องค์ประกอบหลักทั้ง 5 ของปราสาทญี่ปุ่น
1. หอคอยของปราสาท (Tenshu)
พอพูดถึงปราสาทแล้ว สิ่งที่ขาดไม่ได้เลยก็คือหอคอย หรือในภาษาญี่ปุ่นเรียกว่า Tenshu เป็นสิ่งปลูกสร้างสูงใหญ่ตั้งอยู่ใจกลางปราสาท คือสามารเรียกได้ว่าเป็นตัวปราสาทเองก็ว่าได้ โดยหลักฐานทางประวัติศาสตร์แล้ว มีการสร้างหอคอยนี้ขึ้นมากมายตั้งแต่ในอดีต มีมากกว่าร้อยแห่งเลยทีเดียว โดยหอคอยเหล่านี้ก็ได้ถูกซ่อมแซมหลายครั้งตามเวลา โดยสามารถแบ่งออกได้เป็น 3 ประเภทใหญ่ๆ คือ
1. หอคอยแบบ Fukugen Tenshu คือหอคอยที่ถูกบูรณะตามแบบของเดิมทุกประการ เช่นหอคอยของปราสาท Kakegawa จังหวัด Shizuoka หรือปราสาท Nagoya จังหวัด Aichi
2. หอคอยแบบ Fukko Tenshu คือหอคอยทีซ่อมแซมโดยไม่ได้ยึดตามแบบเดิม อย่างเช่นหอคอยของปราสาท Osaka
3. หอคอยแบบ Mogi Tenshu คือหอคอยที่สร้างเพิ่มขึ้นมาใหม่ภายหลัง โดยที่อดีตไม่เคยมีมาก่อน เช่นหอคอยของปราสาท Hirado จังหวัด Nagasaki
2. ประตูปราสาท (Jomon)
ประตูเป็นองค์ประกอบที่สำคัญของปราสาททุกหลัง ซึ่งประตูปราสาทนั้นไม่ได้เป็นแค่ทางเข้าออกธรรมดาๆ แต่ก็มักจะมีลูกเล่นที่ทำให้ศัตรูงง คือมักจะมีการออกแบบให้เวลาผ่านเข้าประตูไปแล้วจะต้องเลี้ยวหักเป็นมุมฉาก เพื่อที่ข้าศึกจะได้ไม่สามารถบุกตรงเข้ามาได้ และยังสามารถปิดประตูขังและโอบล้อมโจมตีกลับได้ในเวลาเดียวกันด้วย ลักษณะประตูแบบนี้ก็จะมีให้เห็นในปราสาทสำคัญๆ ที่เป็นยุทธวิถีทางการรบอย่างปราสาท Edo ใน Tokyo และปราสาท Osaka เป็นต้น
3. ป้อมปราการ (Yagura)
ป้อมปราการเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่สามารถพบเห็นได้ในปราสาท โดยมีลักษณะคล้ายกับหอคอย แต่จะเล็กกว่า คาดว่าจะสร้างขึ้นเพื่อเอาไว้เก็บอาวุธยุโธปกรณ์ต่างๆ หรือไม่ก็เอาไว้สร้างขึ้นเพื่อเป็นฐานยิงธนูใส่ข้าศึกนั่นเอง โดยป้อมนี้เปรียบเหมือนหัวใจสำคัญในการปกป้องปราสาทเลยทีเดียว ฉะนั้นในปราสาทจึงมีป้อมเป็นจำนวนมาก ยิ่งปราสาทใหญ่เท่าใด ป้อมก็จะยิ่งมากเท่านั้น นอกจากนี้ก้ยังมีปราสาทที่สร้างป้อมขึ้นเพื่อความสวยงามเพียงอย่างเดียว อย่างปราสาท Matsumoto ที่จังหวัด Nagano ที่เปิดป้อมเอาไว้เพื่อการชมจันทร์เท่านั้นอีกด้วย
4. กำแพงหิน (Ishigaki)
กำแพงหินเป้นสิ่งที่เรียกได้ว่าทนทานที่สุดของปราสาทก็ว่าได้ และเป็นจุดเด่นของปราสาทของญี่ปุ่นเช่นกัน ปราสาทหลายแห่งนั้นไม่มีกำแพงหิน นั่นเป็นเพราะต้องอาศัยเทคนิคการก่อนสร้างชั้นสูง ไม่ใช่แค่การนำหินมาเรียงๆ ง่ายๆ แต่ต้องมีการเลือกประเภทและลักษณะของหินอย่างละเอียด เพื่อจะได้ไม่มีช่องว่างระหว่างก้อนหินมาก เพราะจะทำให้พังทลายง่าย เราจึงมักจะเห็นกำแพงหินในปราสาทใหญ่ๆ และปราสาทที่สำคัญๆ ของญี่ปุ่นเท่านั้น
5. คูน้ำ (Hori)
คูตามรอบๆ ปราสาทนั้นเป็นอีกหนึ่งมาตรการคงามปลอดภัยของปราสาทนั่นเอง เป้นการขวางกันไม่ให้ศัตรูเข้าถึงปราสาทได้อย่างง่ายดายเกินไป โดยการขุดคูนั้น มีการขุดหลายแบบ อย่างการขุดให้เป็นรูปตัว V คือตรงกลางจะลึกที่สุด หรือขุดเพื่อให้ลาดเอียงลงมาเพียงด้านเดียวเป้นต้น นอกจากนี้ก็ยังนิยมเสริมสร้างความสวยงามโดยการนำต้นบังหรือไม้สวยงามต่างๆ มากปลูกปริเวณรอบๆ คูด้วยเช่นกัน
- www.jcastle.info (อังกฤษ)