9 มรดกโลกจากการปฏิวัติอุตสาหกรรมเมจิ
แหล่งการปฏิวัติอุตสาหกรรมเมจินั้น เป็นพื้นที่ที่สะท้อนให้เห็นถึงการพัฒนาอย่างรวดเร็วที่ทำให้ญี่ปุ่นกลายมาเป็นมหาอำนาจด้านอุตสาหกรรมในช่วงครึ่งหลังของศตวรรษที่ 19 ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการผลิตเหล็กและเหล็กกล้า การหลอมปืนใหญ่ การประกอบเรือ และการทำเหมืองถ่านหิน จึงได้รับเลือกให้บันทึกเป็นมรดกโลกแล้วสดๆ ร้อนๆ ในปี 2015 ที่ผ่านมานี้เอง
1. แหล่งการปฏิวัติอุตสาหกรรม Hagi ในจังหวัด Yamaguchi
Hagi เป็นเมืองศูนย์กลางของกลุ่มกบฏระดับแนวหน้าสองกลุ่มที่อยู่เบื้องหลังการปฏิรูป Meiji ซึ่งที่นี่เป็นสถานที่แรกเริ่มที่ทุ่มเทเพื่อปรับปรุงเทคโนโลยีด้านอุตสาหกรรมในระดับท้องถิ่น โดยบริเวณนอกใจกลางเมืองในหลายจุดเราจะสามารถพบเตาถลุงแบบนอน (Reverberatory Furnace) ตั้งอยู่ นอกจากนี้ก็มีซากของอู่เรือ และซากโรงงานผลิตเหล็กซึ่งสร้างขึ้นเพื่อต่อเรือนาวีแบบตะวันตก โดยใช้เทคนิคการผลิตเหล็กแบบดั้งเดิมของญี่ปุ่น
2. แหล่งการปฏิวัติอุตสาหกรรมในจังหวัด Kagoshima
จังหวัด Kagoshima นั้นเป็นเมืองศูนย์กลางของกลุ่มกบฏชั้นนำอีกกลุ่มหนึ่งที่อยู่เบื้องหลังการปฏิรูป Meiji โดย Kagoshima นั้นเป็นที่แรกๆ ที่เริ่มมีความพยายามในการเสริมสร้างความแข็งแกร่งในการป้องกันประเทศด้วยการหล่อปืนใหญ่และต่อเรือขึ้น โดยสถานที่เหล่านี้ล้วนแต่มีความเกี่ยวข้องกับพื้นที่อุตสาหกรรมที่อยู่บริเวณรอบๆ โดยเขตอุตสาหกรรมนี้รวมไปถึงฐานของเตาเผาที่ปรักหักพัง โรงงานเครื่องจักร (ปัจจุบันเป็นที่ตั้งของพิพิธภัณฑ์) และที่พักอาศัยสำหรับวิศวกรชาวต่างชาติ นอกจากนี้ ยังรวมไปถึงสถานที่ที่อยู่บนเนินเขาได้แก่ ซากเตาเผาถ่านไม้ และซากประตูน้ำที่ทำหน้าที่จัดหาถ่านไม้และพลังงานน้ำให้แก่โรงงาน
3. เตาถลุงแบบนอน Nirayama แหล่งการปฏิวัติอุตสาหกรรมในจังหวัด Shizuoka
เตาถลุงแบบนอน Nirayama ในจังหวัด Shizuoka นั้น สร้างขึ้นโดยรัฐบาล Tokukawa ในปี 1857 ซึ่งถือได้ว่าเป็นจุดเปลี่ยนของการก้าวไปสู่การผลิตเหล็กสมัยใหม่ในญี่ปุ่นเลยทีเดียว โดยเหล็กที่ถลุงในพื้นที่นี้จะถูกนำมาหล่อเป็นปืนใหญ่ สำหรับใช้ในการป้องกันพื้นที่แนวชายฝั่ง โดยเตาถลุง Nirayama นี้ก็สร้างขึ้นจากหินของ Izu ซึ่งถือได้ว่าเป็นเตาถลุงแนวนอนที่ยังคงหลงเหลืออยู่จากยุคนั้น โดยมีสภาพที่สมบูรณ์แบบที่สุด พร้อมกับเตาเผาและปล่องสี่ปล่อง
4. แหล่งการปฏิวัติอุตสาหกรรม Kamaishi ในจังหวัด Iwate
เขตอุตสาหกรรม Kamaishi ในจังหวัด Iwate นั้นอยู่ในภูมิภาคโทโฮคุ ซึ่งจัดว่ามีตำแหน่งที่ตั้งอยู่ห่างไกลจากแหล่งอื่นๆ มากที่สุด โดยที่นี่จะมีเตาถลุงทรงสูง ที่นับได้ว่าเป็นเตาถลุงแบบตะวันตกเตาแรกที่สร้างขึ้นในญี่ปุ่น ในปัจจุบัน คงเหลือแต่เพียงส่วนฐานรากและซากของเตาถลุงสามเตา รวมถึงเครื่องสูบพลังน้ำเท่านั้น โดยเขตอุตสาหกรรมนี้ตั้งอยู่ลึกเข้าไปในเขตภูเขาที่มีป่าปกคลุม
5. ซากอู่ต่อเรือนาวี Mietsu แหล่งการปฏิวัติอุตสาหกรรมในจังหวัด Saga
