ตามข้อมูลสถิติที่นี่คือจุดที่ใบไม้เปลี่ยนเป็นสีแดงเร็วที่สุดในญี่ปุ่น ป่าไม้บนภูเขาในอุทยานจะใช้เวลาราวๆ 1 เดือนในการเปลี่ยนเป็นสีเหลือง ส้ม แดง ไล่จากยอดเขาลงมาถึงจุดขึ้นกระเช้าโรปเวย์ตรงเชิงเขา ซึ่งได้รับความนิยมในการขึ้นไปชมวิว และมีจุดชมใบไม้เปลี่ยนสีที่สวยที่สุดอยู่ตรงทางขึ้นลักษณะเป็นเนินที่สามารถเห็นภาพมุมกว้างของอุทยานได้

อีกทั้ง บริเวณอุทยานนี้ยังมีแหล่งน้ำพุร้อนอยู่ใกล้ๆ หลายแห่ง หลังจากชมใบไม้แดงแล้วก็สามารถแวะไปแช่ออนเซ็น (Onsen) ได้อีกด้วย

ช่วงเวลาใบไม้เปลี่ยนสี : ปลายเดือนกันยายน

การเดินทาง : ขึ้นรถไฟสาย Ltd. Exp. OKhotsk ไปลงสถานีคามิคาวะ (Kamikawa Station) แล้วต่อรถบัส Dohoku Bus สาย Sounkyo ไปลงที่ป้าย Sounkyo Onsen
เวลาเปิดให้บริการ : บริการกระเช้าโรปเวย์ 09.00-17.00 น.

เมืองน้ำพุร้อนธรรมชาติขนาดใหญ่ในฮอกไกโดกับจุดเด่นคือบรรยากาศที่ผสมผสานความเป็นตะวันตก และในช่วงฤดูใบไม้ร่วงราวๆ ปลายเดือนกันยายนเป็นต้นไปก็มีเส้นทางเดินชมใบไม้เปลี่ยนสีที่เรียกกันว่าโมมิจิดานิ (Momijidani) เป็นเส้นทางที่นักท่องเที่ยวสามารถเดินชมใบไม้เปลี่ยนสี พร้อมฉากหลังเป็นวิวน้ำตกอย่างงดงาม

หรือจะไปขึ้นกระเช้าโรปเวย์ไดเซทซึซัง โซอุนเคียว คุโรดาเคะ (Daisetsuzan Sounkyo-Kurodake Ropeway) ไปชมวิวใบไม้แดงบนระดับความสูง 1,300 เมตรจากระดับน้ำทะเลก็น่าสนใจไม่แพ้กัน

ช่วงเวลาใบไม้เปลี่ยนสี : ปลายเดือนกันยายน

การเดินทาง : ขึ้นรถไฟสาย Ltd. Exp. OKhotsk ไปลงสถานีคามิคาวะ (Kamikawa Station) แล้วต่อรถบัส Dohoku Bus สาย Sounkyo ไปลงที่ป้าย Sounkyo Onsen
เวลาเปิดให้บริการ : บริการกระเช้าโรปเวย์ 09.00-17.00 น.

เมืองออนเซ็นในซัปโปโรที่ได้รับความนิยมในการเดินทางมาเที่ยวตลอดทั้งปีเพราะอยู่ไม่ไกลจากใจกลางเมืองซัปโปโร (Sapporo) และช่วงเวลาที่ได้รับความสนใจมากที่สุดคือช่วงฤดูใบไม้ร่วงกับการชมวิวใบไม้เปลี่ยนสีที่สร้างสีสันสดใสท่ามกลางอากาศเย็นสบาย เช่น บริเวณสะพานแขวนฟุตามิ (Futami Suspension Bridge)

นอกจากนี้ที่นี่ยังมีชื่อเสียงในเรื่องของ คัปปะ (Kappa) จึงมีรูปปั้นคัปปะตามสถานที่ต่างๆให้ได้เห็นจำนวนมาก เหมือนเป็นสัญลักษณ์อย่างหนึ่งของที่นี่ด้วย

ช่วงเวลาใบไม้เปลี่ยนสี : กลาง-ปลายเดือนตุลาคม

การเดินทาง : จากสถานีรถไฟซัปโปโร (JR Sapporo Station) ขึ้นรถบัส Jozankei Hot Springs Direct Bus Kappa Liner ไปลงที่ป้าย Jozankei
เวลาเปิดให้บริการ : ตลอด 24 ชั่วโมง

