6 ความหมายของเซียมซีญี่ปุ่น
นักท่องเที่ยวไทยเราหลายคนมีปัญหาเวลาเข้าวัดหรือศาลเจ้าญี่ปุ่น แล้วเสี่ยงเซียมซีออกมา แต่อ่านไม่รู้เรื่อง คราวนี้เราได้เอาความหมายของเซียมซีตัวหลักๆ มาให้เปรียบเทียบดูกัน บางศาลเจ้าอาจจะแบ่งละเอียดกว่านี้ แต่อย่างน้อย 6 ชนิดนี้จะมีในทุกๆ ศาลเจ้า เท่านี้ก็น่าจะพอเข้าใจความหมายคร่าวๆ ได้แล้วล่ะ ว่าดีหรือไม่ดีอย่างไร
6. Daikichi ★★★★★
ใครจับฉลากได้ Daikichi นี่ก็ยิ้มแฉ่งได้เลย เพราะเซียมซีนี้เป็นเซียมซีที่ดีที่สุด มีความหมายดีที่สุดเรียกว่าทำอะไรก็ดีเลิศประสบความสำเร็จไปได้หมด ส่วนจะผูกใบนี้กับต้นไม้ หรือจะเอากลับบ้านก็ได้ ไม่มีข้อบังคับอะไรเป็นพิเศษ บ้างก็ว่ากันว่าถ้าผูกกับต้นไม้ในบริเวณศาลเจ้าแล้วจะทำให้เหมือนเป็นการผูกสัมพันธ์กับเทพเจ้า บ้างก็ว่าการนำกลับบ้านก็เหมือนเป็นการนำสาส์นจากเทพเจ้าติดตัวไป
5. Chukichi★★★★☆
Chukichi ก็คือ ดีเกือบสุด ทำอะไรก็ประสบความสำเร็จ อาจจะขลุกขลักเล็กๆ ไม่ลื่นเท่า Daikichi แต่ก็จัดว่าเป็นใบที่ดีมากๆ ใบหนึ่งอยู่ จับได้ใบนี้ก็นับว่าตลอดทั้งปีจะมีแต่เรื่องดีๆ
4. Shokichi★★★☆☆
Shokichi เป็นใบแบบ ดีโอเค นั่นหมายความว่าโชคน้อยหน่อยสู้ Daikichi ไม่ได้ แต่ก็ยังดีที่ยังมีโชคดี รวมๆ อาจจะต้องใช้ความพยายามบ้าง แต่โชคยังอยู่ข้างเรา สู้ๆ
3. Kichi★★☆☆☆
Kichi เทียบกันตรงๆ ก็คือ พอไหว คือได้ใบนี้ก็นับว่าดีแล้ว ยังไงซะดวงก็อยู่ข้างเรา อาจจะต้องผสมกับความพยายามมากกว่าคนอื่นซักหน่อย ถ้าทำได้ก็ไม่แพ้พวกที่ได้ Daikichi แน่นอน
2. Kyo★☆☆☆☆
ใครได้ Kyo อาจจะมีคอตกเล็กน้อย เพราะ Kyo เป็นใบที่หมายความว่า ไม่ค่อยจะมีดวงเท่าไรนัก อุปสรรคที่เข้ามาคงจะต้องอาศัยหลังของตัวเองในการแก้ไข อาจจะต้องพยายามสู้ชีวิตมากกว่าพึ่งดวง แต่ยังไงก็อย่ายอมแพ้ ดวงเปลี่ยนได้ด้วยฝีมือ!
1. Daikyo☆☆☆☆☆
ใครจับได้ Daikyo อาจจะมีเซ็ง เพราะมันแปลว่าดวงไม่เข้าข้างเอาซะเลย ทุกอย่างต้องพยายามมาจากน้ำพักน้ำแรงล้วนๆ ฉะนั้นก็เปลี่ยนร้ายให้กลายเป็นดีให้ได้ด้วยฝีมือตัวเองไปเลย แล้วอย่าพึ่งปาใบนี้ทิ้ง ให้เอาไปผูกไว้กับต้นไม้หรือบริเวณที่จัดไว้ให้ในศาลเจ้าหรือวัด แล้วก็ลืมๆ มันไปเลย อย่าเก็บมันมาคิดและอย่าปล่อยให้มันมากำหนดทิศทางโชคชะตาตัวเองล่ะ!
- en.wikipedia.org (อังกฤษ)