6 แหล่งเที่ยวที่ซ่อนอยู่ในจังหวัด Saga
จังหวัด Saga เป็นจังหวัดเล็กๆ ซ่อนอยู่ในภูมิภาค Kyushu ที่คนไม่ค่อยจะรู้กันว่ามีของดี แต่ขอบอกว่าถ้าใครพลาดแล้วล่ะก็จะเสียใจ เพราะที่นี่เต็มไปด้วยเครื่องปั้นดินเผาสวยงามมีชื่อเสียงลือลั่นทั่วญี่ปุ่น และเป็นที่ตั้งของอุทยานประวัติศาสตร์ที่เก่าแก่ตั้งแต่ยุค Yayoi (ประมาณ 300 ปีก่อนคริสตกาล) เลยทีเดียว
6. ตลาดเช้า Yobuko Morning Market
ตลาดเช้า Yobuko Morning Market เป็นแหล่งห้ามพลาดเลยถ้าชอบกินของสดใหม่ หรือชอบเดินดูข้าวของรวมไปถึงสนใจในวัฒนธรรมของชาวบ้านคนญี่ปุ่น ตลาดแห่งนี้ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกของท่าเรือ Yobuko ตลอดถนนยาวกว่า 200 เมตรนี้ เนืองแน่นไปด้วยแผงขายอาหารทะเลสดๆ รวมไปถึงอาหารแปรรูป ผัก และดอกไม้มากมาย เดินเพลินมากๆ ที่นี่จัดว่าถือเป็นหนึ่งในสามของตลาดเช้าที่ใหญ่ที่สุดของประเทศญี่ปุ่นเลยทีเดียว
5. เมือง Arita เมืองแห่งเครื่องเคลือบดินเผา
เมือง Arita เป็นเมืองเล็กๆทางตะวันตกของจังหวัด Saga ที่โด่งดังด้านเครื่องปั้นดินเผาที่งดงาม เป็นเครื่องเคลือบดินเผาสไตล์เฉพาะที่เรียกว่า Arita-yaki ฉะนั้นแหล่งท่องเที่ยวของเมืองนี้จึงมักจะเกี่ยวข้องกับเครื่องปั้นดินเผาตลอด ไม่ว่าจะเป็นวัด ศาลเจ้า หรือแม้แต่พิพิธภัณฑ์ อย่างศาลเจ้า Tozan ก็มีเสาโทริอิที่สร้างมาจากเครื่องเคลือบดินเผา หรือกำแพงบ้านเรือกที่เก่าแก่ของเมืองนี้ก็ประกอบขึ้นมาจากเครื่องเคลือบดินเผาต่างๆ เป็นเอกลักษณ์งดงาม
4. เมืองออนเซ็น Ureshino
ภูมิภาค Kyushu เป็นที่รู้กันดีว่ามีน้ำแร่ออนเซ็นดีติดอันดับของญี่ปุ่น ซึ่งน้ำแร่ของเมืองออนเซ็น Ureshino ของ Saga นี้ก็ยิ่งเป็นเมืองออนเซ็นที่มีน้ำแร่ธรรมชาติที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งของ Kyushu อีกต่างหาก และยังเป็นน้ำแร่ที่ดีต่อผิวพรรณมากที่สุดแห่งหนึ่งของญี่ปุ่น (สาวๆ หูผึ่ง!) ที่เมืองนี้มีแหล่งน้ำแร่มากถึง 17 แหล่ง และมีน้ำมากตลอดเวลา มีอุณหภูมิสูงถึง 100 องศาเซลเซียสเลยทีเดียว นอกจากนี้ยังมีชื่อเสียงในฐานะเป็นแหล่งผลิตชาเขียวแห่งหนึ่งของญี่ปุ่นอีกด้วย
3. ศาลเจ้า Yutoku Inari
ศาลเจ้า Yutoku Inari เป็นศาลเจ้านิกายชินโต เป็นศาลเจ้าอินาริที่ใหญ่และสำคัญเป็นอันดับ 3 รองมาจาก ศาลเจ้า Fushimi Inari ใน Kyoto และศาลเจ้า Kasama Inari ใน Ibaraki เลยทีเดียว โดยด้านบนของตัวศาลเจ้าจะเป็นจุดชมวิวที่สวยงามมีชื่อเสียงในทุกฤดูกาล สะพานสีแดงทอดคู่กับแม่น้ำสายเล็กๆ บริเวณด้านหน้าศาลเจ้าก็สวยงามและเป็นจุดที่ห้ามลืมไปถ่ายภาพเลยทีเดียว ศาลเจ้าแห่งนี้เป็นทีที่คนญี่ปุ่นนิยมไปสักการะขอพรให้เกิดความสำเร็จด้านธุรกิจ และเกิดความปลอดภัยในครอบครัว
2. เทศกาลแข่งบอลลูนนานาชาติ Saga International Balloon Fiesta
ไฮไลท์ของ Saga ที่ห้ามพลาดเลยก็คือ เทศกาลแข่งบอลลูนนานาชาติ Saga International Balloon Fiesta โดยปี 2016 นี้จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 28 ต.ค. – 6 พ.ย. จัดว่าเป็นงานเทศกาลบอลลูนที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย และเคยเป็นสถานที่จัดงานชิงแชมป์ระดับโลกในปี 1989 ด้วย โดยแต่ละปีจะมีการแข่งขันบอลลูนที่ส่งเข้าประกวดจากบริษัทยักษ์ใหญ่ ไปจนถึงร้านค้าเล็กๆ ต่างๆ ทั้งจากในและนอกประเทศญี่ปุ่น นอกจากนี้ยังมีการปล่อยบอลลูนการ์ตูน คาแรคเตอร์น่ารักมากมายเต็มท้องฟ้า ถ้าไปตอนบ่ายๆ จะสามารถเก็บภาพบอลลูนบนท้องฟ้าสีคราม และถ้าอยู่ในจนถึงเย็นก็จะได้วิวบอลลูนเป็นภาพ silhouette บนท้องฟ้าสีส้มยามพระอาทิตย์ตกดิน งดงามมากๆ
1. อุทยานประวัติศาสตร์ Yoshinogari
อุทยานประวัติศาสตร์ Yoshinogari เป็นอุทยานประวัติศาสตร์สมัย Yayoi (ประมาณ 600 ปีที่แล้ว) ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศญี่ปุ่น ถูกสร้างขึ้นใหม่โดยจำลองเมืองในสมัย Yayoi เอาไว้อย่างครบถ้วน เราจึงสามารถรับชมวิถีชีวิตดั้งเดิมของญี่ปุ่นในสมัยนั้นได้ ปัจจุบันได้ถูกลงทะเบียนเป็นมรดกของประเทศญี่ปุ่น ภายในอาณาบริเวณนั้นแบ่งออกเป็นหลายส่วน มีทั้งส่วนที่เป็นผืนป่าทึบ และทุ่งกว้างที่สามารถเดินเล่นได้อย่างเพลิดเพลิน เป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวห้ามพลาดสำหรับผู้ที่ชื่นชอบประวัติศาสตร์เลยทีเดียว
- www.jnto.go.jp (อังกฤษ)