หากได้มาโอซาก้าแล้วไม่ได้เข้าชมปราสาทโอซาก้าก็เหมือนกับมาไม่ถึง

ปราสาทโอซาก้าตั้งอยู่ใจกลางเมืองเดินทางสะดวกด้วยรถไฟใต้ดินหลายสาย บริเวณรอบๆปราสาทมีสวนสาธารณะขนาดใหญ่ เราจะเห็นบรรดาผู้สูงอายุชาวญี่ปุ่นมาเดินออกกำลังกายบ้างเห็นหนุ่มสาวมาเดินเล่นชมนกชมไม้บ้าง เห็นเด็กๆ นักเรียนมาฝึกกีฬาบ้าง ถือว่าเป็นแหล่งพักผ่อนหย่อนใจสำคัญของชาวโอซาก้าแห่งหนึ่งเลยก็ว่าได้

ที่สำคัญคือ ปราสาทโอซาก้าได้รับการแต่งตั้งให้เป็นสมบัติสำคัญทางวัฒนธรรมของประเทศญี่ปุ่น (ไม่ได้เป็นมรดกโลก) แล้วก็รูปลักษณ์ภายนอกนั้นสวยงามเหมาะแก่การเยี่ยมชมและถ่ายรูปยิ่งนัก

ปราสาทโอซาก้าถูกก่อสร้างครั้งแรกในปี 1583 มีอยู่ด้วยกัน 8ชั้น เป็นส่วนบนพื้นดิน 5ชั้น และใต้ดิน 3ชั้น โดยใช้เวลาสร้าง 14ปีจึงแล้วเสร็จ จุดเด่นของปราสาทนี้คือความสูงของกำแพงที่ทำจากหินก้อนใหญ่ยักษ์ หินที่ใหญ่ที่สุดในนั้นมีชื่อว่า "ทาโคะอิชิ (蛸石)" มีน้ำหนักมากถึง 130ตัน

ปราสาทโอซาก้ามีการปรับปรุงสร้างใหม่อยู่หลายครั้งตัวปราสาทเคยได้รับความเสียหายอย่างหนักด้วยกัน 2ครั้ง ครั้งแรกเกิดขึ้นในปี 1660 สาเหตุจากฟ้าผ่าลงมาที่คลังแสงของปราสาท ทำให้เกิดระเบิดและไฟไหม้ตัวปราสาทพังเสียหายเป็นอย่างมาก อีกครั้งคือในช่วงสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ญี่ปุ่นนำคลังแสงของปราสาทมาเป็นฐานการผลิตอาวุธยุทโธปกรณ์ที่สำคัญของประเทศ ทำให้ปราสาทถูกโจมตีจากทางฝ่ายพันธมิตรอย่างหนัก

หลังจากจบสงครามรัฐบาลญี่ปุ่นเริ่มบูรณะฟื้นฟู สร้างปราสาทใหม่โดยแน่นอนว่าพยายามให้กลับมาสวยงามตามอาคารต้นตำรับ แต่ในปัจจุบันภายในมีความทันสมัย มีการติดตั้งลิฟต์ให้บริการอย่างดี และมีโซนพิพิธภัณท์เพื่อให้ผู้เยี่ยมชมได้เรียนรู้อีกด้วย

ปราสาทโอซาก้าตั้งอยู่ที่เขตชูโอ (中央区) ของโอซาก้า ซึ่งเป็นเขตใจกลางของเมืองโอซาก้าเลย (ชูโอ แปลว่า การอยู่ใจกลาง ศูนย์กลาง หรือการมีความสำคัญ) นอกจากนี้ยังตั้งอยู่ใกล้สถานที่สำคัญอื่นๆของโอซาก้าเช่นย่านเศรษฐกิจที่สำคัญอย่างอุเมดะ (ในภาพ) หรือแม้แต่ย่านท่องเที่ยวอื่นๆที่คนไทยรู้จักกันดี เช่นโดทมโบริ หรือชินไซบาชิ ทำให้การเดินทางท่องเที่ยวนั้นสะดวกสบาย หากมาเที่ยวปราสาทในช่วงเช้าก็สามารถไปเที่ยวไปช้อปในย่านอื่นๆ ต่อได้ในช่วงบ่ายได้เลย และมีโรงแรมให้เลือกพักมากมายอีกด้วย

การเดินทางไปยังปราสาทโอซาก้านั้นง่ายมาก เนื่องจากอยู่ใจกลางเมืองและมีสถานีรถไฟล้อมรอบถึง 5 สถานี โดยเป็นสถานีใต้ดินสามสถานี

สถานี Temmabashi (天満橋駅)
สถานี Morinomiya (森ノ宮駅)
สถานี Osaka Business Park (大阪ビジネスパーク駅)

ซึ่งระยะทางจากแต่ละสถานีไปยังตัวปราสาทนั้นก็ไม่ต่างกันมากเท่าไหร่ แนะนำว่าให้เลือกว่าสถานีไหนเดินทางสะดวกสุดจากโรงแรมที่ตัวเองพัก โดยตรวจสอบจากแอพอย่าง Hyperdia

นอกจากนี้ยังนั่งรถไฟ JR ไปลงได้อีกที่สองสถานีคือ
สถานี Morinomiya (森ノ宮駅)
สถานี Osakajokoen (大阪城公園駅)

