All About Japan

5 เทคนิคในการเดินทางในโตเกียว

เทคโนโลยี การเดินทาง รถไฟ ข้อมูล ชีวิตในญี่ปุ่น เที่ยวด้วยตัวเอง ครั้งที่สองในญี่ปุ่น Tokyo Kanto
5 เทคนิคในการเดินทางในโตเกียว

การเดินทางในโตเกียวนั้นสุดแสนสบาย ในสถานีรถไฟส่วนใหญ่ก็มีภาษาอังกฤษกำกับ ฉะนั้นเรื่องการขึ้นรถไฟผิดคงจะไม่ใช่ปัญหา แต่คำถามที่ถูกถามมามากนั้นส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องของการเลือกการเดินทางยังไงให้เหมาะกับทริปมากกว่า ลองไปดูคำตอบกัน เผื่อว่าจะช่วยให้ทริปมาโตเกียวของคุณครั้งนี้ง่ายขึ้น

1. ขับรถเที่ยวโตเกียวดีไหม?

1. ขับรถเที่ยวโตเกียวดีไหม?

ระบบรถสาธารณะของโตเกียวนั้นเรียกได้ว่าเพอร์เฟคท์เลยทีเดียว เพราะอยากจะไปไหนรถไฟและรถบัสก็ครอบคลุมทั้งหมด นอกจากนี้ ในสถานีรถไฟส่วนใหญ่ก็มีลิฟท์และบันได้เลื่อน กลับกัน การเดินทางด้วยรถนั้นอาจจะไม่สะดวก เพราะนอกจากจะหาที่จอดรถยากแล้ว ค่าจอดรถก็ยังแพงมากๆ ด้วย แถมบางจุดก็ยังรถติดหนักอีกต่างหาก ฉะนั้นถ้าเป็นไปได้ก็ให้เลี่ยงการขับรถและหันมาใช้รถไฟและรถบัสดีกว่า

2. ช่วงเวลาเร่งด่วนของโตเกียวคือกี่โมง?

2. ช่วงเวลาเร่งด่วนของโตเกียวคือกี่โมง?

ช่วงเวลาเร่งด่วนของโตเกียวจะมีสองช่วงคือ ช่องเช้าก่อนเริ่มงาน และช่วงเย็นหลังเลิกงาน ฉะนั้นถ้าเลี่ยงได้จริงๆ ให้พยายามเลี่ยงการขึ้นรถไฟช่วง 8.00-9.00 และ 18:00-19.30 (สำหรับรถไฟ JR สาย Yamanote) และ 7.30-9.00 และ 17.30-19.30 (สำหรับรถไฟใต้ดิน Tokyo Metro) เพราะนอกจากรถจะแน่นมากแล้ว สถานนีใหญ่ๆ อย่าง Shinuku, Tokyo, Ikebukuro นั้นยังเนืองแน่นไปด้วยผู้คนที่สวนสนามเดินทางไปยังสถานีรถไฟอีกด้วย นอกจากเราจะโดนเบียนจนบี้แบนแล้ว บางทีก็อาจจะลงไม่ทันป้ายที่ต้องการจะลงด้วย ถ้าจะเป้นจะต้องขึ้นรถแน่นๆ จริงๆ ให้พยายามเลือกทางออกใกล้ๆ ประตูที่จะลง และเมื่อเวลาประตูเปิด ก้ให้ลงจากรถไฟเพื่อให้คนที่จะลงได้ลงก่อน และขึ้นรถคนสุดท้ายเพื่อที่จะได้อยู่ใกล้ประตูมากที่สุด ทั้งนี้ ต้องมั่นใจว่าจะเบียดกลับขึ้นไปได้ด้วยนะ

3. ควรซื้อตั๋วรถไฟแบบเหมารายวันหรือไม่?

3. ควรซื้อตั๋วรถไฟแบบเหมารายวันหรือไม่?

เป็นคำถามที่ผู้เขียนถูกถามมากที่สุดเป็นอันดับต้นๆ เลย ตามความเห็นส่วนตัวของผู้เขียนแล้ว สำหรับคนที่ไม่ได้ซื้อ JR Pass มา การซื้อตั๋ววันอาจจะไม่คุ้ม เพราะตั๋ววันนั้นสามารถใช้ได้เฉพาะสายรถไฟเท่านั้น ไม่ได้ครอบคลุมทั้งหมด และต้องขึ้นๆ ลงๆ หลายเที่ยวมากๆ ถึงจะคุ้ม ก็เลยไม่อยากแนะนำเท่าไหร่ แต่ขอนะนำให้ซื้อตั่วเติมเงินแบบ IC Card อย่าง Suica หรือ Passmo เลยดีกว่า ราคาจะถูกกว่าซื้อตั๋วเป็นครั้งๆ ไปไม่กี่เยน แต่ความสะดวกคูณร้อยเลย แถมยังใช้ซื้อขนมนมเนยในร้านในสถานีได้ด้วย

4. ค่าแท็กซี่ประมาณเท่าไหร่?

4. ค่าแท็กซี่ประมาณเท่าไหร่?

ทราบไหมว่าค่าแท็กซี่ของญี่ปุ่นพึ่งปรับราคาสดๆ ร้อนๆ เลย จากแต่เติมเริ่มต้น 730 เยน และมิเตอร์จะขึ้น 90 เยนทุกๆ 280 เมตร เปลี่ยนมาเป็นสตาร์ทที่ 410 เยน แต่มิเตอร์จะขึ้น 80 เยนทุก 237 เมตร นั่นหมายความว่าถ้านั่งระยะสั้นๆ ค่าแท็กซี่จะถูกลงมาก แต่กลับกัน ถ้านั่งไกลๆ ค่าแท็กซี่จะแพงกว่าเดิม จากแต่เดิมนั่งรถแท็กซี่จากในเมืองโตเกียวไปสนามบินนาริตะก็เหยียบ 20,000 เยนแล้ว ตอนนี้ไม่อยากคิดราคาเลย

5. เทียบราคารถไฟไปสนามบินนาริตะให้หน่อยสิ

5. เทียบราคารถไฟไปสนามบินนาริตะให้หน่อยสิ

พูดถึงสนามบินนาริตะตอนนี้หลายๆ คนคงจะเบ้ปาก เพราะว่าไกลและไม่สะดวกสบายเท่าสนามบินฮาเนดะ แต่ทราบไหมว่ารถด่วนไป-กลับนาริตะพึ่งจะปรับราคาลง จากแต่เดิมเที่ยวละ 3,300 เยน มาเป็นราคาไป-กลับ 4,000 เยน หรือรอบละ 2,000 เยนเท่านั้น ซึ่งราคาแทบไม่ต่างจากรถบัสเลยทีเดียว แถมยังจอดที่สถานีใหญ่ๆ เรียกว่าสะดวกมากๆ แต่ถ้สใครสนใจการเดินทางที่ถูกกว่านั้น ขอแนะนำให้ขึ้นรถ Keisei Line Express ไป Narita Airport โดยต้องไปขึ้นที่สถานี JR Nippori (日暮里)ชานชาลาที่ 2 (ไม่ใช่ Keisei Sky Liner ที่ชานชาลา 1 นะ ถ้าเผลอขึ้นไปจะต้องจ่ายค่ารถด่วนเพิ่มอีก 1,200 เยน) ใช้เวลาประมาณ 1 ชม. ครึ่งจาก Nippori และราคาอยู่ที่ 1,025 เยนต่อเที่ยวเท่านั้น

know-before-you-go