เที่ยวญี่ปุ่นปีใหม่ห้ามพลาด! แนะนำจุดไหว้พระช่วงสิ้นปีและปีใหม่ในโตเกียว 5 จุด
การเที่ยวปีใหม่แบบญี่ปุ่น
สำหรับประเทศไทยที่ได้รับพหุวัฒนธรรมจากหลายชนชาติในการเคาท์ดาวน์ส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่อาจมีภาพจำฉลองปีใหม่เป็นสากลว่าการเที่ยวปีใหม่มักเป็นการไปที่เที่ยว จุดพลุ เลี้ยงฉลอง มีงานรื่นเริงครึกครื้นแต่สำหรับคนญี่ปุ่นยังคงรักษาการเที่ยวปีใหม่แบบเดิมเอาไว้กระทั่งปัจจุบันซึ่งเขาเรียกมันว่า "ฮัตสึโมเดะ"
รู้จักกับฮัตสึโมเดะ (初詣)
ฮัตสึโมเดะ (初詣) หรือเทศกาลเที่ยวปีใหม่ของญี่ปุ่นนี้จะเริ่มนับตั้งแต่วันสิ้นปีเก่าถึงวันที่ 3 เดือนมกราคมของทุกปี (หรืออย่างช้าจะเรียกว่า "มัตสึโนะอุจิ" ซึ่งจะนับจากวันสิ้นปีเก่าถึงวันที่ 7)
ตามธรรมเนียมแล้วนั้นฮัตสึโมเดะก็คือ “การเที่ยวศาลเจ้าช่วงวันปีใหม่” เพื่อขอพรต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งลักษณะจะคล้ายกับงานสวดมนต์ข้ามปีของไทยแต่เป็นพิธีที่กระทำหลายวันติดต่อกันโดยไม่มีการฉลองรื่นเริง เป็นเทศกาลที่มีมาอย่างยาวนานตั้งแต่สมัยเฮอัน มักไปตามวัดหรือศาลเจ้าชินโตสำคัญของเมืองซึ่งมีเทพเจ้าศักดิ์สิทธิ์สถิตอยู่แล้วยังมีความหมายมงคล
ส่วนลักษณะการจัดงานฮัตสึโมเดะตามวัดและศาลเจ้าญี่ปุ่นก็จะเป็นไปในลักษณะเดียวกันคือในคืนวันสิ้นปีถึงวันที่ 1 จะเป็นการอธิษฐานภาวนาต่อเทพเจ้าและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ถึงขอบคุณปีเก่าที่กำลังผ่านพ้นไป กระทั่งเข้าปีใหม่แล้วอธิษฐานขอพรแรกเพื่อความเป็นสิริมงคล หลังจากนั้นผู้คนก็มักจะตามหาเครื่องรางประจำปี เขียนป้ายเอมะขอพร เสี่ยงเซียมซีญี่ปุ่น (โอมิคุจิ) หรือไปชมพิธีร่ายรำของต้นปี ทานขนมมงคล เป็นต้น
กิจกรรมทั้งหมดนี้จะเป็นไปอย่างสงบแล้วมักจะไปทำเป็นครอบครัวเสียด้วย และในช่วงเวลานี้ร้านค้าต่าง ๆ ก็มักจะหยุดทำการปีใหม่กันหมดแม้แต่ในร้านสะดวกซื้อ ฉะนั้นหากวางแผนเที่ยวช่วงเวลาดังกล่าวควรเตรียมอาหารให้พร้อมสำหรับช่วงวันหยุด
แนะนำ 5 วัดและศาลเจ้าที่ควรแวะไปช่วงสิ้นปีหรือปีใหม่
หลายคนน่าจะเริ่มเข้าใจวัฒนธรรมฮัตสึโมเดะของญี่ปุ่นมากขึ้นแล้วใช่ไหมคะ อันดับต่อไปเราจะมาแนะนำ 5 วัดและศาลเจ้าที่ควรแวะไปช่วงสิ้นปีหรือปีใหม่ มีดังต่อไปนี้
1. ศาลเจ้าเมจิจินกู (明治神宮/Meiji Jingu Shrine)
