All About Japan

8 ประโยชน์ของร้านสะดวกซื้อหรือ "คอมบินิ"

ช็อปปิ้ง ครั้งแรกในญี่ปุ่น

ร้านสะดวกซื้อในญี่ปุ่นมีมากมายตามทุกหัวมุมถนน คนญี่ปุ่นมีคำเรียกร้านสะดวกซื้อว่า ”คอมบินิ” ย่อมาจากคำว่า "Convenience Store" ในภาษาอังกฤษ และเอามาออกเสียงแบบญี่ปุ่นๆนั่นเอง คอมบินิญี่ปุ่นนอกจากจะสะดวกแล้ว บางเวลายังสามารถแปลงร่างเป็นร้านที่ช่วยชีวิตพวกเรายามยากได้อีกด้วย ไปดูกันว่าเราสามารถทำอะไรที่คอมบินิได้บ้าง

1. เช็คเทรนด์ขนมล่าสุด

1. เช็คเทรนด์ขนมล่าสุด

ในคอมบินิก็เหมือนโชว์รูมที่โชว์ขนมรุ่นใหม่ล่าสุด ไม่ว่าจะเป็นขนมลูกอมหรือแต่น้ำหวานต่างๆ เดินดูแพ็คเกจก็เพลิน หรือจะเหมาไปชิมก็เด็ด ที่สำคัญคือราคามิตรภาพ
คำเตือน: ถ้าเจอของที่ชอบแล้วแนะนำให้ซื้อทันที เพราะวันถัดไปมันอาจจะหายไปและมีขนมใหม่มาแทน

2. พักผ่อน

2. พักผ่อน

https://upload.wikimedia.org/wikipedia/commons/8/8b/%E3%82%B3%E3%83%B3%E3%83%93%E3%83%8B_-_panoramio_%284%29.jpg

คอมบินิบนทางด่วนหรือตามต่างจังหวัดเป็นเหมือนโอเอซิสเลยทีเดียว เพราะนอกจากจะสามารถให้เราจอดรถได้ฟรีๆ เพื่อพักผ่อนจากการขับรถอันยาวนานแล้ว บางแห่งก็มีพื้นที่จัดเอาไว้ให้นั่งพักหรือนั่งกินข้าวได้ด้วยเช่นกัน เท่านี้ก็สามารถชาร์จพลังไปต่อได้ ข้อควรระวังก็คือ ไม่ควรจอดรถนานเกินไป และไม่ควรจอดแล้วออกไปเที่ยว เมื่อเสร็จธุระแล้วก็ควรจะเดินทางไปต่อเพื่อให้คนอื่นเข้ามาพักผ่อนต่อได้ด้วย

3. อิ่มท้อง

3. อิ่มท้อง

คอมบินิไม่ได้มีขายแต่ขนมขบเคี้ยวอย่างเดียว แต่ยังมีอาหารให้กินแบบจริงๆ จังๆ จุดเด่นสุดๆก็คือ มักจะมีอาหารร้อนเช่นซุป โอเด้ง(สตูว์หรือพะโล้แบบญี่ปุ่น) ทำสดๆขายในร้านด้วย
คอมบินิยังมีไมโครเวฟให้อุ่นอาหารด้วย อาหารในคอมบินิมีหลากหลายตระการตาและค่อนข้างสดใหม่ มีทั้งข้าวปั้นและสลัดต่างๆ รวมทั้งซูชิและอาหารกล่อง ตบท้ายด้วยของหวานได้เลยโดยไม่ต้องไปไหนไกล ทั้งหมดนี้ แน่นอนว่าในราคามิตรภาพมากๆ

4. เช็คเทรนด์

4. เช็คเทรนด์

ของกิน ขนม น้ำ อะไรที่กำลังดังอยู่ ก็มักจะมีป้ายแปะอยู่เยอะๆ บ้างก็เขียนว่าออกใหม่ บ้างก็เป็นป้ายลดราคา จำนวนจำกัด และอื่นๆ ซึ่งถ้าเป็นร้านในพื้นที่ฮอตฮิตของชาวต่างชาติแล้วละก็ โอกาสที่จะมีป้ายภาษาอังกฤษหรือแม้แต่ภาษาไทยก็ไม่น้อยเลยละ

