Yamagata Shinkansen ขบวน Tsubasa วิ่งด้วยความเร็ว 130 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ให้บริการระหว่างจังหวัด Tokyo และจังหวัด Yamagata โดยใช้เวลาวิ่งเพียง 2 ชั่วโมง 42 นาทีเท่านั้น ค่าโดยสาร 11,340 เยน ซึ่งถ้าจะขับรถเองจะใช้เวลาประมาณ 4-5 ชั่วโมงเป็นอย่างต่ำ

นอกจากยามากาตะ สายนี้ยังสามารถเดินทางผ่านเมืองสำคัญต่างๆ เช่นฟุคุชิมะ โทชิกิ (จังหวัดที่ตั้งของนิกโก้) เป็นต้น ที่เรียกว่ารถไฟเทศกาลก็เพราะว่าที่เที่ยวระหว่างทางนั้น มีมากมายที่เป็นแหล่งเทศกาล ทั้งเมืองชินโจที่มีชินโจมัตสึริ ยามากาตะเองก็มีเทศกาลฮานางาสะ ใครสนใจเทศกาลญี่ปุ่นต้องแวะไปชม

Akita Shinkansen ขบวน Komachi วิ่งด้วยความเร็ว 130 กิโลเมตรต่อชั่วโมง โดยเชื่อมต่อ Tokyo กับ Tohoku วิ่งระหว่าง Tokyo กับ จังหวัด Akita โดยใช้เวลาแค่ 3 ชม. 52 นาที ค่าโดยสาร 17,800 เยนเทียบกับขับรถเอง 7 ชั่วโมงแล้ว คิดยังไงก็เร็วกว่าและสบายกว่าเยอะเลย

อากิตะผ่านสถานีท่องเที่ยวสำคัญเช่น Kakunodate หมู่บ้านซามูไรของญี่ปุ่นที่ขึ้นชื่อเรื่องซากุระแบบต้นย้อยๆ ที่เรียกว่าชิดาเระซากุระ ที่มีอยู่มากมายทั่วทั้งเมือง ทำให้ในช่วงฤดูใบไม้ผลินั้นมักจะเต็มตลอด ใครจะไปต้องวางแผนดีๆนะ

Joetsu Shinkansen ขบวน Max Toki เชื่อมต่อ Tokyo เข้ากับจังหวัด Niigata โดยวิ่งด้วยความเร็ว 240 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เรียกว่าเร็วกว่าอันดับก่อนหน้าเกือบสองเท่าเลยทีเดียว ซึ่งรุ่น Toki ใช้เวลาวิ่งระหว่าง Tokyo ถึง Niigata เพียงแค่ 1 ชั่วโมง 59 นาที กับค่าโดยสาร 10,570 เยน ซึ่งถ้าขับรถจะใช้เวลาประมาณ 4-5 ชั่วโมง

นีงาตะนั้นเป็นจังหวัดที่เป็นแหล่งสกีชั้นนำ รถไฟสายนี้เองก็ยังผ่านแหล่งท่องเที่ยวอื่นๆ เช่นเอจิโกะยูซาว่า อีกหนึ่งเมืองแห่งสกีและบ่อน้ำร้อนที่ทุกคนควรรู้จักไว้ ตั้งแต่มีชินกังเซ็นทำให้การเดินทางจากโตเกียวเป็นเรื่องง่ายนิดเดียว

Kyushu Shinkansen ขบวน Mizuho วิ่งด้วยความเร็ว 260 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เชื่อมต่อระหว่างสถานี Shin-osaka ในจังหวัด Osaka กับ Kagoshima-Chuo ของจังหวัด Kagoshima ใน Kyushu โดยใช้เวลาวิ่ง 3 ชั่วโมง 50 นาที ค่าโดยสาร 22,210 เยน ซึ่งเมื่อเทียบกับเครื่องบินแล้วจะใช้เวลา 3 ชั่วโมง 23 นาที แต่ค่าเครื่องบินอาจจะแพงกว่า หรือจะขับรถเองก็ได้ ใช้เวลาเบาะๆ 10 ชั่วโมงกว่าๆ เอง

แม้ไม่ไปสุดสายที่คาโกชิมะ แต่ระหว่างทางก็มีเมืองดังมากมาย อย่างเช่นจังหวัดคุมาโมโตะ เมืองของเจ้าหมีคุมะมงเป็นต้น แต่ที่ปลายทางเมืองคาโกชิมะเองนั้น แม้คนไทยจะมองข้ามแต่จริงๆแล้วก็มีที่เที่ยวสุดยอดอย่าง ภูเขาไฟซากุระจิมะ ภูเขาไฟกลางน้ำที่ใหญ่อลังการแถมยังปะทุอยู่ ถ้าโชคดีสามารถมองเห็นควันออกมาจากปล่องได้ด้วยนะ

