All About Japan

สายมูต้องไป! 5 ศาลเจ้า Power Spot ชื่อดังในภูมิภาคชูบุ

Chubu
สายมูต้องไป! 5 ศาลเจ้า Power Spot ชื่อดังในภูมิภาคชูบุ

แนะนำศาลเจ้าที่มีชื่อเสียงในการเป็นจุดเสริมพลังชีวิต (Power Spot) หลายๆ ด้าน ที่ชาวญี่ปุ่นรวมทั้งนักท่องเที่ยวนิยมเดินทางไปสักการะขอพร ซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่ภูมิภาคชูบุ (Chubu) หรือภาคกลางของประเทศญี่ปุ่นรวมทั้งข้อมูลที่น่าสนใจของภูมิภาคนี้

ทำความรู้จักภูมิภาคชูบุ (Chubu) ภาคกลางของญี่ปุ่น

ทำความรู้จักภูมิภาคชูบุ (Chubu) ภาคกลางของญี่ปุ่น

https://pixta.jp/

ภูมิภาคชูบุ (Chubu) หรือภาคกลางของญี่ปุ่น เป็นภูมิภาคที่ประกอบด้วย 9 จังหวัด ได้แก่ กิฟุ (Gifu) ชิซุโอกะ (Shizuoka) นากาโนะ (Nagano) นีงาตะ (Niigata) โทยามะ (Toyama) ฟุคุอิ (Fukui) ยามานาชิ (Yamanashi) อิชิคาวะ (Ishikawa) และไอจิ (Aichi) จุดเด่นของภูมิภาคชูบุและจังหวัดต่างๆ นี้ก็คือความแตกต่างทางด้านสภาพภูมิประเทศ วัฒนธรรม วิถีชีวิต ธรรมชาติที่หลากหลาย ทำให้มีความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะในแต่ละจังหวัดอย่างชัดเจน

สำหรับนักท่องเที่ยวไทยหากต้องการเดินทางไปเที่ยวในภูมิภาคชูบุ สามารถขึ้นเครื่องไปลงที่สนามบินนานาชาติชูบุเซ็นแทร์ (Chubu Centrair International Airport) ในเมืองนาโกย่า จังหวัดไอจิและวางแผนเที่ยวจากที่นี่ได้อย่างสะดวก ซึ่งในภูมิภาคนี้ก็มีแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยม อาทิ หมู่บ้านชิราคาวะโกะ (Shirakawa-go) จังหวัดกิฟุ, นาบะนะ โนะ ซาโตะ (Nabana no Sato) จังหวัดมิเอะ, ปราสาทนาโกย่า (Nagoya Castle) จังหวัดไอจิ เป็นต้น

และในครั้งนี้ก็มีแหล่งท่องเที่ยวที่เป็นจุดเสริมพลังชีวิต (Power Spot) หรือศาลเจ้าเก่าแก่ที่เหมาะกับการไปท่องเที่ยวและขอพรด้านต่างๆ มาแนะนำ 5 แห่งดังต่อไปนี้

1. ศาลเจ้าโคอิโนมิซุ (Koinomizu Shrine) จังหวัดไอจิ (Aichi)

1. ศาลเจ้าโคอิโนมิซุ (Koinomizu Shrine) จังหวัดไอจิ (Aichi)

https://pixta.jp/

เป็นศาลเจ้าเล็กๆ ในเมืองชิตะ (Chita) จังหวัดไอจิ (Aichi) ที่มีประวัติความเป็นมายาวนานชื่อของศาลเจ้าในภาษาญี่ปุ่นมีความหมายว่า"น้ำแห่งความรัก" ตามตำนานเล่าว่าในสมัยก่อนเจ้าหญิงซากุระได้เดินทางเพื่อจะมาหาน้ำพุไปรักษาคนรักของหญิงที่ไม่สบายเพราะน้ำพุที่นี่สามารถรักษาได้ทุกโรคแต่เจ้าหญิงจะเสียชีวิตก่อนจะเดินทางมาถึงน้ำพุ

https://pixta.jp/

เมื่อเวลาผ่านไปจากน้ำพุที่รักษาได้ทุกโรคก็กลายเป็นน้ำพุที่รักษาความเจ็บปวดด้านความรัก จึงเป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้ตั้งแต่นั้นมาศาลเจ้าแห่งนี้มีชื่อเรื่องเรื่องการเป็น Power Spot ด้านความรัก เนื้อคู่และการแต่งงาน เชื่อกันว่าถ้าเขียนคำอธิษฐานเกี่ยวกับความรักลงบนแก้วกระดาษและตักน้ำแห่งความรักเทลงไปในแก้วครึ่งแก้วก่อนนำไปวางเพื่อบูชาเทพเจ้าในศาลเจ้า สิ่งที่อธิษฐานจะเป็นจริง

