All About Japan

9 มรดกโลกจากการปฏิวัติอุตสาหกรรมเมจิ

สถานที่ทางประวัติศาสตร์ มรดกโลก รู้ลึกเรื่องญี่ปุ่น ครั้งที่สองในญี่ปุ่น Fukuoka Iwate Kagoshima Kumamoto Nagasaki Saga Shizuoka Yamaguchi Kyushu

แหล่งการปฏิวัติอุตสาหกรรมเมจินั้น เป็นพื้นที่ที่สะท้อนให้เห็นถึงการพัฒนาอย่างรวดเร็วที่ทำให้ญี่ปุ่นกลายมาเป็นมหาอำนาจด้านอุตสาหกรรมในช่วงครึ่งหลังของศตวรรษที่ 19 ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการผลิตเหล็กและเหล็กกล้า การหลอมปืนใหญ่ การประกอบเรือ และการทำเหมืองถ่านหิน จึงได้รับเลือกให้บันทึกเป็นมรดกโลกแล้วสดๆ ร้อนๆ ในปี 2015 ที่ผ่านมานี้เอง

1. แหล่งการปฏิวัติอุตสาหกรรม Hagi ในจังหวัด Yamaguchi

1. แหล่งการปฏิวัติอุตสาหกรรม Hagi ในจังหวัด Yamaguchi

http://tabico.jp/neta/tp100000288/

Hagi เป็นเมืองศูนย์กลางของกลุ่มกบฏระดับแนวหน้าสองกลุ่มที่อยู่เบื้องหลังการปฏิรูป Meiji ซึ่งที่นี่เป็นสถานที่แรกเริ่มที่ทุ่มเทเพื่อปรับปรุงเทคโนโลยีด้านอุตสาหกรรมในระดับท้องถิ่น โดยบริเวณนอกใจกลางเมืองในหลายจุดเราจะสามารถพบเตาถลุงแบบนอน (Reverberatory Furnace) ตั้งอยู่ นอกจากนี้ก็มีซากของอู่เรือ และซากโรงงานผลิตเหล็กซึ่งสร้างขึ้นเพื่อต่อเรือนาวีแบบตะวันตก โดยใช้เทคนิคการผลิตเหล็กแบบดั้งเดิมของญี่ปุ่น

2. แหล่งการปฏิวัติอุตสาหกรรมในจังหวัด Kagoshima

2. แหล่งการปฏิวัติอุตสาหกรรมในจังหวัด Kagoshima

https://uk.pinterest.com/pin/314829830180453020/

จังหวัด Kagoshima นั้นเป็นเมืองศูนย์กลางของกลุ่มกบฏชั้นนำอีกกลุ่มหนึ่งที่อยู่เบื้องหลังการปฏิรูป Meiji โดย Kagoshima นั้นเป็นที่แรกๆ ที่เริ่มมีความพยายามในการเสริมสร้างความแข็งแกร่งในการป้องกันประเทศด้วยการหล่อปืนใหญ่และต่อเรือขึ้น โดยสถานที่เหล่านี้ล้วนแต่มีความเกี่ยวข้องกับพื้นที่อุตสาหกรรมที่อยู่บริเวณรอบๆ โดยเขตอุตสาหกรรมนี้รวมไปถึงฐานของเตาเผาที่ปรักหักพัง โรงงานเครื่องจักร (ปัจจุบันเป็นที่ตั้งของพิพิธภัณฑ์) และที่พักอาศัยสำหรับวิศวกรชาวต่างชาติ นอกจากนี้ ยังรวมไปถึงสถานที่ที่อยู่บนเนินเขาได้แก่ ซากเตาเผาถ่านไม้ และซากประตูน้ำที่ทำหน้าที่จัดหาถ่านไม้และพลังงานน้ำให้แก่โรงงาน