ศาลเจ้าเมจิจินกู (明治神宮/Meiji Jingu Shrine) เป็นศาลเจ้าที่เป็นศูนย์รวมใจอันดับต้นของชาวญี่ปุ่นเลย เนื่องจากที่นี่นั้นสร้างเป็นศาลเจ้าที่อุทิศแด่จักรพรรดิเมจิและจักรพรรดินีโชเก็งตั้งแต่เมื่อปี 1920 ทำให้ส่งผลต่อความเชื่อและความศรัทธาของคนญี่ปุ่นอย่างมาก
ตามประเพณีในช่วงปีใหม่ของคนญี่ปุ่นนั้นจะเริ่มฮัตสึโมเดะกราบไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่นี่เป็นอันดับต้น เพื่ออธิษฐานให้ชีวิตมีความสงบสุขและราชวงศ์ญี่ปุ่นเจริญรุ่งเรืองในต้นปีใหม่ ซึ่งก่อนกลับออกจากศาลเจ้าก็มักจะรับเครื่องรางและยันต์คุ้มครองกลับไปเป็นสิริมงคลกันด้วย นอกจากนี้ยังมีเหล้าหวานอุ่น ๆ ให้ได้แวะชิมอีกด้วย
เนื่องจากศาลเจ้าที่มีสวนญี่ปุ่นล้อมรอบขนาดใหญ่ใจกลางโตเกียว ทำให้ดึงดูดผู้แสวงบุญชาวญี่ปุ่นช่วงปีใหม่หลักหลายล้านคนต่อปี หากใครไม่ชอบสถานที่ที่ผู้คนเยอะควรจะหลีกเลี่ยงศาลเจ้าเมจิจินกูในช่วงปีใหม่
เวลาทำการ:ทุกวัน 6:00~16:00น. โดยประมาณ (เวลาเปิดปิดในแต่ละฤดูแตกต่างกัน)
การเดินทาง:จากสถานี Tokyo ให้นั่งรถไฟมาลงที่ สถานี Shinjuku แล้วเปลี่ยนขบวนรถไฟมานั่งรถไฟ JR Yamanote line เพื่อมาลงสถานี Harajuku จากนั้นเดินเท้าราว 2 นาทีถึงศาลเจ้าเมจิ (ใช้เวลารวมราว 25 นาที)
หรือ นั่งรถไฟโตเกียวเมโทรมาลงที่สถานี Meiji jingu mae จากนั้นเดินเท้าต่ออีกราว 4 นาทีถึงศาลเจ้าเมจิ
2. ศาลเจ้าโตเกียวไดจินกุ (東京大神宮/Tokyo Daijingu Shrine)
ศาลเจ้าโตเกียวไดจินกุ (東京大神宮/Tokyo Daijingu Shrine) เดิมทีแล้วที่นี่มีฉายาว่า “ศาลเจ้าอิเสะแห่งโตเกียว” เพราะที่นี่ได้สร้างอุทิศให้กับเทพเจ้าญี่ปุ่นที่ศาลเจ้าอิเสะ จังหวัดมิเอะ (Mie) แล้วที่นี่ก็เป็นหนึ่งในศาลเจ้าที่ผู้คนมักมาไหว้เพื่อขอเรื่องคู่ครองทั้งคนโสดและคนมีคู่เช่นกันเดียวกับศาลเจ้าอิเสะ
แต่สำหรับในปีใหม่คนญี่ปุ่นก็มักจะไหว้ที่นี่เป็นอันดับต้นเช่นกันเพื่ออธิษฐานให้ภายภาคหน้าพบกับความสุขและความเจริญรุ่งเรืองในชีวิต ซึ่งพิธีสวดภาวนาจะเริ่มตั้งแต่ 5 ทุ่มของวันสิ้นปีเพื่อส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ แล้วในช่วงเทศกาลฮัตสึโมเดะก็จะมีมหรสพเต้นรำแบบญี่ปุ่นตลอดเช้าจรดเย็น พิเศษศำหรับศาลเจ้าโตเกียวไดจินกุหากคุณต้องการสักการะเครื่องรางแบบนิยมของที่นี่จะเป็นแผ่นป้ายมินิเอมะขอพรตามปีนักษัตรใหม่ที่จะมีให้ผู้เข้าสักการะแค่เพียงช่วงเทศกาลฮัตสึโมเดะเพียง 3 วันเท่านั้น
