไป) 900เยน
เด็ก (นักเรียนประถมและมัธยมต้น) 500เยน
เด็กเล็ก (4ขวบขึ้นไป) 400เยน

จุดชมวิวจะเปิดตั้งแต่ 9.00 น. จนถึง 23.00 น. โดยสามารถเข้าได้ช้าสุด 22.30 น.

จริงๆ แล้วนอกจากจุดชมวิวหลักที่ความสูง 150เมตรแล้วนั้น โตเกียวทาวเวอร์ยังมีหอชมวิวพิเศษที่ความสูง 250เมตรอีกด้วย แต่ ณ ปัจจุบันในโอกาสที่โตเกียวทาวเวอร์กำลังจะครบรอบ 60ปีในเดือนธันวาคมปีหน้าที่จะถึงนี้ หอชมวิวพิเศษได้ทำการปิดปรับปรุงใหม่ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2016 ที่ผ่านมา อีกทั้งตั้งแต่วันที่ 4 กันยายน 2017 เป็นต้นไป จุดชมวิวหลักก็จะทำการปิดปรับปรุงเช่นกัน แต่จะทำการปิดกั้นครั้งละด้านจากทั้งหมด 4ด้าน โดยในส่วนแรกจะเริ่มปิดในด้านทิศเหนือก่อน เมื่อเสร็จแล้วก็ย้ายมาปิดด้านทิศอื่นไปเรื่อยๆ ทำให้ยังสามารถขึ้นไปใช้บริการได้ (แต่ก็จะดูวิวบางทิศที่กำลังซ่อมแซมไม่ได้เป็นต้น)

อย่างไรก็ตามในส่วนของการเปิดแบบเต็มรูปแบบอีกครั้งนั้นยังไม่มีกำหนดการออกมาเป็นพิเศษ

ตั้งแต่เมื่อเดือนมีนาคม 2015 ในบริเวณของโตเกียวทาวเวอร์ได้มีการเปิดตัวสวนสนุกแห่งใหม่ในธีมมังงะชื่อดังของญี่ปุ่นอย่าง One Piece ภายในนอกจากจะมีเครื่องเล่นต่างๆ แล้ว ยังมีฉากจำลองและตัวการ์ตูนต่างๆ จากในเรื่อง ให้เราได้เข้าไปถ่ายรูปแสดงความเป็นแฟนพันธุ์แท้กันได้

หลายคนอาจสงสัยว่าเป็นการเปิดเป็นอีเวนท์ชั่วคราวหรือเปล่า เพราะญี่ปุ่นนั้นมีอีเวนท์การ์ตูนชั่วคราวเยอะมากๆ แต่ที่นี่นั้นเปิดทำการถาวร เป็นสวนสนุกจริงๆจังๆเลย และจะเปิดไปเรื่อยๆ ปัจจุบันยังไม่มีแผนว่าจะปิดเมื่อไหร่

ในช่วงฤดูร้อนของปีนี้ เนื่องในโอกาสครบรอบการตีพิมพ์ต่อเนื่อง 20ปีของการ์ตูนเรื่องดังนี้ (มันช่างยาวนานอะไรอย่างนี้) ทางสวนสนุกได้จัดอีเวนท์เอาใจคนรักแก๊งค์โจรสลัดนี้อย่าง Tokyo Pirates Festival กิจกรรมหลักอย่างการพาตัวเองเข้าไปสู่โลกแห่งวันพีซกับ 360 Log Theater, The World of ONE PIECE

การจัดแสดงผลงานต้นฉบับของอาจารย์โอดะให้ได้ชมกันอย่างเต็มที่ พร้อมทั้งลองเล่นเกม ONE PIECE Grand Cruise เกม VR ที่คุณจะพาคุณดำดิ่งไปยังโลกของโจรสลัดกันแบบ 360องศา โดยคุณกับผองเพื่อนอีก 7คนจะสามารถเล่นเกมนี้ได้พร้อมกันแบบสนุกกันเป็นทีมไปเลย งานนี้เริ่มจัดตั้งแต่วันที่ 22 กรกฎาคมที่ผ่านมาโดยยังไม่มีกำหนดว่าจะจัดไปถึงเมื่อไหร่ คนรักวันพีซสมควรจองตั๋วไปเล่นอย่างด่วนๆ