ภูมิทัศน์ทะเลสาบธรรมชาติขนาดใหญ่ที่มีทิวทัศน์สวยงามตลอดทั้งปีในพื้นที่เมืองซัปโปโร (Sapporo) และฮาโกดาเตะ (Hakodate) จุดเด่นคือ มีเกาะ 4 เกาะตั้งอยู่ใจกลางทะเลสาบ เมื่อถึงฤดูชมใบไม้เปลี่ยนสีนักท่องเที่ยวสามารถล่องเรือในทะเลสาบเพื่อชมทิวทัศน์ของใบไม้หลากสีสันอันงดงามของทะเลสาบกับท้องฟ้าและภูเขา

ขอแนะนำว่าให้พักค้างคืนที่โรงแรมออนเซ็นกลางแจ้งริมทะเลสาบเพื่อรับชมวิวสวยๆ ของทะเลสาบพร้อมทั้งเพลิดเพลินกับการแช่ออนเซ็นอย่างผ่อนคลาย

ช่วงเวลาใบไม้เปลี่ยนสี : กลาง-ปลายเดือนตุลาคม

การเดินทาง : ขึ้นรถไฟสาย Hakodate Main Line Limited Express ไปลงที่สถานีโทยะ (Toya Station) แล้วต่อรถบัส Donan Bus ไปลงที่ป้าย Toyako-Onsen
เวลาเปิดให้บริการ : ตลอด 24 ชั่วโมง

อุทยานแห่งชาติอีกหนึ่งแห่งของฮอกไกโดที่มีธรรมชาติสวยงามอันดับต้นๆ ในญี่ปุ่นโดยได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นพื้นที่มรดกโลกในด้านความหลากหลายทางระบบนิเวศจากองกรค์ UNESCO ในปี 2005

ภายในพื้นที่อุทยานเต็มไปด้วยแหล่งธรรมชาติอุดมสมบูรณ์ เช่น น้ำตกกับน้ำพุร้อนธรรมชาติและมีสัตว์ป่าอาศัยอยู่จำนวนมาก มีทิวทัศน์งดงามตลอดปีโดยเฉพาะเมื่อถึงฤดูใบไม้ผลิก็จุดชมวิวใบไม้เปลี่ยนสีอันตระการตาพร้อมทั้งกิจกรรมท่องเที่ยวที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก

ช่วงเวลาใบไม้เปลี่ยนสี : กลาง-ปลายเดือนตุลาคม

การเดินทาง : ขึ้นรถไฟสาย Senmo Main Line ไปลงที่สถานีชิเรโทโกะชาริ (Shiretoko-Shari Station) และต่อรถบัส รถบัส Shari Bus อีกประมาณ 50 นาที ไปลงที่ชิเรโทโกะ
เวลาเปิดให้บริการ : 09.00-16.00 น.

เขื่อนคอนกรีตโค้งขนาดใหญ่ที่สร้างขึ้นเพื่อกักเก็บน้ำ ตั้งอยู่ในช่องแคบของหุบเขาและบริเวณพื้นที่เขื่อนจะมีเขตอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ทะเลสาบเหนือเขื่อนและสวนสาธารณะ ซึ่งในช่วงฤดูร่วงที่ใบไม้เริ่มเปลี่ยนสี ที่นี่คืออีกหนึ่งจุดชมใบไม้แดงเร็ว ที่ได้รับความนิยมมากจากนักท่องเที่ยว โดยจะมีจุดสำหรับถ่ายภาพ ชมวิวอยู่บริเวณสันเขื่อน รวมทั้งยังมีเส้นทางปีนเขาจากโจซังเคออนเซ็นมายังเขื่อนแห่งนี้ ที่เป็นเส้นทางชมใบไม้แดงยอดนิยมอีกจุดหนึ่ง

ช่วงเวลาใบไม้เปลี่ยนสี : กลาง-ปลายเดือนตุลาคม

การเดินทาง : จากสถานีซัปโปโระ (JR Sapporo Station) ขึ้นบัสประมาณ 1 ชั่วโมง หรือหากเดินทางจาก Josankei นั่งแท็กซี่ 10 นาที ไปถึงประตูเข้าเขื่อน จากนั้นนั่งรถบัสไฟฟ้าไปอีก 5 นาที
เวลาเปิดให้บริการ : 09.00-16.00 น.