3. เตาถลุงแบบนอน Nirayama แหล่งการปฏิวัติอุตสาหกรรมในจังหวัด Shizuoka

3. เตาถลุงแบบนอน Nirayama แหล่งการปฏิวัติอุตสาหกรรมในจังหวัด Shizuoka

https://commons.wikimedia.org/wiki/File:Reverberatory_furnace_of_Nirayama.jpg

เตาถลุงแบบนอน Nirayama ในจังหวัด Shizuoka นั้น สร้างขึ้นโดยรัฐบาล Tokukawa ในปี 1857 ซึ่งถือได้ว่าเป็นจุดเปลี่ยนของการก้าวไปสู่การผลิตเหล็กสมัยใหม่ในญี่ปุ่นเลยทีเดียว โดยเหล็กที่ถลุงในพื้นที่นี้จะถูกนำมาหล่อเป็นปืนใหญ่ สำหรับใช้ในการป้องกันพื้นที่แนวชายฝั่ง โดยเตาถลุง Nirayama นี้ก็สร้างขึ้นจากหินของ Izu ซึ่งถือได้ว่าเป็นเตาถลุงแนวนอนที่ยังคงหลงเหลืออยู่จากยุคนั้น โดยมีสภาพที่สมบูรณ์แบบที่สุด พร้อมกับเตาเผาและปล่องสี่ปล่อง

4. แหล่งการปฏิวัติอุตสาหกรรม Kamaishi ในจังหวัด Iwate

4. แหล่งการปฏิวัติอุตสาหกรรม Kamaishi ในจังหวัด Iwate

http://find-travel.jp/article/18160

เขตอุตสาหกรรม Kamaishi ในจังหวัด Iwate นั้นอยู่ในภูมิภาคโทโฮคุ ซึ่งจัดว่ามีตำแหน่งที่ตั้งอยู่ห่างไกลจากแหล่งอื่นๆ มากที่สุด โดยที่นี่จะมีเตาถลุงทรงสูง ที่นับได้ว่าเป็นเตาถลุงแบบตะวันตกเตาแรกที่สร้างขึ้นในญี่ปุ่น ในปัจจุบัน คงเหลือแต่เพียงส่วนฐานรากและซากของเตาถลุงสามเตา รวมถึงเครื่องสูบพลังน้ำเท่านั้น โดยเขตอุตสาหกรรมนี้ตั้งอยู่ลึกเข้าไปในเขตภูเขาที่มีป่าปกคลุม

5. ซากอู่ต่อเรือนาวี Mietsu แหล่งการปฏิวัติอุตสาหกรรมในจังหวัด Saga

5. ซากอู่ต่อเรือนาวี Mietsu แหล่งการปฏิวัติอุตสาหกรรมในจังหวัด Saga

https://www.city.saga.lg.jp/main/3852.html

ซากอู่ต่อเรือนาวี Mietsu ในจังหวัด Sagao นี้สร้างขึ้นในปี 1858 โดยมีจุดประสงค์เพื่อใช้เป็นอู่สำหรับซ่อมและต่อเรือแห่งแรกของญี่ปุ่น โดยเรือยนต์ไอน้ำลำแรกของญี่ปุ่นก็ถูกสร้างขึ้นที่นี่ ในปัจจุบันนั้น น่าเสียดายที่โครงสร้างของอู่ของจริงนั้นหลงเหลืออยู่ให้ดูน้อยมาก แต่ที่พิพิธภัณฑ์อนุสรณ์สถาน Sano Tsunetami Memorial Museum ที่อยู่ติดกันนั้นมีให้บริการแว่นตาเสมือนจริง ที่จะช่วยให้ผู้มาเยือนได้มองเห็นภาพเสมือนของโครงสร้างอู่เรือที่ทำขึ้นมาให้มีหน้าตาราวกับว่าได้ไปยืนที่ตรงนั้นด้วยตนเองในช่วงเมื่อครึ่งศตวรรษที่ผ่านมาเลยทีเดียว

6. แหล่งการปฏิวัติอุตสาหกรรมในจังหวัด Nagasaki

6. แหล่งการปฏิวัติอุตสาหกรรมในจังหวัด Nagasaki

http://www.nippon.com/ja/genre/society/l00105/

ในยุคสมัยที่ญี่ปุ่นปิดประเทศนั้น Nagasaki เป็นเมืองท่าเพียงแห่งเดียวที่เปิดท่าเพื่อให้บริการแก่พ่อค้าชาวตะวันตก โดยเมืองนี้ได้รับเลือกให้เป็นสถานที่ต่อเรืออันทันสมัยแห่งแรกของประเทศและ ยังเป็นที่ตั้งของโรงเรียนนายเรืออีกด้วย อู่ต่อเรือนี้ถือได้ว่ามีอุปกรณ์ที่ทันสมัยมากที่สุดในยุคนั้น และอุปกรณ์บางส่วนก็ยังคงใช้งานได้จนกระทั่งในปัจจุบันนี้ นอกจากนี้แล้ว สองเกาะนอกชายฝั่ง ซึ่งได้แก่ Takashima และ Hashima (เป็นที่รู้จักดีกว่าในชื่อ Gunkanjima) ยังเคยมีบทบาทในการสนับสนุนเหมืองแร่ที่ผลิตถ่านหินสำหรับใช้ที่อู่ต่อเรือและใช้ในงานเหล็กกล้าใน Kitakyushu อีกด้วย