เวลาทำการ:ทุกวัน 6:00~21:00น. โดยประมาณ (แต่ละส่วนปิดเวลาไม่ตรงกัน)
การเดินทาง:จากสถานี Tokyo ให้นั่งรถไฟมาลงที่สถานี Iidabashi (มีการเปลี่ยนขบวน) จากนั้นให้เดินเท้าต่ออีก 5 นาทีถึงศาลเจ้า (ใช้เวลารวมไม่เกิน 20 นาที)
3. ศาลเจ้าคันดะเมียวจิน (神田明神/Kanda Myojin Shrine)
ศาลเจ้าคันดะเมียวจิน (神田明神/Kanda Myojin Shrine) เป็นศาลเจ้าที่เชื่อว่ามีเทพเจ้าเมียวจิน เป็นเทพเจ้าชินโต 3 พระองค์สถิตคุ้มครองใจกลางกรุงโตเกียวและย่านอากิฮาบาระมาตั้งแต่สมัยเอโดะที่ก่อตั้งศาลเจ้าเมื่อปี 1309
สำหรับเทพที่มีบทบาทประจำศาลเจ้าที่สุดใน 3 พระองค์ก็คือ เทพเอบิสุหรือเทพแห่งความเจริญรุ่งเรืองทางการค้า ทำให้ช่วงเทศกาลฮัตสึโมเดะผู้คนก็จะมาอธิษฐานขอให้ท่านคุ้มครองชาวเอโดะหรือชาวโตเกียวให้เจริญรุ่งเรือง โชคดี และรอดพ้นจากภัยพิบัติ อีกทั้งสถาปัตยกรรมของศาลเจ้าก็สวยแปลกตากว่าศาลเจ้าแห่งอื่น ๆ ทำให้ที่นี่ก็เป็นที่นิยมแวะเวียนมาท่องเที่ยวช่วงปีใหม่อีกเช่นกัน
เวลาทำการ:ทุกวัน ตลอด 24 ชั่วโมง
การเดินทาง:จากสถานี Tokyo ให้นั่งรถไฟมาลงที่สถานี Ochanomizu หรือลงที่สถานี Akihabara จากนั้นเดินเท้าต่ออีกราว 5-10 นาทีถึงศาลเจ้าคันดะเมียวจิน (ใช้เวลารวมราว 15-20 นาที)
4. วัดเซนโซจิ (浅草寺/Sensoji Temple)
วัดเซนโซจิหรือวัดอาซากุสะ (浅草寺/Sensoji Temple) เป็นวัดท่องเที่ยวและวัดหลักของญี่ปุ่นที่มีทั้งชาวญี่ปุ่นและนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินสายมาเทศกาลฮัตสึโมเดะมากที่สุด ในการเข้ามาไหว้พระรับบรรยากาศส่งท้ายปีเก่าเข้าปีใหม่ โดยที่นี่สร้างตั้งแต่ปี 628 มีสัญลักษณ์เป็นโคมแดงจากบริเวณหน้าประตูซึ่งเรามักจะเห็นตามสื่อโปรโมทการท่องเที่ยวญี่ปุ่นอยู่บ่อย ๆ ซึ่งผู้คนมักจะมาขอพรให้มีสุขภาพที่แข็งแรงในปีใหม่
หากเดินทางมาในปีใหม่แนะนำให้เผื่อเวลาเดินทางสักหน่อยเนื่องจากถนนรอบบริเวณศาลเจ้าจะมีการเปิดให้ใช้เส้นทางเพียงเส้นเดียวจากถนนนาคามิเสะ (仲見世通り/Nakamise Street) ยิ่งไปกว่านั้นยังมีผู้คนเดินเท้าเข้าไปไหว้ในศาลเจ้าหลักจำนวนมากซึ่งต้องใช้เวลาพอสมควร หากใครไม่ชอบสถานที่ที่ผู้คนเยอะควรจะหลีกเลี่ยงวัดเซนโซจิในช่วงปีใหม่
เวลาทำการ:ทุกวัน 6:00~17:00น.