หรืออีกชื่อหนึ่งคือสวนโคเซ็ตสึเอน (Kosetsu-en Garden) สวนสาธารณะสวนขนาดใหญ่สไตล์ญี่ปุ่นซึ่งมีต้นไม้หลากหลายสายพันธุ์ให้ได้ชม และได้รับการประกาศให้เป็นมรดกทางวัฒนธรรมของชาติญี่ปุ่น เมื่อถึงฤดูใบไม้ร่วงทิวทัศน์ใบไม้เปลี่ยนสีที่นี่ก็ได้รับความนิยมมาก ด้วยความสะดวกสบาย การเดินทางที่ไม่ยากนักจากเมืองใหญ่ และทิวทัศน์อันงดงามของต้นเมเปิ้ลและต้นโดดันสึสึจิ (Dodantsutsuji) ที่แต่งแต้มบรรยากาศสีสันสวยสดทั้งสีแดงและสีเหลือง

ช่วงเวลาใบไม้เปลี่ยนสี : กลาง-ปลายเดือนตุลาคม

การเดินทาง : จากสถานีฮาโกดาเตะ (Hakodate Station) ขึ้นรถบัส Hakodate Bus ไปลงที่ป้าย Kosetsu-en ใช้เวลา 40 นาที
เวลาเปิดให้บริการ : ตลอด 24 ชั่วโมง

ภูเขาที่เป็นจุดชมใบไม้เปลี่ยนสีเร็วที่สุดในภูมิภาคโทโฮคุ (Tohoku) วิธีชมวิวที่ได้รับความนิยมมากจากนักท่องเที่ยวคือการขึ้นกระเช้าโรปเวย์ไปบนยอดเขาซึ่งจะได้พบกับวิวใบไม้เปลี่ยนสี เบื้องล่างพรอ้มทั้งชมทัศนียภาพของภูเขาที่ถูกแต่งแต้มไปด้วยสีสันเหลืองส้มแดงสุดลูกหูลูกตาจากมุมสูง

นอกจากนี้ยังมีวิวทุ่งหญ้าสีใกล้ๆ พื้นที่ชุ่มน้ำให้ได้ชมกันอีกด้วย หรือถ้าโชคดีในช่วงปลายๆ ฤดูใบไม้ร่วงถึงต้นฤดูหนาวก็จะมีหิมะบนยอดเขาโปรยปราย ทำให้ได้ชมทั้งใบไม้แดงและหิมะในคราวเดียวกัน

ช่วงเวลาใบไม้เปลี่ยนสี : กลาง-ปลายเดือนตุลาคม

การเดินทาง : จากสถานีอาโอโมริ (Aomori Station) โดยสารรถ JR Bus ไปลงที่สถานี Hakkoda Ropeway Eki-Mae หรือถ้าไม่ต้องการขึ้นกระเช้าโรปเวย์ก็สามารถลงป้ายอื่นที่อยู่รอบๆ พื้นที่และเดินต่อเพื่อชมใบไม้เปลี่ยนสีได้
เวลาเปิดให้บริการ : ตลอด 24 ชั่วโมง

โออิราเสะเป็นลำธารที่ไหลมาจากทะเลสาบโทวาดะ (Lake Towada) บริเวณพรมแดนระหว่างจังหวัดอาโอโมริ (Aomori) และจังหวัดอาคิตะ (Akita) ผ่านหุบเขาโออิราเสะ ที่นี่เป็นแหล่งท่องเที่ยวทำกิจกรรมแอดเวนเจอร์ที่ได้รับความนิยมมาก เช่น กิจกรรมเดินป่าหรือปั่นจักรยาน

เมื่อถึงฤดูใบไม้ร่วงบริเวณลำธารที่รายล้อมด้วยป่าสีเขียวก็จะเปลี่ยนเป็นสีเหลือง ส้ม แดง พร้อมทั้งมีทิวทัศน์น้ำตก โขดหิน ลำธาร รวมถึงจุดชมวิวที่สะพานแขวนซึ่งเป็นจุดชมวิวและถ่ายภาพสีแดงสดในฤดูใบไม้ร่วงของหุบเขาโออิราเสะที่งดงาม

