แนะนำ 5 จุดโล้ชิงช้าวิวสวย ถ่ายรูปปัง เทรนด์ถ่ายรูปใหม่ 2022 ในญี่ปุ่น!
เดี๋ยวนี้การไปชมทิวทัศน์ธรรมชาติเริ่มมีรูปแบบใหม่ๆ ที่ไม่ใช่แค่ไปเดินชม เดินป่าปีนเขาสัมผัสธรรมชาติแนวผจญภัย หรือขับรถกินลมชมวิวแบบชิลล์ๆ แล้วนะ เพราะที่ญี่ปุ่นกำลังมีเทรนด์โล้ชิงช้าชมทัศนียภาพธรรมชาติสวยงาม ซึ่งครั้งนี้เราจะพาไปทำความรู้จักกันทั้งหมด 5 แห่ง มีที่ไหนบ้าง เตรียมปากกาจดลิสต์ไว้ให้ดีแล้วตามเรามาเลย!
1. คาจิคาจิ เซ็กเค บุรังโกะ - จังหวัดยามานาชิ (Kachikachi Sekkei Blanco, Yamanashi)
ชิงช้าชมวิวที่ฮอตฮิตในหมู่คนไทยเราอีกแห่งก็คือชิงช้าชมทิวทัศน์ภูเขาคาจิคาจิ (Kachikachi-yama Zekkei Blanco) ที่ทะเลสาบคาวากูจิโกะ (Lake Kawaguchiko) จังหวัดยามานาชิ (Yamanashi) ※ หากอ่านตามเสียงภาษาญี่ปุ่นจะเรียกชิงช้าว่า "บุรังโกะ"
ชิงช้าคาจิคาจิเป็นจุดชมวิวภูเขาไฟฟูจิล่าสุดที่จะทำให้เราสามารถมองเห็นวิวภูเขาฟูจิได้ใกล้เข้าไปอีก เป็นจุดเช็คอินแห่งใหม่ของช่างภาพและผู้ที่ชื่นชอบการถ่ายรูปลงอินสตาแกรมเป็นที่สุด
จุดเด่นคือชิงช้าเป็นที่นั่งเดี่ยว 2 ที่คู่กัน มีขนาดใหญ่และสูงประมาณ 3.5 เมตร ยิ่งโล้ชิงช้าให้สูงก็จะยิ่งมองเห็นวิวภูเขาไฟฟูจิในมุมใหม่ๆ ที่ยังไม่มีใครเคยเห็นได้ ตั้งอยู่ที่ Tenjozan Park เปิดให้บริการเมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน 2021 ที่ผ่านมานี้เอง ซึ่งการจะขึ้นไปนั่งชิงช้าคาจิคาจิก็อาศัยกระเช้าลอยฟ้า Kawaguchiko Mt. Fuji Panorama Ropeway ที่ขึ้นชื่อของที่นี่นั่นเอง
เวลาทำการ:10.00 น. - 11.00 น. / 13.00 น. - 14.00 น. / 14.30 น. - 16.00 น.
ค่าเข้าชม:500 เยน
การเดินทาง:
จากสถานีโอตสึกิ (Otsuki Station) ขึ้นรถไฟ JR Chuo สาย Fujikyuko ไปลงลงสถานีคาวากุจิโกะ (Kawaguchiko Station) จากนั้นเดินต่อไปอีกประมาณ 10 นาที หรือนั่งรถบัส Kawaguchiko ไปอีกประมาณ 5 นาที
2. ฮาโกเนะ โนะ บุรังโกะ - จังหวัดคานางาวะ (Hakone no Blanco, Kanagawa)
จุดแรกที่จะพาไปคือชิงช้าที่ฮาโกเนะ ตั้งอยู่ที่ Anest Iwata Turnpike Hakone บนภูเขาไดคัง (Daikanzan Observation Deck) ที่ความสูง 1,015 เมตรจากระดับน้ำทะเล ในเมืองฮาโกเนะ (Hakone) จังหวัดคานางาวะ (Kanagawa)
ชิงช้าฮาโกเนะสร้างขึ้นจากความต้องการที่จะให้มีความทรงจำอันแสนวิเศษกับคนสำคัญ ตัวที่นั่งชิงช้านั่งได้ 2 คน ทำจากไม้ ที่นี่เป็นจุดถ่ายรูปยอดนิยมแห่งหนึ่ง มีวิวของทะเลสาบอะชิ (Lake Ashi) และภูเขาไฟฟูจิเป็นทิวทัศน์งดงามเป็นฉาก ถ้าถ่ายตอนชิงช้ากำลังเหวี่ยงขึ้นไปก็น่าจะได้ภาพที่ระลึกแบบไม่เหมือนใครเอาไปแชร์ลงโซเชียลกันสนุกไปเลย นอกจากนี้ยังใช้ในโปรเจกต์การแต่งงาน ซึ่งจะให้คู่บ่าวสาวมานั่งชิงช้าถ่ายรูปกันอีกด้วย
※ ใครที่อยากมาถ่าย Pre-wedding ในญี่ปุ่น แล้วอยากได้วิวภูเขาไฟฟูจิสวยๆ พร้อมกับสถานที่และโพสต์ท่าแปลกใหม่ล่ะก็เราขอแนะนำที่นี่เลยค่ะ
เวลาทำการ:05.30 น. - 22.30 น.