Hokuriku Shinkansen ขบวน Kagayaki เชื่อมต่อ Tokyo เข้ากับจังหวัด Kanazawa โดยวิ่งด้วยความเร็ว 260 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ใช้เวลาเดินทางเพียงแค่ 3 ชั่วโมง 3 นาทีเท่านั้น ค่าโดยสาร 14,520 เยน จะขับรถเองก็ได้ ใช้เวลาประมาณ 6 ชั่วโมง

นี่เป็นชินคันเซ็นขบวนใหม่ที่เพิ่งเกิดใหม่ไม่นาน ก่อนหน้านี้การเดินทางไปคานาซาว่าจากโตเกียวนั้นค่อนข้างเสียเวลา แต่ตอนนี้ใครๆก็สามารถไปได้ง่ายๆ นอกจากนี้แล้วรถไฟสายนี้ก็ยังผ่านจังหวัดโทยาม่า ที่ตั้งของกำแพงหิมะ ทาเทยาม่าคุโรเบะอีกด้วย

Tokaido Shinkansen ขบวน Nozomi ปัจจุบันสามารถวิ่งด้วยความเร็วสูงสุดถึง 285 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ซึ่งจะวิ่งแค่ 4 รอบต่อวันเท่านั้น เชื่อมต่อ Tokyo เข้ากับ Osaka ด้วยเวลาในการเดินทางเพียง 2 ชั่วโมง 36 นาทีเท่านั้น ค่าโดยสาร 14,450 เยน โดยเส้นทางสาย Tokaido นี้ถ้าขับรถเองจะใช้เวลาขับรถถึง 6 ชั่วโมงทีเดียว

สำหรับเส้นทางที่ผ่านไม่ต้องอธิบายอะไรมาก รถไฟคันนี้เริ่มจากโตเกียว ผ่านเมืองสำคัญๆที่สุดในญี่ปุ่นมากมาย ทั้งชิซุโอกะ นาโกย่า เกียวโต โอซาก้า แถมบางคันสามารถนั่งยาวๆ ไปถึงโกเบ ฮิโรชิม่า โอกายาม่า ฟุกุโอกะได้ด้วย!

Sanyo Shinakansen ขบวน Nozomi เหมือนกับ Tokaido Shinkansen แต่สายที่วิ่งจาก Shin-osaka ลงไป Hakata ที่จังหวัด Fukuoka นั้นมีความเร็วถึง 300 กิโลเมตรต่อชั่วโมงเลยทีเดียว ซึ่งจะใช้เวลา 2 ชั่วโมง 29 นาทีเท่านั้น ค่าโดยสาร 15,320 เยน โดยถ้าขับรถเองจะใช้เวลาถึง 7 ชั่วโมงครึ่งเป็นอย่างต่ำเลยทีเดียว

รถไฟสายนี้ผ่านทั้งโกเบ ฮิโรชิม่า โอกายาม่า ทั้งหมดล้วนเป็นเมืองท่องเที่ยว แถมเส้นทางนี้ยังมีรถไฟหลายขบวนที่เชื่อมกับสาย Tokaido วิ่งตรงโดยไม่ต้องเปลี่ยนรถจากโตเกียวไปยังฟุกุโอกะได้ หรือจะนั่งจากฟุกุโอกะไปโตเกียวก็ได้เหมือนกัน (รวมถึงจังหวัดระหว่างทางอย่าง เกียวโต นาโกย่าด้วย) ใครที่ใช้ JR Pass นี่แหละคือที่สุดของความคุ้ม

และอันดับ 1 ได้แก่ Tohoku Shinkansen ขบวน Hayabusa ที่วิ่งด้วยความเร็วกว่า 320 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เชื่อง Tokyo เข้ากับสถานี Shin-Aomori ในจังหวัด Aomori ด้วยเวลาเพียง 3 ชั่วโมง 18 นาทีเท่านั้น ค่าโดยสาร 17,350 เยน ซึ่งถ้าจะขับรถเอง จะใช้เวลาขับถึง 8 ชั่วโมงครึ่งเป็นอย่างต่ำเลยทีเดียว

นอกจากจะไปเมืองสำคัญๆอย่างเซ็นได อิวาเตะ อาโอโมริ ซึ่งเป็นแหล่งเที่ยวที่ชมได้ทั้งซากุระ หิมะ และงานเทศกาลต่างๆแล้ว ปัจจุบันสายนี้ก็ยังลากยาวไปถึงจังหวัดฮอกไกโด โดยปัจจุบันไปถึงแค่ฮาโกดาเตะ ยังไปไม่ถึงซัปโปโร่นะ แต่ซักวันนึง เราอาจจะได้ขึ้นรถไฟยาวไปถึงซัปโปโร่ก็ได้