Tsuetate Onsen เป็นออนเซ็นมีชื่อเสียงมาตั้งแต่อดีตแล้ว ชื่อ Tsuetate มาจากคำว่า Tsue ที่แปลว่าไม้เท้า ว่ากันว่าคนป่วยที่ถือไม้เท้ามาลงออนเซ็นนี้ ตอนกลับทิ้งไม้เท้าเดินตัวปลิวกลับได้เลย (ว่าไปนั่น) รอบๆ ออนเซ็นมีโรงแรมและเรียวกังมากมาย เดินไปอีกหน่อยก็จะเห็นตาน้ำด้วย อุณหภูมิน้ำในออนเซ็นนี้ไม่ร้อนมาก จัดว่าเป็นน้ำอุ่นๆ กำลังสบายน่าแช่

ออนเซ็นกว้างขวางแบบยืดขาได้สบายๆ เป็นที่นิยมของนักกีฬาและนักวิ่งต่างๆ ที่วิ่งรอบๆ นี้แล้วก็มาแวะพักกาย น้ำร้อนของออนเซ็นที่นี่จะมีคาร์บอนสูง (อารมณ์คล้ายๆ โซดา คือจะมีฟอง) แต่ตัวบ่อเป็นแบบเปิดหราอย่างที่เห็นในภาพ ไปตอนกลางวันอาจจะมีเขินเล็กน้อย น้ำออนเซ็นที่นี่มีอุณหภูมิอุ่นๆ สบายกำลังดี

ออนเซ็นที่นี่ล้อมกำแพงด้วยคอนกรีต ตัวบ่อมีอยู่ทั้งที่ชั้น 1 และบนชั้น 2 บนชั้น 2 จะมีอุณหภูมิข้องข้างร้อน และชั้นล่างจะเป็นแบบอุ่นๆ น้ำร้อนมีสีอ่อนๆ จากแร่ธาตุหลาดชนิด แต่ก็มีลักษณะใสไม่ขุ่น ไม่มีกลิ่น และแถมมีให้เลือกแช่ได้หลายบ่ออีกด้วย บ่อกว้างขวางแช่สบาย และมีที่ให้ล้างตัวด้วย ไม่น่าเชื่อเลยว่าแช่ฟรี

ออนเซ็นที่นี่ค่อนข้างเข้าถึงยากเพราะต้องขับรถไปและจอดรถก่อนจะลงเดินต่ออีกหน่อย แต่ที่นี่เป็นออนเซ็นที่มีชื่อเสียงมากของ Kyushu แค่เดินไปใกล้ๆ ก็จะมองเห็นควันพวยพุ่งออกมา และได้กลิ่นของแร่ธาตุ sulfur ที่มาจากตัวออนเซ็นนี้แต่ว่าไม่ได้แรงขนาดทนไม่ได้ สีของออนเซ็นเป็นสีออกฟ้าอมเขียวจางๆ สวยงามและเปี่ยมไปด้วยแร่ธาตุที่ดีต่อผิวพรรณและร่างกาย และอุณภูมิก็ร้อนไปจนถึงอุ่น แล้วแต่จุดที่ลงไปแช่อีกด้วย

ออนเซ็นกลางป่าที่เป็นออนเซ็นเก่าแก่ที่สุดของแถบนี้ แค่เดินเข้าไปใกล้ๆ จะเห็นกลุ่มควันลอยฟุ้งออกมาจากทางออนเซ็นและได้กลิ่นของแร่ sulfur ลอยมาแตะจมูก อุณหภูมิของน้ำร้อนเปลี่ยนไปตามจุดที่ลงแช่ และเปลี่ยนไปตามฤดูกาล ซึ่งถ้าเป็นฤดูหนาวก็จะเย็นและแทบจะแช่ไม่ได้เลย บริเวณใกล้ๆ มีบ่อที่เป็นโคลน สามารถเอามาพอกตัวและพอกเท้าได้ด้วยนะ อย่างไรก็ตาม ออนเซ็นเหล่านี้เป็นออนเซ็นกลางป่า อาจจะต้องมีรถและเตรียมหาที่เปลี่ยนเสื้อผ้ากันเองให้พร้อมก่อนด้วยล่ะ