ช่วงเวลาใบไม้เปลี่ยนสี : ปลายเดือนตุลาคม

การเดินทาง : จากสถานีชินอาโอโมริ (Shin-Aomori Station) ขึ้นรถบัสไปลงที่ป้าย Yakeyama และเดินอีก 3 นาที
เวลาเปิดให้บริการ : ตลอด 24 ชั่วโมง

ซาโอะเอโคไลน์ เป็นเส้นทางขับรถชมใบไม้แดงที่เชื่อมระหว่างจังหวัดมิยางิ (Miyagi) - ยามากาตะ (Yamagata) มีระยะทางประมาณ 26 กิโลเมตร ตัดผ่านภูเขาโดยระหว่างทางจะมีจุดชมวิวใบไม้เปลี่ยนสีที่สวยงามหลายจุดมาก

ไฮไลท์คือจุดชมวิวที่สามารถมองเห็นปากปล่องภูเขาไฟโอคามะ (Mt. Okama) พร้อมๆ กับสีสันความงดงามของใบไม้เปลี่ยนสีได้อย่างน่าประทับใจ ดังนั้นถ้าขับรถได้ก็ขอแนะนำให้วางแผนเช่ารถยนต์เที่ยวบนเส้นทางนี้ในฤดูใบไม้ร่วงให้ได้

ช่วงเวลาใบไม้เปลี่ยนสี : กลาง-ปลายเดือนตุลาคม

การเดินทาง : เนื่องจากไม่มีรถสาธารณะเข้าถึง แนะนำให้เช่ารถยนต์ขับ จากสถานีรถไฟ JR Shiroishi - Zao ขับรถไปประมาณ 40 นาที หรือจากถนน Tohoku Expressway ทางออก Shiroishi IC ผ่านทางหลวงหมายเลข 457 ใช้เวลาประมาณ 30 นาที
เวลาเปิดให้บริการ : ตลอด 24 ชั่วโมง

ลักษณะเด่นของที่นี่คือเป็นทะเลสาบปล่องภูเขาไฟสองชั้นที่มีน้ำขังในภูมิประเทศแบบหลุมภูเขาไฟรูปก้นครกที่อยู่สูงถึง 400 เมตรเหนือระดับน้ำทะเลและเป็นทะเลสาบที่ใหญ่ที่สุดลำดับที่ 12 ของญี่ปุ่น

เมื่อถึงฤดูใบไม้ร่วงที่นี่จึงถูกห้อมล้อมไปด้วยวิวของใบไม้สีเหลือง แดง ส้ม สุดลูกหูลูกตา การไล่สีเฉดของทะเลสาบสีฟ้ากับใบไม้เปลี่ยนสีเหมาะกับการมาเดินชมความสวยงามรอบๆทะเลสาบ หรือจะนั่งเรือสำราญชมทิวทัศน์จากในทะเลสาบก็เป็นอีกหนึ่งประสบการณ์ที่ไม่ควรพลาดอย่างยิ่ง

ช่วงเวลาใบไม้เปลี่ยนสี : ปลายเดือนตุลาคม

การเดินทาง : จากสถานีอาโอโมริ (JR Aomori Station) โดยสารรถบัส JR Bus Tohoku ไปลงที่ทะเลสาบและเดินต่ออีก 10 นาที
เวลาเปิดให้บริการ : ตลอด 24 ชั่วโมง

เดิมที ที่นี่เคยเป็นที่ตั้งของปราสาทโคซุคาตะ (Kozukata Castle) ปราสาทของผู้ครองแคว้นในสมัยก่อน ซึ่งถูกเข้ายึดและทำลายตัวปราสาทเหลือไว้เพียงกำแพงหิน จนวันเวลาผ่านไปรัฐบาลกลางได้เสนอให้มีการเปลี่ยนทำเป็นสวนสาธารณะเพื่อจะได้ใช้สอยพื้นที่ให้เกิดประโยชน์

ต่อมาจึงมีการปรับปรุงให้เป็นสวนสาธารณะสำหรับทำกิจกรรมพักผ่อนหย่อนใจ ซึ่งมีชื่อเรียกอีกชื่อหนึ่งว่าสวนอิวาเตะและในฤดูใบไม้ร่วงก็จะได้พบกับทิวทัศน์ใบเมเปิ้ลสีแดงสดใสและใบแปะก๊วยสีเหลืองทองมาช่วยสร้างบรรยากาศโดยมีซากปราสาทเป็นฉากหลัง

