เที่ยวน้ำตกในโทโฮคุ
ฤดูร้อนเป็นฤดูหนึ่งที่ผมชื่นชอบในประเทศญี่ปุ่นครับ ไม่ว่าจะเป็นเทศกาลต่าง ๆ มากมาย การแสดงดอกไม้ไฟ ตลอดจนถึงอาหารและเครื่องดื่มตามฤดูกาล ฤดูนี้มีสารพัดสิ่งให้คุณได้ตกหลุมรัก โดยเฉพาะในโทโฮคุ! อ่านมาถึงตอนนี้ คุณคงรู้แล้วนะครับว่า โทโฮคุนั้นอยู่ในใจผมเป็นพิเศษจริง ๆ ไม่ว่าจะอยู่ในฤดูไหนก็ตาม แต่ฤดูร้อนนั้นก็แตกต่างและมีความพิเศษของมันครับ
ผมมีโอกาสได้ออกสำรวจความงามทางธรรมชาติของจังหวัดยามากาตะ ได้ดำดิ่งลงไปในด้านที่เป็นธรรมชาติน่าตื่นเต้นของจังหวัดนี้ และเที่ยวชมน้ำตกที่สวยงามตระการตา (รวมถึงลำน้ำอีกหลายแห่งที่งดงาม)!
เทือกเขาซาโอะคงมีชื่อเสียงมากที่สุดจากการเป็นที่ตั้งของสกีรีสอร์ทระดับโลกครับ และเป็นที่รู้จักในฐานะถิ่นอาศัยของ “ปีศาจน้ำแข็ง” เทือกเขาที่สูงตระหง่านนี้เป็นที่ตั้งของวิวทิวทัศน์ที่งดงามราวกับภาพวาด ที่ให้ความรู้สึกยิ่งใหญ่จับใจไม่แพ้กันในช่วงฤดูร้อนครับ เพราะแม้แต่อากาศอุ่น ๆ หน้าร้อนของญี่ปุ่น ก็ไม่สามารถละลายหิมะออกจากยอดเขาในภูมิภาคโทโฮคุได้
จุดหมายแรกที่ผมแวะชมคือสระน้ำสีเขียวมรกต ที่มีชื่อว่าบึงด๊อกโกะนุมะ สระน้ำแห่งนี้ได้สมญานามมาจากคำว่า ด๊อกโกะ (独鈷) ในภาษาญี่ปุ่น ซึ่งหมายถึงวัชระ หรือเครื่องประดับที่มีรูปร่างคล้ายไม้ตะบอง ที่พระสงฆ์ใช้ประกอบพิธีกรรมทางศาสนาพุทธ ตำนานท้องถิ่นกล่าวกันว่า การระเบิดของภูเขาไฟในพื้นที่แห่งนี้ เกิดขึ้นจากความโกรธแค้นของมังกรที่ถูกพระสงฆ์ขับไล่ออกไปครับ
การปะทุของภูเขาไฟในครั้งนั้นแหละครับ คือสิ่งที่ทำให้ผืนน้ำในที่แห่งนี้มีสีสันต่างออกไป! บริเวณนี้ใช้เป็นที่พักอาศัยเล็ก ๆ ในช่วงฤดูหนาว แต่ในฤดูร้อนนั้น ที่นี่จะเหมาะกับการเดินเล่นเงียบ ๆ หรือพักผ่อนพักกินอาหารกลางแจ้ง
นอกจากนี้แล้ว ยังมีสระน้ำมารุอิเคะ หรือที่เรียกกันอีกชื่อว่า มารุอิเคะซามะ บึงแห่งนี้แวดล้อมไปด้วยผืนป่าทึบ ตั้งอยู่เคียงข้างศาลเจ้า ที่นี่ให้ความรู้สึกเหมือนก้าวเข้าไปในโลกเทพนิยายเลยทีเดียว