นอกจากของกินแล้ว การเดินสำรวจปกนิตยสารที่วางไว้ในคอมบินิก็ทำให้รู้ได้เลยว่าตอนนี้ดาราคนไหนฮอตฮิตอยู่(เพราะว่าคนไหนกำลังฮอตก็จะลงปกหลายๆ ปกพร้อมๆ กันเลยทีเดียว นอกจากนี้บางเล่มก็ยังสามารถเปิดอ่านตัวอย่างภายในได้ด้วย ทั้งนี้ดูคร่าวๆ ก็พออย่ายืนอ่านแบบจริงๆ จังนะ ถ้าจะอ่านแบบจริงๆ จังแนะนำให้ซื้อกลับไปอ่านสบายๆ ดีกว่า

5. กดตังค์ได้

5. กดตังค์ได้

http://www.sej.co.jp/in/th.html

เวลาช้อปเพลินเงินหมด ไปที่ 7-eleven ซึ่งทุกสาขาจะมีตู้ ATM ที่เชื่อมกับระบบ PLUS อยู่ที่พร้อมรับบัตร้ครดิตต่างชาติทุกบัตรจากทั่วทุกมุมโลก ดังนั้นหากต้องการกดเงินสดด่วนให้ลองมองหาร้านเซเว่นใกล้ๆ จุดที่อยู่ก่อนดูจะเป็นทางเลือกที่สะดวกและรวดเร็วที่สุด ยิ่งไปกว่านั้น นอกจากบัตรที่มีสัญลักษณ์ PLUS ซึ่งเป็นบัตรเครดิต Visa แล้ว บัตรเครดิตนานาชาติจากบริษัทอื่นอย่างเช่น Cirrus ซึ่งดําเนินกิจการโดย MasterCard ก็สามารถใช้ได้ด้วยเช่นกัน

6. มีห้องน้ำให้ใช้

6. มีห้องน้ำให้ใช้

คอมบินิส่วนใหญ่จะเปิดให้เราเข้าไปใช้ห้องน้ำได้ นับว่าเป็นพระมาโปรดในยามฉุกเฉินจริงๆ บางที่ก็อาจจะต้องบอกพนักงานสักนิดหนึ่งก่อนที่จะใช้บริการ ด้วยเหตุผลด้านความปลอดภัย ทั้งนี้ท้องน้ำในคอมบินิมักจะสะอาดเพราะพนักงานทำความสะอาดอยู่เสมอนั่นเอง

7. ทิ้งขยะได้

7. ทิ้งขยะได้

เคยสังเกตุไหมว่าประเทศญี่ปุ่นเป็นประเทศที่สะอาดมากๆ แต่ทั้งๆ ที่สะอาดแท้ๆ ทำไมไม่มีถังขยะตั้งอยู่ตรงไหนให้เห็นเลยล่ะ นั่นเพราะส่วนใหญ่แล้วคนญี่ปุ่นจะเก็บขยะกลับไปทิ้งที่บ้านตัวเองนั่นเอง แต่นักท่องเที่ยวอย่างเราๆ จะให้ถือขยะเดินไปเดินมาทั้งวัน เพื่อที่จะกลับไปทิ้งที่โรงแรมก็คงจะไม่ไหว ถ้าเป็นขยะเล็กๆ น้อยๆ แล้วล่ะก็ เราสามารถทิ้งได้ที่หน้าคอมบินิ เพียงแต่แยกขยะให้ถูกต้องตามที่เขาเขียนเอาไว้ และไม่เอาขยะจากที่พักตัวเองมาทิ้งที่คอมบินิก็เป็นพอ

8. มีเครื่องขายตั๋ว

8. มีเครื่องขายตั๋ว

https://upload.wikimedia.org/wikipedia/commons/d/de/Lawson_Loppi.jpg

เครื่องขายตั๋วนี้ ขายตั๋วหลายชิดเลย ไม่ว่าจะเป็นตั๋วคอนเสิร์ต กีฬา บัตรสำหรับเข้าชมสถานที่ต่างๆ อย่างพิพิธภัณท์จิบลิ Ghibli Museum (ซึ่งอันนี้ไม่มีขายหน้างาน ต้องจองที่ Lawson เท่านั้น) หรือตั๋วเข้า Disneyland ที่จะได้ไม่ต้องไปต่อแถวซื้อตั๋วที่หน้างานให้เสียเวลา หรือแม้แต่จองรถบัสก็ทำได้ และ บางเครื่องก็มีหน้าเมนูภาษาอังกฤษด้วย กดเสร็จแล้วก็เอาบิลไปจ่ายตังค์ที่แคชเชียร์ รอรับตั๋ว ก็เรียบร้อย

know-before-you-go