ช่วงเวลาใบไม้เปลี่ยนสี : ปลายเดือนตุลาคม

การเดินทาง : จากสถานีโมริโอกะ (JR Morioka Station) เดินประมาณ 15-20 นาที หรือนั่งรถบัส DenDen Mushi Loop มาลงที่ป้ายหมายเลข 16 (Morioka Joato Koen) ใช้เวลาประมาณ 10 นาที
เวลาเปิดให้บริการ : ตลอด 24 ชั่วโมง

น้ำตกอากิอุโอทาคิ มีสายน้ำกว้าง 6 เมตรและมีสูงประมาณ 55 เมตร อยู่ไม่ไกลจากเมืองเซนได (Sendai) สามารถเที่ยวชมได้ทุกฤดูกาล และจะมีทิวทัศน์งดงามมากเป็นพิเศษเมื่อถึงฤดูใบไม้เปลี่ยนสี เพราะรอบบริเวณน้ำตกจะกลายเป็นสีแดงส้มและเหลือง ของต้นแปะก้วยและเมเปิ้ลญี่ปุ่น

อีกทั้ง ในแถบพื้นที่นี่ยังขึ้นชื่อในเรื่องออนเซ็นรวมทั้งเป็นแหล่งศิลปหัตถกรรมพื้นบ้านที่มีชื่อเสียงของเมืองเซนได เช่นตุ๊กตาโคเคชิ ผลิตภัณฑ์จากไม้เซนได เป็นต้น

ช่วงเวลาใบไม้เปลี่ยนสี : ปลายเดือนตุลาคม

การเดินทาง : สถานีรถไฟเซนได (JR Sendai Station) โดยสารรถบัสประจำทางไปถึงน้ำตก ใช้เวลา 1 ชั่วโมง 30 นาที
เวลาเปิดให้บริการ : ตลอด 24 ชั่วโมง

เป็นหุบเขาพื้นที่ขนาดใหญ่อันอุดมสมบูรณ์ รายล้อมไปด้วยป่าไม้และต้นน้ำลำธาร รวมทั้งแหล่งน้ำพุร้อน ซึ่งหุบเขาแห่งนี้จะมีเสน่ห์มากยิ่งขึ้นในช่วงฤดูใบไม้ร่วง โดยนักท่องเที่ยวจะได้เพลิดเพลินกับใบไม้เปลี่ยนสีหลากสีสัน และมีภาพรถไฟที่กำลังเคลื่อนตัวผ่านอุโมงค์ ที่มีฉากหลังเป็นใบไม้เปลี่ยนสีสุดตระการตา

หรือหากใครที่ต้องการใกล้ชิดกับธรรมชาติให้มากยิ่งขึ้น ก็สามารถเดินสำรวจเส้นทางเดินธรรมชาติบริเวณหุบเขาที่ระหว่างทางเดินนอกจากวิวใบไม้แดงแล้วก็ยังมีเสียงลำธารมาช่วยทำให้รู้สึกสดชื่นกว่าเดิมอีกด้วย

ช่วงเวลาใบไม้เปลี่ยนสี : ปลายเดือนตุลาคม

การเดินทาง : จากสถานีนารุโกะออนเซ็น (Naruko-Onsen Station) ขึ้นรถบัส Miyakoh bus ไปลงที่ Narukokyo Nakayamadairaguchi
(* รถบัสจะให้บริการเฉพาะช่วงกลางเดือนตุลาคม ถึงต้นเดือนพฤษจิกายนเท่านั้น โปรดตรวจสอบรอบบัสก่อนเดินทาง)
เวลาเปิดให้บริการ : ตลอด 24 ชั่วโมง ยกเว้นเส้นทางเดินทางสำรวจป่าเปิดทำการ 10.00-15.00 น.

