ฤดูร้อน 2023 นี้! ไปชมสุดยอดดอกไม้ไฟที่ไหนดี ฉบับนอกโตเกียว

เนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 (COVID-19) ที่ระบาดไปทั่วโลกเป็นเวลาหลายปี ทำให้งานดอกไม้ไฟของหลายๆ จังหวัดในญี่ปุ่นที่เป็นสีสันของหน้าร้อนมีอันต้องถูกระงับไปหลายงาน แต่ในปี 2023 นี้ เทศกาลดอกไม้ไฟฤดูร้อนกลับมายิ่งใหญ่อีกครั้งแล้ว! ครั้งนี้เราก็ได้คัดสรรข้อมูลงานเทศกาลดอกไม้ไฟที่อยู่ต่างจังหวัด รวมไปถึงเกร็ดความรู้เล็กๆ น้อยๆ มาฝากทุกคนกันด้วย
By hikawasaดอกไม้ไฟสำคัญกับคนญี่ปุ่นอย่างไร

https://pixta.jp/
ดอกไม้ไฟ หรือภาษาญี่ปุ่นเรียก "ฮานาบิ" (Hanabi) เข้ามาสร้างสีสันในการใช้ชีวิตของคนญี่ปุ่นเป็นครั้งแรกโดยเริ่มจากพ่อค้าชาวตะวันตกที่เข้ามาญี่ปุ่นในสมัยเอโดะ ตอนนั้นดอกไม้ไฟยังมีรูปลักษณ์เหมือนปืนใหญ่ หลังจากนั้นจึงมีการพัฒนารูปแบบของดอกไม้ไฟโดยชาวญี่ปุ่นเองเพื่อที่จะประดิษฐ์ออกมาเล่นกัน วัฒนธรรมการเล่นดอกไม้ไฟก็เริ่มขึ้นตั้งแต่นั้น เทศกาลแสดงดอกไม้ไฟก็เกิดขึ้นในสมัยนั้นด้วยเช่นกัน
เทศกาลดอกไม้ไฟเป็นไฮไลท์ของฤดูร้อนเพราะการจัดเทศกาลดอกไม้ไฟครั้งแรกคือช่วงฤดูร้อนของปี ค.ศ. 1733 ในสมัยเอโดะ ตอนนั้นโชกุนโทกุงาวะ โยชิมุเนะ (Tokugawa Yoshimune) ซึ่งเป็นโชกุนตระกูลโทกุงาวะรุ่นที่ 8 ให้จัดเทศกาลดอกไม้ไฟชื่อเทศกาลสึจิจินไซ (Suijinsai) บูชาเทพแห่งสายน้ำเพื่ออุทิศให้แก่ดวงวิญญาณของผู้เสียชีวิตและเป็นการขจัดปัดเป่าภัยอันตรายที่ริมแม่น้ำสุมิดะ (Sumida River) ต่อมาเมืองอื่นๆ จึงจัดงานเทศกาลดอกไม้ไฟของตัวเองบ้าง
และสิ่งที่ขาดไม่ได้เลยคือชุดยูกาตะ (Yukata) ที่หนุ่มสาวคนญี่ปุ่นนิยมแต่งตัวกันไปชมดอกไม้ไฟนั่นเอง
เทศกาลดอกไม้ไฟที่จัดขึ้นในปี 2023
หลังจากผ่านพ้นสถานการณ์แพร่ระบาดของไวรัสโคโรน่า (COVID-19) ที่ทำให้งานเทศกาลต่างๆ มีอันต้องหยุดจัดไปชั่วคราว ตอนนี้กลับสู่ภาวะปกติ เทศกาลดอกไม้ไฟฤดูร้อนในญี่ปุ่นหลายๆ จังหวัดที่ห่างหายไปนานก็กลับมาจัดกันอย่างคึกคักอีกครั้ง ปกติแล้วเราจะแนะนำสถานที่ชมดอกไม้ไฟในโตเกียว แค่คาดว่าหลายๆ คนน่าจะมีข้อมูลกันอยู่แล้ว ครั้งนี้เราจะแนะนำดอกไม้ไฟตามต่างจังหวัดในญี่ปุ่นกัน มีที่ไหนน่าสนใจบ้างไปชมกันเลย
1.งานดอกไม้ไฟคาจิไม l จังหวัดฮอกไกโด (Kachimai Fireworks, Hokkaido)