นี่เป็นเพียงแค่บางส่วนเท่านั้น สามารถตรวจสอบวิธีเดินทางอื่นๆ ได้ทางเวปไซต์หลักของปราสาทโอซาก้าด้านล่าง

ปราสาทโอซาก้าคิดค่าเข้าชมในราคาผู้ใหญ่ 600เยน ส่วนเด็กมัธยมต้นลงไปสามารถเข้าชมได้ฟรี ส่วนใครที่เดินทางไปเป็นหมู่คณะจำนวน 15คนขึ้นไปสามารถติดต่อกับทางปราสาทเพื่อเข้าชมในราคากรุ๊ปได้ (ที่เที่ยวในญี่ปุ่นส่วนใหญ่รองรับราคาพิเศษแบบกรุ๊ป ถ้าไปกันเยอะๆอย่าลืมลองถามดูนะ)

ส่วนเรื่องของกิน ปราสาทโอซาก้าเพิ่งทำการเปิดย่านร้านอาหารใหม่ โดยตั้งอยู่บริเวณทางทิศตะวันออกใกล้กับสถานีรถไฟ JR Osakajokoen ซึ่งนอกจากจะมีร้านอาหาร ร้านกาแฟ ร้านขนมหวานหลายร้านพอสมควรแล้ว ยังมีร้านจำหน่ายของฝากต่างๆ และจุดถ่ายภาพที่ระลึกอีกด้วย
และถ้าหากเหนื่อยระหว่างเดินอยู่ แน่นอนว่าปราสาทโอซาก้ามีตู้กดน้ำอัตโนมัติวางอยู่ทั่วไปในบริเวณสวนที่อยู่ภายนอกบริเวณที่คิดค่าเข้าชม เป็นมาตรฐานของเมืองในญี่ปุ่นเลย ลองเดินหาดูนะ

บริเวณด้านทิศตะวันตกใกล้กับสถานีรถไฟใต้ดินเทมมะบาชิ ช่วงฤดูใบไม้ผลิจะคราคร่ำไปด้วยชาวญี่ปุ่นมาชมดอกซากุระกัน

ต้นซากุระที่นี่มีมากกว่า 300ต้น เมืองโอซาก้ากำหนดให้ต้นซากุระที่นี่เป็นเครื่องมือกำหนด "ฤดูกาลซากุระบานของโอซาก้า" เลยทีเดียว หมายความว่า วันที่ซากุระที่นี่บานก็คือวันที่พยากรณ์อากาศจะประกาศว่า "ซากุระของโอซาก้าบานแล้ว"

เมื่อถึงฤดูกาลดอกซากุระต่างก็แข่งกันบานสะพรั่งสีชมพูอ่อนสวยละลานตา นอกจากนี้ในช่วงกลางคืนก็จะมีจัดไลท์อัพ ทำให้นักท่องเที่ยวสามารถมาเยี่ยมชมกันได้ทั้งช่วงกลางวันและกลางคืนเลย (เป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่ควรเลือกพักใจกลางเมือง) ใครสนใจก็นำอาหาร ขนม เสื่อไปนั่งล้อมวงชมดอกไม้เอ็นจอยสไตล์ชาวญี่ปุ่นกันได้เลย แต่ว่าต้องทิ้งขยะในที่ๆจัดเตรียมให้ หรือแบกกลับไปทิ้งเองนะ

ปราสาทโอซาก้าเปิดให้ชมทุกวัน เวลา 9.00 น. ไปจนถึง 17.00 น. โดยสามารถเข้าปราสาทได้อย่างช้าสุด 16.30 น.
ในช่วงซากุระบาน ช่วงวันหยุดยาว Golden Week ทางปราสาทจะขยายเวลาทำการไปจนถึงประมาณ 19.00 น. โดยแต่ละปีสามารถตรวจสอบช่วงระยะเวลาดังกล่าวได้ทางเวปไซต์หลักของปราสาท

ส่วนใครเดินทางไปช่วงสิ้นปีก็อาจจะต้องผิดหวัง เพราะว่าปราสาทจะปิดทำการในช่วงระหว่างวันที่ 28 ธันวาคม ถึง 1 มกราคม เพราะงั้นต้องวางแผนกันให้ดีๆ แล้วล่ะ

ปราสาทโอซาก้าเป็นสถานที่สำคัญทั้งในแง่ประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม และวิถีชีวิตของชาวโอซาก้าก็ว่าได้ นอกจากการไปถ่ายรูปเยี่ยมชมปราสาทที่มีความยิ่งใหญ่และสวยงามแล้ว ยังมีกิจกรรมอื่นๆ เช่น การลองแต่งกายแบบซามูไรหรือสาวญี่ปุ่นสมัยโบราณพร้อมถ่ายภาพเป็นที่ระลึก

หรือหากเสร็จจากปราสาทแล้ว จะเดินไปศึกษาประวัติของเมืองโอซาก้าที่พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์โอซาก้า (Osaka Museum of History) ใกล้ๆกันต่อได้เลย เที่ยวกันแบบได้ทั้งความสนุกและได้ทั้งความรู้ คุ้มค่าจริงๆ