ค่าเข้าชม:ฟรี
การเดินทาง:
จากสถานีโอดาวาระ (Odawara Station) หรือสถานีฮาโกเนะ ยุโมโตะ (Hakone yumoto Station) ขึ้นรถบัส Hakone Tozan ไปลงป้าย Hakonemachikou แล้วเปลี่ยนไปขึ้นรถบัสคันที่จะไปสถานี Yugawara ลงที่ป้าย Daikanyama
3. ยะโฮ้! สวิง - จังหวัดนางาโนะ (Yoo-Hoo! SWING, Nagano)
ถ้าอยากสัมผัสวิวธรรมชาติของเทือกเขาแอลป์สุดประทับใจเหมือนอย่างในการ์ตูนอนิเมะเรื่องไฮดี้ (Heidi, Girl of the Alps) แล้วละก็ ขอแนะนำให้ไปนั่งชิงช้า Yoo-Hoo! SWING แล้วเก็บเกี่ยวบรรยากาศอันสวยงามของภูเขาแอลป์ให้เต็มที่กันเถอะ! ※ ภาษาญี่ปุ่นออกเสียงตะโกนว่า "ยะโฮ้" แต่ภาษาอังกฤษใช้คำว่า "วู้ฮู้ว"
Yoo-Hoo! SWING ตั้งอยู่บนยอดเขาอิวาตาเกะ (Iwatake) ที่ความสูง 1,289 เมตร ข้าง Hakuba Mountain Harbor ใน Hakuba Iwatake Mountain Resort จังหวัดนางาโนะ (Nagano) เป็นชิงช้าที่จะทำให้เราได้สัมผัสประสบการณ์เหาะชมวิวโดยมีเทือกเขาเจแปนแอลป์ตั้งตระหง่านอยู่ตรงหน้า มีความสูง 3.6 เมตร สำหรับชื่อของชิงช้าก็สอดคล้องกับเสียงร้องตะโกน ยะโฮ้! หรือวู้ฮู้ว! ด้วยความสนุกตื่นเต้นของคนนั่งในยามที่ชิงช้าเหวี่ยงขึ้นสูง แต่ก็มีข้อจำกัดสำหรับผู้มาใช้บริการเช่นกัน คือต้องมีส่วนสูง 110 เซนติเมตรขึ้นไป
เวลาทำการ:สำหรับปี 2022 เปิดบริการตั้งแต่ 28 เมษายนถึง 13 พฤศจิกายน เวลา 09.00 น. - 16.00 น.
ค่าเข้าชม:500 เยน/คน/ครั้ง นั่งได้ 2 นาที
การเดินทาง:
นั่งรถไฟมาลงที่สถานีเจอาร์ฮาคุบะ (JR Hakuba Station) แล้วขึ้นรถชัตเติลบัส (Shuttle Bus) ฟรีไปยังรีสอร์ท
4. เทนคุ โนะ บุรังโกะ - จังหวัดคางาวะ (Tenku no Blanco, Kagawa)
ชิงช้าเหินฟ้า หรือ Tenku no Blanco เป็นจุดชมวิวด้วยการโล้ชิงช้าอีกแห่งที่ขึ้นชื่อว่าทิวทัศน์งดงามราวกับประเทศสวิตเซอร์แลนด์เหมือนเข้าไปอยู่ในการ์ตูนอนิเมะเรื่องไฮดี้ (Heidi, Girl of the Alps) ตั้งอยู่บนยอดเขาอุมเป็นจิ (Unpenji) ที่ความสูง 920 เมตร ใน Unpenji Sancho Park เมืองคานนจิ (Kanonji) จังหวัดคางาวะ (Kagawa)
Tenku no Blanco ประกอบด้วยชิงช้านั่งเดี่ยว 2 ตัวคู่กัน โครงสร้างทำด้วยไม้ เมื่อแกว่งขึ้นสูงจะเหมือนลอยอยู่บนท้องฟ้า สามารถชมวิวได้รอบตัวแบบพาโนรามา 360 องศา มีทั้งวิวของที่ราบมิโตโยะ (Mitoyo Plain) ทะเลฮิอุจิ นาดะ (Hiuchi Nada Sea) และในวันที่อากาศแจ่มใสก็จะมองเห็นไปถึงสะพานเซโตะ (Seto Ohashi Bridge) ฝั่งจังหวัดโอกายามะ (Okayama) กับฮิโรชิมะ (Hiroshima) ด้วย
เวลาทำการ:
- มีนาคม - พฤศจิกายน เวลา 07.20 น. - 17.00 น.