เวลาทำการ : ตลอด 24 ชั่วโมง
การเดินทาง : จากสถานีนาโกย่า (Nagoya Station) ขึ้นรถไฟสาย Meitestu Chita line ไปลงสถานีชิตะโอคุดะ (Chita Okuda Station) ใช้เวลา 1 ชั่วโมง 20 นาทีและเดินไปยังศาลเจ้าอีกประมาณ 20 นาที

2. ศาลเจ้าอัตสึตะ (Atsuta Jingu) จังหวัดไอจิ (Aichi)

2.  ศาลเจ้าอัตสึตะ (Atsuta Jingu) จังหวัดไอจิ (Aichi)

https://pixta.jp/

ศาลเจ้าชินโตอายุกว่า 2,000 ปี ที่มีความสำคัญมากแห่งหนึ่งในญี่ปุ่น ตั้งอยู่ในเมืองนาโกย่า (Nagoya) ท่ามกลางบรรยากาศร่มรื่นของป่าอัตสึตะ ภายในเป็นที่ประดิษฐานของเทพแห่งพระอาทิตย์ (Amaterasu) และดาบคุซานางิ (Kusanagi no Tsurugi) 1 ใน 3 เครื่องราชกกุธภัณฑ์ศักดิ์สิทธิ์ประจำจักรพรรดิญี่ปุ่น

https://pixta.jp/

แต่ละปีจะมีผู้เดินทางมาสักการะอธิษฐานขอพรที่ศาลเจ้าแห่งนี้นับแสนคน โดยเชื่อกันว่าเทพเจ้าที่นี่มีความศักดิ์สิทธ์ในเรื่องการเป็นจุดเสริมพลังชีวิตด้านโชคลาภและความสำเร็จในหน้าที่การงาน นอกจากนี้ในบริเวณเดียวกันก็ยังมีศาลเจ้าคามิชิคามะ ที่ได้รับความนิยมในการสักการะขอพรด้านความเจริญรุ่งเรืองของธุรกิจ สำหรับผู้ที่ประกอบกิจการส่วนตัวหรือค้าขาย

เวลาทำการ : ตลอด 24 ชั่วโมง ยกเว้นห้องจัดแสดงสมบัติเปิดบริการ 09.00-16.30 น.
การเดินทาง : จากสถานีนาโกย่า (Nagoya Station) ขึ้นรถไฟสาย Meitetsu Nagoya Main Line ไปลงสถานีจิงกูมาเอะ (Jingumae Station) ใช้เวลา 10 นาทีและเดินต่อประมาณ 3 นาที

3. ศาลเจ้าเกตะ (Keta Grand Shrine) จังหวัดอิชิคาวะ (Ishikawa)

3. ศาลเจ้าเกตะ (Keta Grand Shrine) จังหวัดอิชิคาวะ (Ishikawa)

https://pixta.jp/

ตั้งอยู่ในจังหวัดอิชิคาวะและได้ชื่อว่าเป็นศาลเจ้าขนาดใหญ่ที่สุดในพื้นที่คาบสมุทรโนะโต (Noto Peninsula) กลางป่าศักดิ์สิทธิ์มายาวนานนับพันปีรวมทั้งจุดเด่นอีกอย่างคือ ตัวอาคารหลักของศาลเจ้าที่มีต้นไม้ใหญ่กับเชือกชิเมนาวะ (Shimenawa) ล้อมรอบ และเป็นที่ประดิษฐานของเทพเจ้าแห่งการแต่งงานหรือโอคุนินุชิ (Okuninushi) เทพเจ้าที่มีชื่อเสียงโดดเด่นในเรื่องการตามหารักแท้

https://pixta.jp/

ผู้คนที่เดินทางมาศาลเจ้าแห่งนี้ก็จะเขียนคำอธิษฐานเกี่ยวกับความรักลงบนแผ่นป้าย (Ema) เพื่อขอพรอีกทั้งยังมีแท่นบูชารูปหัวใจที่เปรียบเหมือนสัญลักษณ์เรื่องความรักที่สมหวังตลอดจนเครื่องรางเกี่ยวกับความรักที่มีขายในศาลเจ้าก็มีให้เลือกซื้อหลากหลายรูปแบบด้วย

เวลาทำการ : 08.30-16.30 น. (เดือนกรกฎาคม-สิงหาคม เปิดถึง 18.00 น.)
การเดินทาง : จากสถานีคานาซาวะ (Kanazawa Station) ขึ้นรถไฟสาย JR Nanao Line ไปลงสถานีฮาคุอิ (Hakui Station) ใช้เวลา 1 ชั่วโมง ต่อรถบัสสายที่ไป Takahama หรือ Togi ไปลงที่ป้าย Ichinomiya bus stop ใช้เวลาประมาณ 10 นาที และเดินอีก 5 นาที

4. ศาลเจ้าอิเสะ (Ise Grand Shrine) จังหวัดมิเอะ (Mie)