7. เหมืองถ่านหินในจังหวัด Fukuoka และ Kumamoto

7. เหมืองถ่านหินในจังหวัด Fukuoka และ Kumamoto

http://www.japansmeijiindustrialrevolution.com/en/site/miike/component01.html

ตั้งแต่ในยุคเมจิ มีการสร้างเหมืองมากมายตามแนวทะเลในจังหวัด Fukuoka และ Kumamoto โดยในบรรดาเหมืองเหล่านี้ มีสองเหมืองถ่านหินที่ดีที่สุดคือเหมือง Manda และ Miyanohara ได้รับการยกย่องให้เป็นแหล่งมรดกโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง สำหรับเหมือง Manda ในปัจจุบันนั้นมีการอนุรักษ์โครงสร้างของลิฟต์รวมถึงสิ่งก่อสร้างอิฐอื่นๆ ที่รายล้อมมากมาย นอกจากนี้ ท่าเรือ Miike ที่อยู่ใกล้เคียง และทางรถไฟเชื่อมต่อท่าเรือกับเหมืองต่างๆ ที่ไม่สามารถใช้งานได้ในปัจจุบันก็ยังได้รับการอนุรักษ์ไว้ด้วยเช่นกัน ในอดีตนั้นท่าเรือนี้ถือว่ามีความล้ำยุคเนื่องจากสามารถรองรับเรือขนาดใหญ่ให้จอดเทียบท่าได้ไม่ว่ากระแสน้ำของท้องทะเลจะแรงเพียงใด

8. ท่าเรือ Misumi West Port จังหวัด Kumamoto

8. ท่าเรือ Misumi West Port จังหวัด Kumamoto

https://www.kkday.com/en/product/4156

ท่าเรือ Misumi West Port สร้างขึ้นในปี 1884 โดยกลายมาเป็นสถานีขนส่งหลักสำหรับถ่านหินที่มาจาก Miike รวมทั้งสำหรับสินค้าต่างๆ อาทิ ข้าว ข้าวสาลี และแป้ง อย่างไรก็ตาม ท่าเรือนี้มีความคึกคักอยู่เพียงแค่ประมาณ 10 ปีเท่านั้น ก่อนเปลี่ยนมาใช้ทางรถไฟสายใหม่ ในปัจจุบัน พื้นที่ของท่าเรือ Misumi West Port ได้ถูกการอนุรักษ์ทั้งส่วนสะพานหินสำหรับจอดเรือรวมไปถึงอาคารสิ่งก่อสร้างที่มีความสำคัญในประวัติศาสตร์หลายแห่งเ่นกัน โดยผู้คนสามารถเข้าไปเยือนภายในอาคารเหล่านี้ได้ นอกจากนี้ก็ที่เป็นที่ตั้งของร้านกาแฟที่มีบรรยากาศดีน่านั่งด้วย

9. แหล่งการปฏิวัติอุตสาหกรรม Kitakyushu ในจังหวัด Fukuoka

9. แหล่งการปฏิวัติอุตสาหกรรม Kitakyushu ในจังหวัด Fukuoka

http://www.rurubu.com/news/detail.aspx?ArticleID=2441

Imperial Steel Works ที่ Kitakyushu นั้น สร้างขึ้นในช่วงปลายยุคเมจิ และมีบทบาทที่สำคัญต่อการพัฒนาอุตสาหกรรมเหล็กกล้าสมัยใหม่ในญี่ปุ่น ในปัจจุบันอาคารแห่งนี้ยังคงปฏิบัติการโดยอยู่ภายใต้การดูแลของเอกชน ในขณะที่สิ่งก่อสร้างที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ รวมทั้งอดีตสำนักงานใหญ่ โรงตีเหล็ก และโรงซ่อมต่างก็ยังคงได้รับการอนุรักษ์ไว้ภายในพื้นที่ของโรงงาน นักท่องเที่ยวไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าใกล้ เข้าไปภายใน หรือถ่ายภาพอาคาร แต่จะสามารถชมได้จากระยะไกลเท่านั้น

- www.th.jal.com (ภาษาไทย)

know-before-you-go