รวม 5 ดอกไม้สวยแปลกที่หาชมได้เฉพาะในญี่ปุ่น!
1. โออินุโนะฟุกุริ (Persian speedwell)
Persian Speedwell เป็นดอกไม้ที่ออกดอกในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ไปจนถึงพฤษภาคม มีชื่อเรียกในภาษาญี่ปุ่นหลายชื่อ อาทิ โออินุโนะฟุกุริ (Oinunofuguri) รุริคาระคุสะ (Ruri Karakusa) และชื่อโฮชิโนะฮิโตมิ (Hoshi no Hitomi) ที่มีความหมายว่า ดวงตาของดวงดาว
เนื่องจากดอกไม้ชนิดนี้มีกลีบดอกลักษณะคล้ายดวงดาวและเกสรตรงกลางที่เปรียบเหมือนดวงตา สีฟ้าโคบอลต์ของโออินุโนะฟุกุริและความเป็นพืชที่มีลำต้นไม่สูงมากนัก เหมือนทุ่งดอกไม้คลุมดินตามธรรมชาติ ทำให้ทุ่งดอกโออินุโนะฟุกุริ ดูสวยงามแปลกตา สามารถพบเจอดอกไม้ชนิดนี้ได้ตามสวนสาธารณะหรือแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติหลายแห่งทั่วประเทศ
จุดชมดอกไม้ที่แนะนำ : สวนซุยเซ็นจิเอซุโกะ (Suizenji Ezuko Park) จังหวัดคุมาโมโตะ (Kumamoto) เป็นสวนสาธารณะสำหรับพักผ่อนหย่อนใจที่มีทุ่งดอกไม้ตามฤดูกาล และมีจุดชมดอกโออินุโนะฟุกุริที่เริ่มบานสะพรั่งตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ด้วย
การเดินทาง : จากสถานีรถไฟคุมาโมโตะ (Kumamoto Station) สามารถโดยสารรถบัสประจำทางหรือรถรางไปลงที่สวนซุยเซนจิเอซุโกะได้หลายสาย เช่น Kumamoto-toshibus สาย Kamikumamoto
2. เซ็ทสึบุนโซ (Eranthis pinnatifida)
เซ็ทสึบุนโซ (Setsubunsou) หรือชื่อภาษาอังกฤษว่า Eranthis pinnatifida, Japanese Aoi เป็นดอกไม้เฉพาะถิ่นของญี่ปุ่นที่จะออกดอกช่วงเดือนกุมภาพันธ์-มีนาคม หลังหิมะละลายก่อนเข้าฤดูใบไม้ผลิ เป็นดอกไม้กลีบดอกสีขาว 5-6 แฉก คล้ายกระดาษญี่ปุ่น เกสรตรงกลางประกอบด้วยสีเหลืองและสีม่วง มักจะขึ้นเองตามธรรมชาติ มีลำต้นไม่สูงมาก เหมือนพืชปกคลุมดิน
เมื่อออกดอกพร้อมกันจำนวนมากจึงเป็นภาพทิวทัศน์ที่สวยงาม สามารถพบเห็นได้มากเป็นพิเศษที่ภูมิภาคคันโต (Kanto) โดยเฉพาะตามสวนพฤกษศาสตร์ อุทยานธรรมชาติ สวนสาธารณะ เช่น ในจังหวัดไซตามะ (Saitama) โทชิงิ (Tochigi) โตเกียว (Tokyo) เป็นต้น
จุดชมดอกไม้ที่แนะนำ : สวนพฤกษศาสตร์จินได (Jindai Botanical Gardens) ในกรุงโตเกียว (Tokyo) เป็นสวนที่มีการปลูกพืชและดอกไม้ประจำฤดูกาลไว้จำนวนมากรวมทั้งเซ็ทสึบุนโซด้วย สามารถไปเที่ยวชมได้ช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์จนถึงปลายเดือนมีนาคม
การเดินทาง : จากสถานีรถไฟสึสึจิกะโอะ (Tsutsujigaoka Station) บนสายเคโอ (Keio Railway) ขึ้นรถบัสหมายเลข 21 ไปลงที่ป้าย Jindai Shokubutsu Koen และเดินอีกประมาณ 2 นาที
