ยาต้องห้ามบินและสารเสพติดที่ห้ามนำเข้าประเทศญี่ปุ่น
แต่ในขณะเดียวกันก็มีผู้ใช้ช่องว่างทางกฏหมายข้อนี้แอบลักลอบขนส่วนประกอบของยาบางชนิด อาจทำสิ่งเสพติดได้ออกนอกประเทศ อย่าง "กัญชา กัญชง" ที่ห้ามนำเข้าญี่ปุ่น อาจจะเพื่อเสพส่วนตัวหรือเพื่อการค้า หรือไม่รู้เพราะกฏหมายที่แตกต่างกัน ทำให้เพื่อนร่วมบินเครื่องบินจากประเทศเดียวกันได้รับความเดือดร้อน
ยาแบบไหนถือเป็นสารตั้งต้นและสารเสพติดของญี่ปุ่น?
ยาแบบใดที่เข้าข่าย “ต้องห้ามบิน” หรือ สารเสพติดในอุดมคติและความจริงของคนญี่ปุ่น
กฏหมายแต่ละประเทศบัญญัติแตกต่างกันในเรื่องของยาหรือ “สารตั้งต้น” ที่ต้องควบคุมเพราะสามารถผลิตเป็น “สารเสพติด” เราจะยกตัวอย่างง่าย ๆ ก็ได้ค่ะ ใบกระท่อม(ミトラガイナの葉/クラトム) ทุกคนคิดว่าเป็นสารเสพติดมั้ยคะ?
ใบกระท่อมในสำนักงานควบคุมยาเสพติดและอาชญากรรมแห่งสหประชาชาติ (UNOCD) และ ไทย ระบุเป็นสารเสพติดในประเภทที่ 5 ค่ะ แต่ล่าสุด ปี 2564 ไทยเองก็ได้มีการปลดออกจากประเภทดังกล่าวแล้ว บางประเทศระบุว่าไม่เป็นสารเสพติด อาทิ อินโดนีเซีย เป็นต้น แน่นอนว่าอย่าขนใบกระท่อมมาที่ญี่ปุ่นนะ โดนรวบจับตั้งแต่ตรวจคนเข้าเมืองเลยค่ะ ซึ่งเราจะระบุเชื่อมโดยต่อไปว่าทำไมถึงมาแก้ข้อกฏหมายดังกล่าวในช่วงปี 2564
โดยข้อมูลนี้จะอ้างอิงหลักเอกสารจาก National Police Agency (Japan) ซึ่งเขาได้ทำเอกสารเกี่ยวกับสารเสพติดเผยแพร่รวมกับข้อมูลจากหน่วยงาน Ministry of Health, Labour and Welfare (Japan) ประกอบกับเอกสารอีกหลายหน่วยงานทั้งฝั่งไทยและญี่ปุ่น
ข้อมูลปัจจุบัน พบว่า ยาควบคุม ได้แก่ ยาที่มีสารซูโดอีเฟดรีน (Pseudoephedrine) ซึ่งจะไปกระตุ้นประสาทส่วนกลาง จึงเป็นยาควบคุมสำหรับประเทศญี่ปุ่น หรือยาแก้ปวดที่มีส่วนประกอบเฟนทานิล (Fentanyl) และเพทิดีน (Pethidine) และสารที่ออกฤทธิ์ทางประสาทเกี่ยวกับสมาธิสั้น เป็นต้น โปรดจำรายชื่อสารที่เน้นไว้ให้ดีนะคะ เพราะสารเหล่านี้แหละค่ะที่จะถูกตรวจสอบได้ง่าย
อ่านบทความเต็ม: www.npa.go.jp (ภาษาญี่ปุ่น)
คนที่เป็นโรคซึมเศร้า นำยาจากไทยเข้าประเทศญี่ปุ่นได้รึเปล่านะ
สำหรับผู้ป่วยที่เกี่ยวข้องกับยาซึมเศร้าหรือยาที่เกี่ยวข้องกับจิตเวชแล้วต้องพกพามาที่ญี่ปุ่นแนะนำให้กรอกเอกสารยาที่ต้องนำมาโดยละเอียดก่อน กรณีนี้จะเป็นยาที่จ่ายผ่านการรับรองแพทย์(医薬品) ต้องนับให้ครบมื้อที่ทานเลยค่ะ เช่น สมมติว่าคุณทาน หลังอาหาร เช้า/ก่อนนอน ต่อวันรวม 2 เม็ด คุณไปทั้งหมด 2 สัปดาห์ 2⨯14日= 48 เม็ด