งานดอกไม้ไฟคาจิไมเป็นงานดอกไม้ไฟที่ยิ่งใหญ่และสนุกสนานที่สุดของฮอกไกโด จัดขึ้นเป็นครั้งแรกเมื่อปีค.ศ. 1929 ที่ริมแม่น้ำโทกาจิ (Tokachi River Special Site) และจัดต่อเนื่องมาทุกปี โดยในปี 2023 นี้เป็นการจัดครั้งที่ 71 แล้ว
การแสดงดอกไม้ไฟเต็มไปด้วยเทคนิคแสงสีและเสียงเพลงที่สุดอลังการกับดอกไม้ไฟ 20,000 ลูกที่จะพุ่งทะยานขึ้นฟ้า ไฮไลท์ของที่นี่คือชุดดอกไม้ไฟนิชิกิคามุโระ (Nishiki Kamuro) ที่แตกเป็นเม็ดสีทองฟุ้งฝอยและกระพริบย้อยลงมาเป็นสาย
ช่วงเวลาที่จัด:วันที่ 13 สิงหาคม 2023 เวลา 19.30 - 21.30 น. โดยประมาณ
ค่าเข้าชม:ฟรี
การเดินทาง:ขึ้นรถไฟด่วนพิเศษขบวน Ozora ไปลงสถานีโอบิฮิโระ (Obihiro Station) นั่งชัตเติลบัสต่อไปอีก 5 นาทีหรือเดินประมาณ 20 นาที
2. งานเทศกาลดอกไม้ไฟทะเลสาบสุวะ l จังหวัดนางาโนะ (Suwa Lake Fireworks Festival, Nagano)

https://pixta.jp/
หลังจากว่างเว้นไป 4 ปีเพราะสถานการณ์โควิด-19 งานเทศกาลดอกไม้ไฟทะเลสาบสุวะกลับมาจัดอีกครั้ง งานดอกไม้ไฟนี้มีความอลังการใหญ่โต นับเป็นงานเทศกาลดอกไม้ไฟที่ยิ่งใหญ่ระดับประเทศเลยก็ว่าได้ จัดที่ริมทะเลสาบสุวะ (Lake Suwa) ในสวนสาธารณะโคฮัง (Kohan Park)
ดอกไม้ไฟจะถูกจุดขึ้นไปหลากหลายรูปแบบเป็นจำนวนมากถึง 40,000 ดอก เสียงดังสะท้อนกึกก้องทรงพลังเป็นพิเศษเนื่องจากสถานที่จัดงานแวดล้อมด้วยภูเขาทั้ง 4 ทิศ ไฮไลต์เด่นคือดอกไม้ไฟแบบน้ำตกไนแองการาที่พุ่งตัวขึ้นจากกลางทะเลสาบยาวถึง 2 กิโลเมตร
ช่วงเวลาที่จัด:วันที่ 15 สิงหาคม 2023 เวลาแสดงดอกไม้ไฟ 19.00 น. เป็นต้นไป
ค่าเข้าชม:ฟรี
การเดินทาง:ขึ้นรถไฟสาย JR Chuo Line จากสถานีโตเกียว (Tokyo Station) ไปยังสถานีคามิสุวาโกะ (Kami Suwako Station) แล้วเดินต่อไปอีกประมาณ 8 นาที
3.เทศกาลดอกไม้ไฟอาคางาวะ l จังหวัดยามากาตะ (Akagawa Fireworks Festival, Yamagata)

https://pixta.jp/
เทศกาลดอกไม้ไฟอาคางาวะเป็นงานดอกไม้ไฟสุดยิ่งใหญ่ของจังหวัดยามากาตะที่จุดดอกไม้ไฟมากถึง 12,000 ลูก ซึ่งมากเป็นอันดับ 1 ของภูมิภาคโทโฮคุ จัดขึ้นที่ริมแม่น้ำอาคางาวะ (Akagawa River)
งานนี้นอกจากจะโชว์ดอกไม้ไฟอย่างอลังการแล้ว ยังเป็นงานประกวดสร้างสรรค์ดอกไม้ไฟระดับประเทศที่รวบรวมมืออาชีพของวงการดอกไม้ไฟญี่ปุ่นมาประชันฝีมือกัน ซึ่งงานในปีนี้มาในชื่อธีม Smile&Peace โดยมีคอนเซ็ปต์หลักคือขอให้ทุกพื้นที่มีสุขภาพแข็งแรงกระปรี้กระเปร่า และขอให้เด็กๆ มีรอยยิ้ม ส่วนจะสุดยอดแค่ไหนนั้นคงต้องลองมาสัมผัสกันดู
ช่วงเวลาที่จัด:วันที่ 19 สิงหาคม 2023 เวลา 19.30 น. เป็นต้นไป
ค่าเข้าชม:ซื้อตั๋วล่วงหน้า เปิดให้จองตั้งแต่ 1 กรกฎาคม เวลา 10.00 น.เป็นต้นไป (สามารถชมฟรีได้แต่อาจได้ที่นั่งวิวไม่ค่อยดีเท่าไหร่นัก)
การเดินทาง:ขึ้นรถไฟสาย Uetsu Main Line ไปลงสถานีสึรุโอกะ (Tsuruoka Station) แล้วเดินต่อไปอีกประมาณ 15 นาที
4. เทศกาลดอกไม้ไฟโอมางาริ l จังหวัดอากิตะ (Omagari National Fireworks Competition, Akita)