การเดินทาง:จากสถานี Tokyo ให้นั่งรถไฟมาลงที่สถานี Asakusa จากนั้นเดินเท้าต่ออีก 2 นาทีถึงวัดเซนโซจิ (ใช้เวลารวมราว 15-25 นาที)
5. วัดนิชิอาราอิไดชิ โซจิจิ (西新井大師 總持寺/Nishiarai Daishi Sojiji Temple)
วัดนิชิอาราอิไดชิ โซจิจิ (西新井大師 總持寺/Nishiarai Sojiji Temple) เป็นวัดในนิกายชินงอนที่ได้รับความศรัทธาจากชาวญี่ปุ่นในการเข้ามาสักการะช่วงปีใหม่อีกแห่ง ที่นี่สร้างมาตั้งแต่ปี 826 มีชื่อเสียงจากพระประธานพระโพธิสัตว์จิโซมิซูโกะที่ประดิษฐานให้สักการะที่นี่ตามความเชื่อว่าท่านจะช่วยปัดเป่าสิ่งชั่วร้าย ประทานความโชคดี โดยเฉพาะกับผู้หญิงและเด็ก
และในช่วงเทศกาลฮัตสึโมเดะผู้คนก็นิยมมาไหว้อธิษฐานให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครอง ปัดเป่าวิญญาณสิ่งชั่วร้ายให้พ้นไป นำโชคลาภกลับมาสู่ผู้ศรัทธา
เวลาทำการ:ทุกวัน 8:00~18:00น.โดยประมาณ (แต่ละอาคารเวลาปิดต่างกัน)
การเดินทาง:สามารถเดินทางมาได้ 2 แบบ
- จากสถานี Tokyo ให้นั่งรถไฟมาลงที่สถานี Daishi-Mae ถึงศาลเจ้า (มีการเปลี่ยนรถไฟหลายขบวน) จากนั้นเดินเท้าอีกราว 5 นาทีถึงศาลเจ้า (ใช้เวลารวมราว 40 นาที)
- จากสถานี Tokyo มาลงที่สถานี Oji จากนั้นให้ขึ้นรถบัสหมายเลข 49 จากป้าย Oji Ekimae มาลงที่ป้าย Nishiarai-Daishi แล้วเดินเท้าอีก 2 นาทีถึงศาลเจ้า (ใช้เวลารวมราว 52 นาที)
บทส่งท้าย
ในค่ำคืนสิ้นปีกระทั่งวันปีใหม่หากต้องการเดินทางไปเที่ยวฮัตสึโมเดะตามวัดหรือศาลเจ้าต่าง ๆ สิ่งสำคัญที่สุดคือการวางแผนการเดินทางทั้งขาไปและขากลับ
ปกติแล้วถ้าเป็นช่วงวันสิ้นปีตารางวิ่งรถไฟเที่ยวสุดท้ายจะขยายระยะเวลายาวไปจนถึงช่วงตี 1-ตี 2 (จากปกติมักจะประมาณเที่ยงคืน) โดยช่วงเวลานั้นจะขึ้นอยู่กับรถไฟแต่ละสายและบริษัท โปรดตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติมได้จากหน้าเว็บไซต์อย่างเป็นทางการของรถไฟอีกครั้ง