ตามปกติแล้วทางญี่ปุ่นเขาก็จะไม่ให้คุณพกยาทานภายในไปไม่เกิน 2 เดือน ส่วนยาใช้ภายนอกแบบยาหยอดตา ยาดม จะเป็นไม่เกิน 1 เดือน ส่วนพาสปอร์ตท่องเที่ยวจะไม่เกิน 2 สัปดาห์ ค่ะ เครื่องสำอางไม่เกิน 24 ชิ้น เท่านั้น
11 รายชื่อยาต้องห้ามนำเข้าประเทศญี่ปุ่น
ตรงนี้ใครที่มีแพลนจะเดินทางไปญี่ปุ่นต้องอ่านและจดลิสต์ไว้เลยนะคะ เพราะช่วงนี้ที่สนามบินในญี่ปุ่นเองมีการตรวจสอบที่เข้มงวดมากขึ้น โดยรายชื่อยาต้องห้ามนำเข้าประเทศญี่ปุ่นมีดังต่อไปนี้
1. TYLENOL COLD
2. NYQUIL
3. NYQUIL LIQUICAPS
4. ACTIFED
5. SUDAFED
6. ADVIL COLD & SINUS
7. DRISTAN COLD/ “NO DROWSINESS”
8. DRISTAN SINUS
9. DRIXORAL SINUS
10. VICKS INHALER
11. LOMOTIL
โดย 11 รายชื่อนี้ สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น( 在東京タイ王国大使館)เคยลงเนื้อหาบน Facebook ในปี 2015 แล้วได้อ้างอิงจากรายชื่อยาจากเว็บไซต์สถานกงสุลใหญ่ญี่ปุ่นประจำนครซีแอทเทิล รายชื่อยาที่กล่าวมา 10 รายชื่อแรกมีสารซูโดอีเฟดรีน เป็นยาแก้ปวด แก้ไข้หวัด
หากแต่ว่าอาจจะไม่ได้หาได้ในประเทศไทยทั้งหมด แต่เป็นการแจ้งประชาสัมพันธ์เพื่อห้ามนำเข้าประเทศญี่ปุ่น ในรายชื่อสุดท้ายเป็นยารักษาอาการท้องเสียซึ่งสุ่มเสี่ยงต่อการนำเป็นสารตั้งต้นยาเสพติดจึงได้สั่งห้ามนำเข้าอีกประการหนึ่ง ซึ่งยังอ้างอิงใช้กระทั่งปัจจุบันค่ะ
ส่วนยาที่เป็นสารที่เป็นสารกระตุ้น ได้แก่
ยาผงหรือใสสีขาว(白)อย่างยาไอซ์(アイス/覚醒剤)และโคเคน(コカイン)ยาอีหรือยาเลิฟ(MDMA)กลุ่มยาที่ทำให้คึกอย่างยาม้าหรือยาบ้า(スピード)และกลุ่มยาควบคุมประสาทส่วนกลาง [S(エス)]
กลุ่มยาดังกล่าวก็จะทำให้ประสาทหลอน ผิดปกติจนเสียการควบคุม หากเสพปริมาณมากอาจทำให้ป่วยจิตเวช ซึ่งทางการญี่ปุ่นเป็นห่วงเรื่องนี้มากค่ะเพราะเดิมที่ทางประเทศญี่ปุ่นก็สุดโต่งในคดีโรคจิตในประเทศอยู่แล้ว ค่อนข้างมีคดีแปลกและอันตรายเกิดขึ้นบ่อย ในช่วยภายหลังยังพบว่าคดีที่เกิดขึ้นยังเกิดจากว่าเป็นผู้เสพสารเสพติดมาก่อนอีกด้วย
“กัญชา กัญชง” สารเสพติดธรรมชาติ (ลงโทษ) แน่! ถ้าคุณนำไปที่ญี่ปุ่นด้วย
สารเสพติดใช่ว่าจะมีแบบที่สังเคราะห์แบบเดียวนะคะ แบบธรรมชาติก็มีค่ะ ธรรมชาติลงโทษค่ะ!!! ถ้าคุณพกมันมาประเทศอื่นด้วย เพราะจากก่อนหน้านี้ที่เรากล่าวถึงใบกระท่อมซึ่งไทยได้เพิ่มปลดล็อคจากการเป็นสารเสพติดในปี 2564 แต่ญี่ปุ่นยังคงเป็นสารเสพติดเช่นเดิม ห้ามเข้า!