https://pixta.jp/
เทศกาลดอกไม้ไฟโอมางาริเป็นงานประกวดประชันดอกไม้ไฟที่เก่าแก่ที่สุดงานหนึ่งของญี่ปุ่น แถมยังนับเป็นงานประกวดดอกไม้ไฟระดับประเทศที่ยิ่งใหญ่ควรค่าแก่การไปเยือนเป็นอย่างมาก โดยจัดที่แม่น้ำโอโมโนะ (Omono River) มาอย่างต่อเนื่องนาวนานตั้งแต่ปี ค.ศ.1910
เหล่านักฝีมืออาชีพด้านดอกไม้ไฟทั่วประเทศจะมาแข่งกันจัดแสดงดอกไม้ไฟในรูปแบบต่างๆ หลายประเภท การตัดสินก็ขึ้นอยู่กับคณะกรรมการที่จะดูในเรื่องของสีสัน การออกแบบดีไซน์ และความคิดสร้างสรรค์ ผู้ชนะจะได้รางวัลจากนายกรัฐมนตรี ไฮไลท์ของงานเป็นการแสดงดอกไม้ไฟประกอบดนตรีที่ยิ่งใหญ่และหาชมได้ยาก
ช่วงเวลาที่จัด:วันที่ 26 สิงหาคม 2023 เวลาแสดงดอกไม้ไฟกลางวัน 17.10 เป็นต้นไป เวลาแสดงดอกไม้ไฟกลางคืน 18.50 เป็นต้นไป
ค่าเข้าชม:ฟรี และมีที่นั่งพิเศษที่ต้องจองล่วงหน้าแบบเสียค่าใช้จ่าย
การเดินทาง:ขึ้นรถไฟชินคังเซนจากสถานีโตเกียว (Tokyo Station) ไปยังสถานี JR โอมางาริ (JR Omagari Station) แล้วเดินต่อไปอีกประมาณ 30 นาที
มารยาทและข้อควรระวังในการชมดอกไม้ไฟ

https://pixta.jp/
เนื่องจากงานเทศกาลดอกไม้ไฟนั้นเต็มไปด้วยผู้เข้าร่วมจำนวนมาก สุดท้ายนี้เราก็จะมาแนะนำมารยาทในการชมดอกไม้ไฟสไตล์คนญี่ปุ่น ดังต่อไปนี้
1. เทศกาลดอกไม้ไฟในญี่ปุ่นมักจัดขึ้นบริเวณพื้นที่ริมแม่น้ำหรือริมทะเล และมักจะหนาแน่นไปด้วยผู้เข้าชมจำนวนมหาศาล จึงควรเกาะกลุ่มกันให้ดีระวังอย่าให้พลัดหลงกัน
2. เทศกาลดอกไม้ไฟหลายแห่งสามารถนำเสื่อไปปูเพื่อชมดอกไม้ไฟได้ แต่บางแห่งก็ไม่อนุญาตให้ปูเสื่อดู ควรตรวจสอบข้อมูลของสถานที่นั้นๆ ให้ดี
3. ควรหลีกเลี่ยงเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ เพราะหากเกิดอาการเมา อาจส่งเสียงดังรบกวนคนอื่นที่มาชมดอกไม้ไฟด้วย
4. หากพาเด็กๆ ไปดูด้วยก็ควรดูแลอย่างใกล้ชิด ไม่ปล่อยให้เด็กๆ ไปวิ่งเล่นกันเอง เพราะนอกจากอาจเกิดการหลงไปในฝูงชนจนพลัดกันแล้วยังเป็นการรบกวนการดูดอกไม้ไฟของคนอื่นๆ อีกด้วย
5. หลังจากชมดอกไม้ไฟเสร็จ ควรนำขยะหรือขวดน้ำเก็บกลับไปทิ้งด้วย ไม่ทิ้งเรี่ยราด ส่วนใหญ่แล้วตามบริเวณสถานที่จัดงานมักจะมีจุดทิ้งขยะเตรียมไว้
6. ควรกะเวลาเดินทางขากลับให้ดี หากไม่ต้องการเจอฝูงชนคนเป็นจำนวนมากที่แห่กันเดินไปที่สถานี แนะนำให้รีบเดินออกจากงานก่อนเวลาจบเล็กน้อย มิฉะนั้นอาจจะรอต่อคิวขึ้นรถไฟนานถึงชั่วโมงก็เป็นได้
บทส่งท้าย
นี่เป็นเพียงบางส่วนของสุดยอดงานเทศกาลดอกไม้ไฟเท่านั้น นอกจากเดือนสิงหาคมแล้ว ยังมีงานดอกไม้ไฟอีกหลายจุดและหลายจังหวัดที่จัดยาวๆ ไปจนถึงเดือนตุลาคมเลย หากมีข้อมูลตรงไหนหรือเรื่องอะไรที่อยากให้ทางเราแนะนำ สามารถคอมเมนท์หรือส่งข้อความมาหาเราได้ทาง Social Media ด้านล่างนี้กันได้เลย
สุดท้ายนี้ อย่าลืมติดตาม All About Japan กันด้วยนะคะ ไว้พบกันใหม่บทความถัดไปค่ะ
https://www.facebook.com/AllAboutJapan.th
https://www.instagram.com/allabout_japan_thai/