บึงน้ำนี้เกิดขึ้นจากตาน้ำใต้บาดาลครับ สระน้ำค่อนข้างตื้น ลึกเพียง 3.5 เมตร (ประมาณ 11.5 ฟุต) ซึ่งมีบทบาทสำคัญในประวัติศาสตร์ของที่แห่งนี้ครับ ต้นไม้และกิ่งก้านที่ล้มลง “ได้รับการปกปักรักษา” จากหนองน้ำ และกล่าวกันว่ามีรูปร่างคล้ายมังกรที่นอนอยู่บนก้นสระ
ว่าแต่น้ำตกที่ผมพูดไปล่ะ ที่นี่มีหุบเขานิโนะทากิ ที่มอบเส้นทางไต่เขายาวเหยียดให้แก่ผู้ที่ชื่นชอบธรรมชาติ ตลอดจนถึงน้ำตกที่ลดหลั่นเป็นชั้น ๆ แม้ผมจะเดินไปตามเส้นทางได้ไม่ไกลนัก แต่เสียงที่ชวนให้รู้สึกผ่อนคลายของสายน้ำไหลนั้น เป็นเพื่อนร่วมทางที่ดีระหว่างทางไปยังน้ำตกที่ผมสำรวจดู โอกาสหน้าผมอยากกลับไปเดินเที่ยวที่นี่ให้ครบในฤดูใบไม้ร่วง แล้วชมใบไม้เปลี่ยนสีไปพร้อม ๆ กัน
ต่อไปเป็นน้ำตกทามาสึดาเระ ครับ ในฐานะน้ำตกที่ใหญ่ที่สุดในจังหวัดยามากาตะ น้ำตกทามาสึดาเระนั้นทอดยาวถึง 63 เมตร (ประมาณ 206 ฟุต) เลยทีเดียว และไหลผ่านชั้นหินซึ่งเกิดจากการระเบิดของภูเขาไฟที่อยู่ใกล้เคียงอีกด้วย ซึ่งก็คือภูเขาโชไค
ชื่อของน้ำตกทามาสึดาเระ (玉簾) นั้นหมายถึงฉากม่าน มีที่มาจากลักษณะของสายน้ำที่ไหลลงมารวมกันกับแม่น้ำด้านล่าง แม้ว่าผมจะไม่ได้อยู่ที่นี่ถึงตอนกลางคืน แต่ที่นี่จะมีงานแสดงไฟที่ส่องสว่างในตอนค่ำของเดือนสิงหาคม เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองเทศกาลโอบง ซึ่งเป็นเทศกาลที่ชาวพุทธจัดขึ้นเพื่อบูชาดวงวิญญาณของบรรพบุรุษครับ
ผมคงสะเพร่าน่าดูครับ ถ้าลืมพูดถึงปลายทางที่ผมแวะชมที่ปล่องภูเขาไฟโอกามะ ซึ่งตั้งอยู่ใกล้กับยอดเขารองของเทือกเขาซาโอะ บนพรมแดนเชื่อมต่อจังหวัดยามากาตะและมิยางิ เหตุที่สถานที่แห่งนี้ถูกตั้งชื่อว่าโอกามะ (お釜) นั้นก็เพราะมีรูปร่างคล้ายกับหม้อโบราณของญี่ปุ่นครับ ส่วนเหตุที่ทะเลสาปในปล่องภูเขาไฟมีสีสันงดงามเหลือเชื่อนั้น ก็เนื่องจากการระเบิดของภูเขาไฟครับ (อีกแล้ว) และบอกเลยว่าต้องเห็นด้วยตาเท่านั้น ถึงจะเชื่อ!
สถานที่ทั้งหมดที่กล่าวมานี้ยังเป็นเพียงแค่ผิวเผินเท่านั้นเองครับ! ไม่ว่าจะฤดูไหนก็ตาม โทโฮคุมีธรรมชาติอยู่มากมายจนคุณไล่ดูไม่จบ เชิญชมศูนย์รวมสารพันข้อมูลเกี่ยวกับโทโฮคุของ AAJ แล้วเริ่มวางแผนเที่ยวของคุณได้เลยครับ!