- ธันวาคม - กุมภาพันธ์ เวลา 08.00 น. - 17.00 น.
ค่าเข้าชม:ฟรี แต่มีค่ากระเช้าที่โดยสารขึ้นมา
- ผู้ใหญ่ไป-กลับ 2,200 เยน
- นักเรียนมัธนมต้น-ปลาย ไป-กลับ 1,650 เยน
- นักเรียนประถม ไป-กลับ 1,100 เยน
การเดินทาง:
จากสถานีโทโยฮามะ (Toyohama Station) นั่งแท็กซี่ไปอีกประมาณ 15 นาที หรือจากสถานีเจอาร์คันอนจิ (JR Kan-onji Station) นั่งแท็กซี่ไปอีกประมาณ 25 นาทีไปถึง Umpenji Ropeway Sanroku Station แล้วนั่งกระเช้าต่อขึ้นไปด้านบน
5. ซันเมสเสะ นิจินัน บุรังโกะ - จังหวัดมิยาซากิ (Blanco in Sun Messe Nichinan, Miyazaki)
มาถึงชิงช้าชมวิวที่จะแนะนำเป็นแห่งสุดท้ายของวันนี้กันแล้ว นั่นก็คือชิงช้าชมวิวที่สวนซันเมสเสะนิจินัน (Sun Messe Nichinan) จังหวัดมิยาซากิ (Miyazaki) สวนแห่งนี้เป็นเพียงแห่งเดียวในโลกที่ได้รับการอนุญาตจากประเทศชิลี (Republic of Chile) ซึ่งเป็นสถานที่ต้นแบบของรูปปั้นโมอายให้สร้างรูปปั้นหินโมอายตามแบบหมู่เกาะอีสเตอร์ (Easter) ได้
เมื่อนั่งชิงช้าชมวิวก็จะมองเห็นรูปปั้นหินโมอาย 7 ตัวตั้งอยู่ริมชายฝั่ง ซึ่งแต่ละตัวก็มีพลังให้ขอพรด้านต่างๆ กัน ได้แก่ การงาน สุขภาพ ความรัก เรื่องรวมๆ ทั่วไป การแต่งงาน การเงิน และการเรียน และเลยรูปปั้นหินโมอายออกไปก็เป็นทะเลกว้างใหญ่สุดลูกหูลูกตา เป็นจุดโฟโต้สป็อตสุดฮิตอีกแห่งสำหรับสายโซเชียล
เวลาทำการ:09.30 น. - 17.00 น. (ปิดทุกวันพุธที่ 1 และ 3 ของเดือน)
ค่าเข้าชม:700 เยน
การเดินทาง:
จากสถานีรถบัส Miyazaki Station West No.3 ขึ้นรถบัสหมายเลข 965 ที่จะไป Sun Messe Nichinan ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาที
บทส่งท้าย
เป็นอย่างไรบ้างคะกับจุดโล้ชิงช้าที่เราได้คัดสรรมาฝากทุกคนในวันนี้ แต่ละจุดวิวสวยมากเลยใช่ไหมคะ โดยเฉพาะช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสีที่จะถึงนี้ พวกเราทีมงาน AAJ อยากให้เพื่อนๆ ได้ลองไปสัมผัสกัน รับรองว่าจะได้ทัศนียภาพแปลกใหม่ในแบบที่ไม่เหมือนใครอย่างแน่นอนเลยค่ะ ไว้พบกันใหม่กับบทความต่อไปนะคะ