นอกจากโซนของเล่นต่างๆแล้ว ที่นี่ก็ยังมีร้านค้าขายสินค้าที่ระลึกต่างๆ รวมไปถึงร้านอาหารของซันจิ ร้านคาเฟ่หมวกฟาง ร้านอาหารจานด่วนของแฟรงกี้ มีร้านต่างๆมากมายที่เอาตัวละครและเนื้อหาในวันพีซเป็นต้นแบบแล้วทำออกมาอย่างเข้าท่า

ในส่วนของราคาค่าเข้าชมมีให้เลือกด้วยกัน 3แบบ คือ
แบบรวมค่าเข้า ค่าเครื่องเล่น(บางส่วน)ค่าชมโชว์พิเศษ
แบบรวมค่าเข้า ค่าเครื่องเล่น(บางส่วน)แต่ไม่รวมค่าชมโชว์พิเศษ
และแบบรวมค่าเข้า ค่าเครื่องเล่น(บางส่วน) ไม่รวมค่าชมโชว์พิเศษ พร้อมบัตรเข้าชมจุดชมวิวหอคอยโตเกียวทาวเวอร์แบบเป็นเซต
นอกจากนี้แต่ละแบบยังมีทั้งราคาซื้อล่วงหน้าออนไลน์ และแบบซื้อหน้าทางเข้าอีกด้วย รายละเอียดเพิ่มเติมและราคาดูได้จากทางเวปไซต์

เวลาเข้าชมตั้งแต่ 10.00 น. ถึง 22.00 น. สามารถเข้าได้ช้าสุด 21.00 น.

การเดินทางไปยังโตเกียวทาวเวอร์สามารถนั่งรถไฟใต้ดิน
และรถไฟ JR ไปได้หลายเส้นทาง

เส้นทางที่เดินสั้นที่สุด คือสถานี Akabanebashi (赤羽橋駅) รถไฟใต้ดินสาย Toei Oedo Line (大江戸線) ให้บริการโดยรถไฟหน้าตาแบบในภาพด้านบน เพียงออกทางออก Akabanebashi Exit แล้วเดินต่อไปอีกประมาณ 5นาทีก็ถึงแล้ว

นอกจากนี้ยังมีสถานี Onarimon (御成門駅) ของรถไฟใต้ดินสาย Toei Mita Line (三田線) จากทางออก A1 เดินต่ออีกประมาณ 6นาที

รถไฟใต้ดินสถานี Kamiyacho สาย Tokyo Metro Hibiya Line (日比谷線) ลงทางออกที่ 2 แล้วเดินต่ออีกประมาณ 7นาที

หรือใครสะดวกรถไฟสายวงกลม JR Yamanote Line แค่นั่งไปลงที่สถานี Hamamatsucho (浜松町駅) ออกทางออกทิศเหนือแล้วเดินต่ออีก 15นาทีก็ได้ แม่จะเป็นสถานีที่เดินไกลสุดแต่รอบๆสถานีนี้มีของกินมากที่สุดเช่นกัน

วิธีเดินทางอื่นๆ เช่น ที่จอดรถยนต์สำหรับผู้ที่เช่ารถ รถบัส Tokyu รถบัส Toei รถจักรยานยนต์ และรถจักรยาน
สามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เวปไซต์ของโตเกียวทาวเวอร์ได้เลย

หลังจากความพ่ายแพ้ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ญี่ปุ่นถีบตัวเองขึ้นมาเป็นเจ้าแห่งเทคโนโลยี และกลายเป็นประเทศที่พัฒนาแล้วด้วยความรวดเร็ว นอกจากรถไฟความเร็วสูงชินคังเซ็น โตเกียวโอลิมปิค1964แล้ว ก็มีโตเกียวทาวเวอร์นี่แหละที่เป็นสัญลักษณ์ของการกลับมารุ่งเรืองอีกครั้งของญี่ปุ่น

สถานที่ท่องเที่ยวแห่งความทรงจำของคนญี่ปุ่นและต่างชาติหลายล้านชีวิต หอคอยแห่งความหวังของคนญี่ปุ่นในยุคโชวะ ความโรแมนติกในยามค่ำคืนของโตเกียวทาวเวอร์ ด้วยเหตุผลมากมาย ทำให้ที่นี่เป็นสถานที่ๆหากใครได้เดินทางมาท่องเที่ยวญี่ปุ่นและโตเกียวแล้วละก็ ควรจะต้องมาเยี่ยมชมให้ได้สักครั้งจริงๆ