หลังจากที่ไทยปลดล็อคใบกระท่อมก็มีการปลดล็อคพืช “กัญชา กัญชง(大麻)” ออกจากสมุนไพรให้โทษทางเป็นสารเสพติดประเภทที่ 5 กลายเป็นนโยบายกัญชาเสรีเพื่อการแพทย์และครัวเรือนภายในประเทศไทย ซึ่งส่งผลให้คนในไทยก็ปรับตัวกันยากเพราะเราต่างไม่รู้ว่าส่วนประกอบใดของกัญชา
อ่านบทความเต็ม: www.rama.mahidol.ac.th (ภาษาไทย)
กัญชงสามารถใช้ประกอบอาหารได้บ้าง ทำให้พลาดเจอ “บราวนี่กัญชา” ข่าวดังเลยค่ะซึ่งมาทราบกันภายหลังดั่งวัวหายล้อมคอกว่ามีส่วนประกอบ Tetrahydrocannabinol (THC) ซึ่งส่วนนี้อยู่ในดอกกัญชาเสียเป็นส่วนมากหากได้รับปริมาณเยอะก็จะทำให้เมา เห็นภาพหลอน คลื่นไส้ อาเจียน เกร็ง ทรมาน แล้วในระยะยาวจะรบกวนการตัดสินใจและความจำทำให้ความจำเสื่อม
ส่วนในใบกัญชาก็มีแต่มีใบปริมาณที่น้อยกว่า ในขณะเดียวกันก็มีสาร Cannabidiol (CBD) ซึ่งอยู่ในใบกัญชา ต้านอาการ เมาเคลิ้มและอาการทางจิตของ THC อ้างอิงข้อมูลจาก คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล ความรุนแรงของภาพหลอนและความทรมานของ THC ซึ่งส่วนที่ 2 นี่แหละใช้ในการแพทย์ โดยตัวแปรอยู่ที่ส่วนประกอบและอุณหภูมิ
กัญชาสามารถจัดประเภทเป็นสารเสพติดประเภทที่ 1 ได้เสียด้วยซ้ำหากนำไปใช้ในทางที่ผิด ซึ่งช่องโหว่ไม่หมดแค่นี้เมื่อค่อย ๆ กระทบการเดินทางระหว่างประเทศ และเป็นเหตุทำให้ทางสถานทูตไทยในญี่ปุ่นต้องมีประกาศออกมาเตือนเรื่องห้ามนำกัญชาเข้ามาในประเทศญี่ปุ่นอยู่บ่อยครั้ง
ผลกระทบกัญชา กัญชงต่างแดนที่คล้ายคลึงกับในไทย
ในประเทศญี่ปุ่นประสบปัญหากับกัญชามาตั้งแต่ช่วงเรวะ 1 (Reiwa 1) หรือ ประมาณกลางปี 2562 ที่มีอัตราผู้ติดกัญชาเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ แล้วนับวันยิ่งเป็นเยาวชนและชาวญี่ปุ่นอายุ 20-29 ปี เขาเกิดปัญหาแบบเดียวกับเราแถมมาก่อนกาลด้วยค่ะ โดยเจอกัญชาเป็นผงแบบผงชา กัญชาอัดเม็ด กัญชาเหลวเพื่อใส่ในอุปกรณ์สูบไฟฟ้า กัญชาคุ้กกี้ ลูกอมกัญชา และสารพัดกัญชาที่จะลักลอบ เพราะบางอย่างนั้นตรวจยากเพราะได้ถูกแปรรูปไปเป็นอาหารเสียแล้ว
คุ้น ๆ ไหมคะ ทั้ง ๆ ที่ กฎหมายการลักลอบปลูกกัญชาเขาก็แรง แถมสภาพภูมิอากาศของเขาก็ไม่เอื้ออำนวยต่อการปลูกพืชเลย แม้กัญชาจะปลูกง่ายแต่ไม่โตที่นี่ง่ายแน่ค่ะ
ซึ่งจากสถิติอ้างอิงรายงาน ประจำปีแรกของเรวะเกี่ยวกับการก่ออาชญากรรม(令和元年における組織犯罪の情勢)ซึ่งเป็นข้อมูลแบบ Open data สู่สาธารณะ จากหน่วยงาน National Police Agancy (Japan) ของญี่ปุ่น ที่ค้นได้ในหน้า Government of Japan พบว่า ในเรวะ 1 หรือ กลาง ปี 2562 นั้น ล้วนจับยาเสพติด (ไม่ระบุชนิด) ได้เป็นเคสจากประเทศไทยถึง 56 รายคิดเป็น 20.5% ส่วนใหญ่จะตรวจค้นได้จากสนามบินหรือทางอากาศค่ะ แล้วมักเป็นข้อหาเชิงพาณิชย์ ประเด็นที่น่าสนใจอยู่ที่ มีผู้ขนกัญชาเพิ่มมากขึ้นจากปีก่อน
