ที่โรงงานเบียร์ Santory Musashino (สถานี Fuchu Honcho) นอกจากเราจะสามารถเข้าไปชมกรรมวิธีผลิตเบียร์ของโรงงานได้แล้ว ที่ปลายทางยังมีเบียร์สดๆ ใหม่ๆ Premium Malts ของ Santory มาให้เราได้ชิม ได้มากสุดถึงคนละ 3 แก้ว แถมกับแกล้มอีกต่างหาก นอกจากนี้ยังสอนวิธีรินเบียร์ให้น่ากินอีกด้วยนะ

ที่วัด Komyoji (สถานี Kamiyacho) มีบริเวณ open terrace ที่มีขนมญี่ปุ่นและน้ำชาจัดเตรียมไว้ให้ฟรีๆ โดยขนมญี่ปุ่นก็จะมีหลากหลายเปลี่ยนไปตามวัน โดยเหตุผลที่จัดให้ฟรีก็เพราะว่าพระของวัดนี้อยากจะดึงวัดให้เข้ามาอยู่ใกล้ตัวคนมากขึ้น ให้คนอยากจะมาและมาเที่ยวกันให้บ่อยๆ เท่านั้นเอง

ที่สวน Yokojikken Kawashinsui (สถานี Toyocho) นี้มีจุดลงเรืองญี่ปุ่นล่องแม่น้ำไว้ให้บริการ เรือที่ใช้เป็นเรือที่ใช้สืบทอดมาตั้งแต่สมัยเอโดะ โดยจะล่องชมแม่น้ำในระยะทางกว่า 800 เมตรและใช้เวลาประมาณ 20 นาที บรรยากาศริมฝั่งแม่น้ำช่างดีและสดชื่นจนแทบไม่อยากเชื่อเลยว่าอยู่ใน Tokyo

พระราชวังหรือ Tokyo Imperial Palace (สถานี Nijubashi Mae) สามารถเข้าชมได้ฟรีๆ ง่ายๆ เพียงแค่ยื่นใบสมัครขอเข้าชมทางอินเตอร์เน็ตก่อนเท่านั้นเอง สามารถเข้าไปในบริเวณที่เปิดให้คนทั่วไปเข้าชมได้รอบพระราชวังเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นตัวพระราชวังด้านนอก สวน สะพาน และบ่อน้ำสวยงาม

ที่สวน Shimizu Ike Koen (สถานี Gakugeidaigaku) นี้มีบ่อน้ำใหญ่ที่เปิดให้เข้าไปนั่งตกปลาได้ฟรีๆ จึงมักจะเห็นคนแถวนั้นไปนั่งกินลมชมวิวแะตกปลาเล่นกันอย่างเพลิดเพลิน จะไปนั่งตกเองหรือจะไปนั่งดูคนตกปลาก็เพลินได้เหมือนกัน เพราะตลอดทั้ง 4 ฤดูเราก็จะเห็นว่าเขามีเทคนิคตกปลาที่แตกต่างกันไปตามฤดูด้วย

เดินช้อปปิ้งมาทั้งวันแล้วก็สามารถมาแช่เท้าได้ที่ Komorebi no Ashiyu (สถานี Higashi-Yamatoshi) ที่นี่ล้อมรอบไปด้วยธรรมชาติเขียวขจี อาจจะไม่ใช่ออนเซ็น เป็นแค่น้ำร้อนธรรมดาๆ แต่ก็อุ่นสบายเท้าและผ่อนคลายความเหนื่อยล้าได้เป็นอย่างดีที่สุด นอกจากนี้ก็ยังมีน้ำพุร้อนที่นวดเท้าได้ด้วยนะ

ภายใน Edogawa Natural Zoo (สถานี Nishi-Kasai) แห่งนี้เนืองแน่นไปด้วยสารพัดสัตว์น่ารักอย่างแพนด้าแดง เพนกวินต่างๆ กว่า 50 ชนิด มีมุมทัศนศึกษาที่โชว์การให้อาหาร และมีมุมที่เข้าไปสัมผัสและเล่นได้ด้วย ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเข้าฟรี นอกจากนี้บริเวณใกล้ๆ สวนสัตว์ยังมีสวนญี่ปุ่นและบ่อน้ำใหญ่เอาไว้ให้พักผ่อนหย่อนใจอีกด้วย