วนอุทยานแห่งชาติบนพื้นที่ราบสูงกลางภูเขาลึก ครอบคลุมพื้นที่ขนาดใหญ่ในจังหวัดอาคิตะและจังหวัดอิวาเตะ มีถนนชื่อแอสไปต์ไลน์ (Aspite Line) ที่ตัดผ่านภูเขา เป็นจุดชมใบไม้เปลี่ยนสีที่สวยงามตระการตาในฤดูใบไม้ร่วง ซึ่งได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเพื่อชมใบไม้แดงตรงจุดนี้จำนวนมาก อีกทั้ง ใกล้กันก็ยังมีแหล่งออนเซ็นกลางแจ้งให้ได้พักค้างแรมพร้อมกับชมทิวทัศน์ใบไม้เปลี่ยนสีไปพร้อมกันได้

ช่วงเวลาใบไม้เปลี่ยนสี : ต้น-กลางเดือนตุลาคม

การเดินทาง : จากสถานีโมริโอกะ (Morioka Station) โดยสารรถบัสที่วิ่งตรงไป Hachimantai-chojo มีแค่วันละรอบเท่านั้น ถ้าพลาดก็จะมีอีกสายแต่ต้องแวะเปลี่ยนรถที่ Higashi Hachimantai Kotsu Center ก่อนไปต่อยังสถานี Hachimantai-chojo หรืออีกวิธีหนึ่งคือเช่ารถยนต์ขับชมตามทาง Aspite Line
เวลาเปิดให้บริการ : ตลอด 24 ชั่วโมง

แหล่งมรดกโลกในจังหวัดโทชิกิ (Tochigi) ที่มีชื่อเสียงมายาวนานในหมู่คนไทย โดยเฉพาะในฤดูใบไม้ร่วงที่เป็นจุดชมใบไม้แดงอันดับต้นๆ ของประเทศ โดยมีจุดชมวิวตามที่เที่ยวหลากหลายบรรยากาศให้ได้เลือกเที่ยวชมทั่วทั้งพื้นที่ เช่น ในพื้นที่ศาลเจ้านิกโก้โทโชกุ (Nikko Toshogu Shrine) กับทิวทัศน์ใบไม้เปลี่ยนสีที่มีสถาปัตยกรรมของศาลเจ้าเป็นฉากหลัง หรือหากชอบธรรมชาติก็จะมีที่ทะเลสาบชูเซนจิและน้ำตกใกล้ๆ ซึ่งสามารถเดินสำรวจธรรมชาติรอบทะเลสาบพร้อมชมวิวใบไม้เปลี่ยนสีที่งดงามน่าประทับใจ

ช่วงเวลาใบไม้เปลี่ยนสี : ปลายเดือนตุลาคม

การเดินทาง : โดยสารรถไฟ Tohoku Shinkansen ไปลงที่สถานีอุทสึโนมิยะ (Utsunomiya Station) จากนั้นโดยสารรถไฟ JR Nikko Line ไปลงที่สถานี Nikko แล้วโดยสารรถบัสไปลงที่ป้าย Nishisando
เวลาเปิดให้บริการ : ขึ้นอยู่กับสถานที่แต่ละแห่ง

จุดชมใบไม้แดงใกล้กับนิกโก้ แต่จะเป็นถนนเลนคู่อันคดเคี้ยวที่ให้เดินรถทางเดียว เป็นเส้นทางเชื่อมระหว่างตัวเมืองนิกโก้และทะเลสาบชูเซนจิ (Lake Chuzenji) มีทางโค้งมากถึง 48 โค้ง ในช่วงฤดูใบไม้ร่วงจะกลายเป็นถนนสายท่องเที่ยวที่ทิวทัศน์สองข้างทางคือใบไม้เปลี่ยนสีที่สวยงามอย่างมาก

ระหว่างทางจะมีจุดพักรถชื่อ อะเคชิไดระ เรสต์เฮาส์ (Akechidaira Rest House) บนที่ราบสูงอะเคชิไดระ ซึ่งสามารถใช้บริการขึ้นโรปเวย์ไปยังจุดชมวิว เพื่อชมวิวใบไม้เปลี่ยนสีในพื้นที่นี้แบบพาโนรามาได้

ช่วงเวลาใบไม้เปลี่ยนสี : ปลายเดือนตุลาคม

การเดินทาง : เช่ารถขับ หรือโดยสารรถไฟ Tohoku Shinkansen ไปลงที่สถานีอุทสึโนมิยะ (Utsunomiya Station) จากนั้นโดยสารรถไฟ JR Nikko Line ไปลงที่สถานีนิกโก้ (Nikko Station) แล้วโดยสารรถบัส Tobu Bus ไปลงที่ป้าย Akechidaira
เวลาเปิดให้บริการ : ตลอด 24 ชั่วโมง