ซากอู่ต่อเรือนาวี Mietsu ในจังหวัด Sagao นี้สร้างขึ้นในปี 1858 โดยมีจุดประสงค์เพื่อใช้เป็นอู่สำหรับซ่อมและต่อเรือแห่งแรกของญี่ปุ่น โดยเรือยนต์ไอน้ำลำแรกของญี่ปุ่นก็ถูกสร้างขึ้นที่นี่ ในปัจจุบันนั้น น่าเสียดายที่โครงสร้างของอู่ของจริงนั้นหลงเหลืออยู่ให้ดูน้อยมาก แต่ที่พิพิธภัณฑ์อนุสรณ์สถาน Sano Tsunetami Memorial Museum ที่อยู่ติดกันนั้นมีให้บริการแว่นตาเสมือนจริง ที่จะช่วยให้ผู้มาเยือนได้มองเห็นภาพเสมือนของโครงสร้างอู่เรือที่ทำขึ้นมาให้มีหน้าตาราวกับว่าได้ไปยืนที่ตรงนั้นด้วยตนเองในช่วงเมื่อครึ่งศตวรรษที่ผ่านมาเลยทีเดียว
6. แหล่งการปฏิวัติอุตสาหกรรมในจังหวัด Nagasaki
ในยุคสมัยที่ญี่ปุ่นปิดประเทศนั้น Nagasaki เป็นเมืองท่าเพียงแห่งเดียวที่เปิดท่าเพื่อให้บริการแก่พ่อค้าชาวตะวันตก โดยเมืองนี้ได้รับเลือกให้เป็นสถานที่ต่อเรืออันทันสมัยแห่งแรกของประเทศและ ยังเป็นที่ตั้งของโรงเรียนนายเรืออีกด้วย อู่ต่อเรือนี้ถือได้ว่ามีอุปกรณ์ที่ทันสมัยมากที่สุดในยุคนั้น และอุปกรณ์บางส่วนก็ยังคงใช้งานได้จนกระทั่งในปัจจุบันนี้ นอกจากนี้แล้ว สองเกาะนอกชายฝั่ง ซึ่งได้แก่ Takashima และ Hashima (เป็นที่รู้จักดีกว่าในชื่อ Gunkanjima) ยังเคยมีบทบาทในการสนับสนุนเหมืองแร่ที่ผลิตถ่านหินสำหรับใช้ที่อู่ต่อเรือและใช้ในงานเหล็กกล้าใน Kitakyushu อีกด้วย
7. เหมืองถ่านหินในจังหวัด Fukuoka และ Kumamoto
ตั้งแต่ในยุคเมจิ มีการสร้างเหมืองมากมายตามแนวทะเลในจังหวัด Fukuoka และ Kumamoto โดยในบรรดาเหมืองเหล่านี้ มีสองเหมืองถ่านหินที่ดีที่สุดคือเหมือง Manda และ Miyanohara ได้รับการยกย่องให้เป็นแหล่งมรดกโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง สำหรับเหมือง Manda ในปัจจุบันนั้นมีการอนุรักษ์โครงสร้างของลิฟต์รวมถึงสิ่งก่อสร้างอิฐอื่นๆ ที่รายล้อมมากมาย นอกจากนี้ ท่าเรือ Miike ที่อยู่ใกล้เคียง และทางรถไฟเชื่อมต่อท่าเรือกับเหมืองต่างๆ ที่ไม่สามารถใช้งานได้ในปัจจุบันก็ยังได้รับการอนุรักษ์ไว้ด้วยเช่นกัน ในอดีตนั้นท่าเรือนี้ถือว่ามีความล้ำยุคเนื่องจากสามารถรองรับเรือขนาดใหญ่ให้จอดเทียบท่าได้ไม่ว่ากระแสน้ำของท้องทะเลจะแรงเพียงใด
8. ท่าเรือ Misumi West Port จังหวัด Kumamoto
ท่าเรือ Misumi West Port สร้างขึ้นในปี 1884 โดยกลายมาเป็นสถานีขนส่งหลักสำหรับถ่านหินที่มาจาก Miike รวมทั้งสำหรับสินค้าต่างๆ อาทิ ข้าว ข้าวสาลี และแป้ง อย่างไรก็ตาม ท่าเรือนี้มีความคึกคักอยู่เพียงแค่ประมาณ 10 ปีเท่านั้น ก่อนเปลี่ยนมาใช้ทางรถไฟสายใหม่ ในปัจจุบัน พื้นที่ของท่าเรือ Misumi West Port ได้ถูกการอนุรักษ์ทั้งส่วนสะพานหินสำหรับจอดเรือรวมไปถึงอาคารสิ่งก่อสร้างที่มีความสำคัญในประวัติศาสตร์หลายแห่งเ่นกัน โดยผู้คนสามารถเข้าไปเยือนภายในอาคารเหล่านี้ได้ นอกจากนี้ก็ที่เป็นที่ตั้งของร้านกาแฟที่มีบรรยากาศดีน่านั่งด้วย
9. แหล่งการปฏิวัติอุตสาหกรรม Kitakyushu ในจังหวัด Fukuoka
Imperial Steel Works ที่ Kitakyushu นั้น สร้างขึ้นในช่วงปลายยุคเมจิ และมีบทบาทที่สำคัญต่อการพัฒนาอุตสาหกรรมเหล็กกล้าสมัยใหม่ในญี่ปุ่น ในปัจจุบันอาคารแห่งนี้ยังคงปฏิบัติการโดยอยู่ภายใต้การดูแลของเอกชน ในขณะที่สิ่งก่อสร้างที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ รวมทั้งอดีตสำนักงานใหญ่ โรงตีเหล็ก และโรงซ่อมต่างก็ยังคงได้รับการอนุรักษ์ไว้ภายในพื้นที่ของโรงงาน นักท่องเที่ยวไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าใกล้ เข้าไปภายใน หรือถ่ายภาพอาคาร แต่จะสามารถชมได้จากระยะไกลเท่านั้น
- www.th.jal.com (ภาษาไทย)