สวนสาธารณะซากปราสาททาคาโตะ (Takato Joshi Koen) สวนสาธารณะแห่งนี้มีชื่อเสียงในเรื่องของซากุระที่มีมากกว่า 1,500 ต้น นักท่องเที่ยวมักมาชื่นชมความงามของธรรมชาติในช่วงฤดูใบไม้ผลิมากกว่าตัวซากปราสาท

ในบางพื้นที่ของสวนนี้คุณจะเห็นต้นซากุระที่สยายกิ่งก้านสาขา ราวกับเป็นม่านท้องฟ้าเมื่อแหงนมองขึ้นไป เมื่อปีนไปจนถึงเนินที่สูงที่สุดของสวนนี้จะเห็นวิวเทือกเขาแอลป์ญี่ปุ่น

สามารถเดินทางไปโดยนั่งสาย Chuo Line จาก Tokyo หรือ Nagoya และเปลี่ยนไปขึ้นสาย Iida Line ที่ Okaya จากนั้นจึงต่อรถบัสจากสถานี Inakita (หรือ สถานี Inashi ) ไปที่สวน

เขาโคโบเป็นสถานที่ไฮกิ้งที่เหมาะกับนักปีนเขาทุกคน บนยอดเขาของภูเขานี้ที่อยู่ในเขตของจังหวัด Kanagawa จะเรียงรายไปด้วยซากุระในฤดูใบไม้ผลิ และในวันที่อากาศแจ่มใสยังมองเห็นภูเขาไฟฟูจิอีกด้วย

ภูเขาโคโบสามารถเดินทางมาจากโตเกียวได้ในเวลาเพียงสองชั่วโมง โดยนั่งสาย Odakyu Line มาลงที่สถานี Hadano

สวนสาธารณะฮานามิยามะใกล้ๆเมือง Fukushima นั้นเรียกได้ว่าเป็นดินแดนมหัศจรรย์ที่เต็มไปด้วยซากุระมากมาย นักท่องเที่ยวสามารถดื่มด่ำกับความงดงามของซากุระได้หลากหลายวิธี

ที่ศูนย์บริการนักท่องเที่ยวตรงใจกลางของสวนจะมีข้อมูลและเส้นทางแนะนำสำหรับผู้ที่สนใจ เส้นทางไฮกิ้งแนะนำคือเส้นทางที่ยาวที่สุด ซึ่งจะต้องผ่านเนินที่เต็มไปด้วยซากุระหลากหลายสายพันธุ์ เมื่อไปถึงจุดชมวิว จะสามารถมองเห็นยอดเขาอาซึมะที่ถูกปกคลุมด้วยหิมะ ไปพร้อมๆกับกลิ่นของต้นซากุระอ่อนๆที่โชยมาเข้าจมูก

สวนสาธารณะฮานามิยามะตั้งอยู่ทางตอนเหนือของญี่ปุ่น ฉะนั้นซากุระจะบานช้ากว่าทางตอนล่าง คือประมาณกลางถึงปลายเดือนเมษายน การเดินทางสามารถนั่งชินคันเซ็น 90 นาทีจากโตเกียวไปลงที่สถานี Fukushima จากนั้นจึงต่อรถบัส

เกาะมิยาจิม่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงในเรื่องของเสาโทริอิที่ตั้งอยู่กลางน้ำ แต่นอกจากนั้น ในฤดูใบไม้ผลิ ที่เกาะแห่งนี้ยังมีซากุระกว่า 1,300 ต้น ที่บานในช่วงเดือนเมษาเป็นตัวดึงดูดนักท่องเที่ยวอีกด้วย

หากอยากเห็นวิวที่งดงามที่สุดของที่นี่ให้เลือกคอร์สไฮกิ้ง Daisho-in ซึ่งจะพาคุณไปถึงยอดเขามิเซ็นภายในเวลาสองชั่วโมง หรือหากใครที่ต้องการท้าทายมากขึ้นก็สามารถเลือกเส้นทาง Momiji-dani ซึ่งจะผ่าน เจดีย์ทาโฮโตะ ซึ่งรายล้อมไปด้วยซากุระสีสันสดใสในฤดูใบไม้ผลิ

ต้นซากุระกว่า 30,000 ต้น (บางส่วนอายุมากกว่า 1,300 ปี) ที่ขึ้นอยู่ทั่วเขาโยชิโนะในจังหวัด Nara ดึงดูดนักท่องเที่ยวจำนวนมหาศาลในฤดูใบไม้ผลิของทุกปี หากต้องการหลีกเลี่ยงฝูงชน คุณสามารถเลือกที่จะนอนค้างคืนและตื่นตั้งแต่รุ่งเช้าเพื่อเดินทางไปดูซากุระก่อนใครได้

เส้นทางเดินตามสันเขาเต็มไปด้วยซุ้มอาหารมากมาย ทำให้มีกลิ่นอายของเทศกาล และความครึกครื้น ใครที่แข็งแรงพอสามารถปีนไปชมวิวที่ยอดเขาด้วยตัวเองได้โดยใช้เวลาประมาณ 3-4 ชั่วโมง ส่วนใครที่ไม่ชอบเดินก็ไม่เป็นไร เพราะมีรถบัสคอยบริการไปถึงยอดเขาเช่นกัน

ภูเขาโยชิโนะสามารถเดินทางไปจาก Kyoto, Osaka, Nara หรือ Nagoya ได้โดยขึ้นสาย Kintetsu Railway