ไฮไลท์ของฤดูใบไม้ร่วงที่นี่คือการนั่งกระเช้าโรปเวย์ชมใบไม้เปลี่ยนสีที่เร็วที่สุดแห่งหนึ่งของภูมิภาคคันโต (Kanto) โดยภูเขาแห่งนี้ตั้งอยู่ในเมืองมินาคามิ (Minakami) บนความสูงจากระดับน้ำทะเล 1,977 เมตร และได้รับความนิยมสำหรับผู้ที่ชื่นชอบกิจกรรมปีนเขากับปีนหน้าผาในญี่ปุ่นจำนวนมาก

ภูเขานี้มีทิวทัศน์ที่สวยงามทุกฤดูกาล โดยเฉพาะฤดูใบไม้ร่วงที่เทือกเขาทั้งลูกจะถูกย้อมด้วยสีแดง ส้ม เหลือง สามารถชมวิวแบบพาโนรามาบนกระเช้าโรปเวย์ หรือใครจะเลือกการเดินขึ้นเขาก็ทำได้เช่นกัน

ช่วงเวลาใบไม้เปลี่ยนสี : ปลายเดือนตุลาคม

การเดินทาง : จากสถานีรถไฟมินาคามิ (Minakami Station) โดยสารรถบัสไปลงที่สถานีเคเบิ้ลคาร์ Tanigawadake Ropeway
เวลาเปิดให้บริการกระเช้าโรปเวย์ : 08.00-17.00 น. ค่ากระเช้าโรปเวย์เที่ยวเดียว 1250 เยน, ไป-กลับ 2100 เยน

อุทยานแห่งชาติขนาดใหญ่ในเทือกเขาแอลป์ญี่ปุ่นที่มีทิวทัศน์สวยงามแตกต่างกันไปตลอดปี และเป็นจุดชมใบไม้เปลี่ยนสีที่เร็วที่หนึ่งในฤดูใบไม้ร่วงที่ได้รับความนิยมมากอีกแห่งหนึ่งด้วย มีจุดท่องเที่ยวเพื่อชมใบไม้เปลี่ยนสีหลายแห่ง เช่นสระน้ำไทโช (Taisho Pond) หรือระหว่างเส้นทางชมธรรมชาติที่ไปถึงสะพานคัปปะบาชิ (Kappabashi) ก็จะรายล้อมไปด้วยทิวทัศน์ของใบไม้สีเหลืองส้มแดงตลอดสองข้างทางเดิน ท่ามกลางอากาศที่เย็นสบายตลอดปี

ช่วงเวลาใบไม้เปลี่ยนสี : กลาง-ปลายเดือนตุลาคม

การเดินทาง : จากสถานีมัตสึโมโตะ (Matsumoto Station) ขึ้นรถบัสไปลงที่ Kamokochi ใช้เวลา 1 ชั่วโมง 45 นาที
เวลาเปิดให้บริการ : 08.00-17.00 น.

หมู่บ้านอากิยามาโก (Akiyamago) คือหมู่บ้านที่ตั้งอยู่ท่ามกลางป่าไม้ที่สวยงามรอบ ๆ แม่น้ำนาคัตสึกาวะ (Nakatsugawa) จังหวัดนีงาตะ (Niigata) และมีพื้นที่ส่วนหนึ่งอยู่ในเขตจังหวัดนากาโนะ (Nagano)

ในช่วงเดือนตุลาคมที่นี่ก็เป็นจุดชมใบไม้เปลี่ยนสีที่สวยงามอีกแห่งหนึ่งซึ่งได้รับความนิยมของนักท่องเที่ยวในการเดินทางมาชมและเพลิดเพลินกับทิวทัศน์หมู่บ้านแสนสงบกลางธรรมชาติของแม่น้ำ ภูเขา สะพานและสีสันของใบไม้สีเหลือง ส้ม แดง ราวกับภาพวาดศิลปะ

ช่วงเวลาใบไม้เปลี่ยนสี : กลาง-ปลายเดือนตุลาคม

การเดินทาง : จากสถานีอิจิโกะยูซาวะ (JR Echigo-Yuzawa Station) ต่อรถบัสท้องถิ่นไปลงที่ Akiyamago ใช้เวลา ประมาณ 30 นาที
เวลาเปิดให้บริการ : ตลอด 24 ชั่วโมง