จึงไม่แปลกใจเลยหากเขาจะตั้งป้อมตรวจค้นประเทศไทยเป็นประเทศแรกเพราะจากสถิติเราก่อเหตุมากกว่าประเทศอื่นค่ะ ในเอกสารบอกรายละเอียดมากกว่านี้แต่ดิฉันกล่าวถึงเพียงแค่นี้ว่าสถานการณ์เป็นเช่นนี้ เพราะนี่แค่สถิติในปี 2562 เอง ปัจจุบันปี 2565 แล้วนะคะ แล้วปัจจุบันเองกัญชาก็ยังไม่ถูกถอดจากสำนักงานควบคุมยาเสพติดและอาชญากรรมแห่งสหประชาชาติ (UNOCD) แถมรายงานเสียด้วยซ้ำว่าส่งผลเสียต่อสุขภาพในปีนี้
ปัจจุบันนี้ในต่างแดนนอกเหนือจากประเทศญี่ปุ่นเริ่มมีการเตือนพลเมือง นอกจากจะห้ามลักลอบนำเข้ามาแล้วในเรื่องของฝากที่ซื้อมาจากไทยอย่างของกินก็ได้รับผลกระทบเช่นกันค่ะ เพราะเขากลัวว่าจะปนเปื้อนหรือแอบผสมกัญชากัญชงลงมาโดยไม่ได้บอกกล่าว น่าเห็นใจผู้ประกอบการค้าขายของฝากที่ได้รับผลกระทบนะคะ
อ่านบทความเต็ม: www.npa.go.jp (ภาษาญี่ปุ่น)
แจ้งเหตุผู้ลักลอบแอบปลูกกัญชา กัญชงที่ญี่ปุ่น! กู้หน้าคนไทยกันเถอะ
อ้างอิงจากแผ่นพับประชาสัมพันธ์ของ National Police Agency(警察庁) หากคุณพบว่า
- มีกลิ่นหอมอโรม่าเขียวคล้ายกัญชา กัญชงลอยออกมาจากห้องพักหรือคอนโดมิเนียมที่ดูเหมือนจะเปิดเครื่องปรับอากาศตลอดเวลา
- มีการนำขยะออกมาทิ้งซึ่งเป็นขยะปุ๋ยดิน แต่ไร้วี่แววการปลูกกระถางต้นไม้ภายนอกระเบียงหน้าต่าง
- ห้องติดด้วยม่านทึบแสงตลอดเวลา แถมแอบเห็นมีการจุดไฟติดในห้อง(ข้อนี้ค่อนข้างผิดนิสัยคนญี่ปุ่นสักหน่อยค่ะ เขารักความเป็นส่วนตัวแต่ก็รักแสงแดดค่ะ ไม่งั้นห้องอับ)
โปรดแจ้งสายตรวจตำรวจ I’m CLEAN โทร #9110
อ่านบทความเต็ม: www.npa.go.jp (ภาษาญี่ปุ่น)
บทส่งท้าย
สุดท้ายนี้ขอเตือนชาวไทยที่เดินทางข้ามประเทศมาประเทศญี่ปุ่นนะคะ⚠️
ขณะเดินทางระหว่างประเทศระวังสัมภาระของคุณไม่ให้ผู้ใดมาใกล้ รวมไปถึง ระวังคนไทยด้วยกันเองชวนคุยด้วย เพราะเราไม่รู้ว่านั่นคือหนึ่งในกระบวนการที่จะลากคุณไปยุ่งเกี่ยวเพื่อหาพยานบุคคลเพื่อล้างความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางยาเสพติดหรือไม่
แล้วก็สุดท้ายอย่าใจดีเกินไปที่จะรับฝากของหรือรับช่วยเหลือบุคคลแปลกหน้าภาษาเดียวกัน จุดนี้คนญี่ปุ่นทำเป็นเอกสารเตือนเลยนะคะ แต่ดันทำเป็นภาษาญี่ปุ่น ยังไงคนไทยที่ขึ้นชื่อว่าใจดีอย่างเรา ต้องระมัดระวังเรื่องนี้เป็นพิเศษด้วยนะ
ผู้เขียน: Moonlight Yoku
นักเขียนสกิลเป็ดเอกบริหารธุรกิจญี่ปุ่น ที่ตอนเด็กมีความฝันอยากไปเที่ยวญี่ปุ่นจนกระทั่งปัจจุบันเรียนเอกนี้เต็มตัว ชอบอาหารญี่ปุ่นมากๆ ฉะนั้นจะสนใจที่กินที่เที่ยวเป็นพิเศษ Hokkaido Lover❤️