4. ศาลเจ้าอิเสะ (Ise Grand Shrine) จังหวัดมิเอะ (Mie)

https://pixta.jp/

ศาลเจ้าอิเสะ (Ise Jingu) หนึ่งในศาลเจ้าชินโตที่มีความสำคัญมากในญี่ปุ่นและชาวญี่ปุ่นส่วนใหญ่เชื่อกันว่านี่คือศาลเจ้าที่ควรหาโอกาสเดินทางไปสักการะให้ได้สักครั้งหนึ่งในชีวิต จากตำนานเล่าขานเล่าไว้ว่าศาลเจ้าอิเสะคือที่สถิตย์ของเทพีแห่งพระอาทิตย์อามะเทระสุ (Amaterasu) ได้ชื่อว่าเป็นเทพที่ชาวญี่ปุ่นให้ความศรัทธาอย่างสูงสุด

ภายในบริเวณศาลเจ้าประกอบด้วย ศาลเจ้าชั้นนอก หรือ เกะคู (Geku) เรียกกันว่าศาลเจ้าโทะโยเคะได (Toyokedai jingu Shrine) เป็นที่ประดิษฐานของเทพเจ้าแห่งเกษตรกรรม

จากนั้นก็จะเข้าไปสู่ศาลเจ้าชั้นในหรือไนคู (Naiku) เรียกกันว่าศาลเจ้าโคไต (Kotai Jingu Shrine) เป็นที่สักการะเทพเจ้าแห่งพระอาทิตย์อามะเทระสุ (Amaterasu) ศาลเจ้าอิเสะ สามารถเดินทางมาเที่ยวชมบรรยากาศและอธิษฐานขอพรให้ประสบความสำเร็จได้ตลอดปี โดยเฉพาะช่วงปีใหม่ที่นี่ถือว่าเป็นศาลเจ้าอีกแห่งที่ผู้คนมักจะมาชมแสงแรกและอธิษฐานเนื่องในวันขึ้นปีใหม่เป็นจำนวนมากทุกปี

เวลาทำการ : 05.00-18.00 น.
การเดินทาง : จากสถานีคินเท็ตสึนาโกย่า (Kintetsu Nagoya Station) ขึ้นรถไฟ Kintetsu Limited Express ไปลงที่สถานีอิเสะชิ (Ise-shi Station) ใช้เวลา 1 ชั่วโมง 20 นาที และเดินอีกประมาณ 10 นาที

5. ศาลเจ้าโทกากุชิ (Togakushi Shrine) จังหวัดนากาโนะ (Nagano)

5. ศาลเจ้าโทกากุชิ (Togakushi Shrine) จังหวัดนากาโนะ (Nagano)

https://pixta.jp/

ศาลเจ้าแห่งนี้ตั้งอยู่บนภูเขาศักดิ์สิทธิ์ที่เรียกว่าโทะกากุชิ (Togakushi) ที่เงียบสงบห่างไกลจากความวุ่นวายของผู้คน ท่ามกลางธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์กับความศรัทธาที่สืบทอดกันมายาวนานกับพันปี โดยเฉพาะจุดเด่นอย่างต้นสนซีด้าร์ขนาดใหญ่สองข้างทางเดินเข้าไปยังศาลเจ้านับร้อยต้นถือว่าเป็นไฮไลท์ของศาลเจ้าแห่งนี้เลยทีเดียว

https://pixta.jp/

เชื่อกันว่าภูเขาแห่งนี้เป็นจุดเสริมพลังชีวิตในหลายๆ ด้าน โดยในพื้นที่จะมีศาลเจ้าทั้งหมด 5 ศาลเจ้าตั้งอยู่ตามจุดต่างๆ เช่น ศาลเจ้ากลาง ล่าง บน แต่ละแห่งห่างกันประมาณ 2 กิโลเมตร และจะมีแผ่นป้ายให้เขียนคำอธิษฐานขอพรแขวนไว้ด้วย สิ่งสำคัญอย่างหนึ่งในการไปเยือนศาลเจ้าแห่งนี้คือการเตรียมความพร้อมของร่างกายเพราะต้องเดินค่อนข้างเยอะเหมือนเป็นเส้นทางเดินป่าท่ามกลางบรรยากาศของความเป็นดินแดนศักดิ์สิทธิ์

เวลาทำการ : 09.00-17.00 น.
การเดินทาง : จากสถานีนากาโนะ (Nagano Station) ขึ้นรถบัสหมายเลข 70 หรือ 71 ไปลงที่ป้าย Togakushi-Hokosha ใช้เวลา 50 นาที (มีรถบัสให้บริการชั่วโมงละ 1 รอบ)

ผู้เขียน: หนึ่ง
นักอ่านและนักเขียนที่ชอบการเดินทางไปในที่ต่างๆ โดยเฉพาะญี่ปุ่น รักการดูอนิเมะญี่ปุ่นเป็นชีวิตจิตใจ :)

know-before-you-go