3. ฟุคุจูโซ (Adonis Ramosa)
ฟุคุจูโซ (Fukujuso) หรือชื่อภาษาอังกฤษว่า Adonis Ramosa เป็นดอกไม้สีเหลืองสดใสคล้ายรูปชามขนาดเล็ก มีถิ่นกำเนิดจากเกาะฮอกไกโด (Hokkaido) ในประเทศญี่ปุ่น ปัจจุบันสามารถพบเห็นได้ทั่วไปรวมทั้งยังเป็นที่นิยมในการปลูกตกแต่งประดับสวนตามบ้านด้วย
ฟุคุจูโซ มีสายพันธุ์ย่อยๆ หลายชนิดแต่จะมีลักษณะร่วมกันคือดอกสีเหลือง จะเริ่มผลิบานตั้งแต่เดือนมกรคม-เมษายนและบานเต็มที่ในเดือนมีนาคม ความหมายของดอกฟุคุจูโซตามความเชื่อของชาวญี่ปุ่นหมายถึงความสุขและการมีอายุยืนยาว อีกทั้งยังเป็นดอกไม้มงคลในการตกแต่งบ้านรับปีใหม่ด้วย
จุดชมดอกไม้ที่แนะนำ : อุทยานธรรมชาติป่าเขามุซาชิ (National Musashi Hill Forest Park) จังหวัดไซตามะ (Saitama) เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติขนาดใหญ่ที่มีดอกไม้และพืชพรรณตามฤดูกาลให้ชมตลอดปี รวมทั้งจุดชมดอกฟุคุจูโซ ที่มีความพิเศษอย่างหนึ่งคือจะได้พบกับดอกบ๊วยที่มีช่วงเวลาบานพร้อมกันในพื้นที่เดียวกันด้วย
การเดินทาง : จากสถานีชินรินโคเอน (Shinrinkoen Station) บนสาย Tobu-Tojo Line ขึ้นรถประจำทางสาย Kokusai Juo Kotsu ไปที่ลงป้าย Yurikawa Junior High School bus stop และเดินเข้าประตูทางออกทิศใต้ของอุทยานซึ่งอยู่ใกล้จุดชมดอก Fukujuso โดยใช้เวลาเดินประมาณ 5-10 นาที
4. โครคัส (Crocus)
โครคัส (Crocus) ชื่อภาษาญี่ปุ่นก็เรียกทับศัพท์ว่าโครคัส (クロッカス) เช่นกัน เป็นดอกไม้ตามฤดูกาลในตระกูลเดียวกันกับดอกไอริส (Iridaceae) มีถิ่นกำเนิดมาจากยุโรปและการแพร่กระจายไปตามภูมิภาคต่างๆ รวมทั้งญี่ปุ่นด้วย ช่วงเวลาออกดอกคือตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์-เมษายน
ลักษณะของดอกคล้ายกระเปาะขนาดเล็ก กลีบดอกกลมมนประมาณ 6 กลีบ มีหลายสีสัน ส่วนใหญ่ที่พบในญี่ปุ่นคือ สีม่วง สีเหลือง สีขาว เมื่อบานพร้อมกันจึงดูเต็มไปด้วยสีสันสดใส แต่ละสีของดอกโครคัสมีความหมายในตัวเอง เช่น สีเหลือง หมายถึง ความปรารถนา
จุดชมดอกไม้ที่แนะนำ : สวนโชวะคิเน็น (Showakinen Park) กรุงโตเกียว (Tokyo) เป็นสวนสาธารณะขนาดใหญ่ของโตเกียวที่มีต้นไม้ดอกไม้ตามฤดูกาลให้ชมตลอดทั้งปี รวมทั้งทุ่งดอกโครคัสหลากสีสันในช่วงปลายฤดูหนาว-ต้นฤดูใบไม้ผลิที่บริเวณสะพานฟุเรอิ (Fureai Bridge) ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของสวน
การเดินทาง : เดินประมาณ 15 นาที จากสถานีทาชิคาวะ (Tachikawa Station) บนสาย Chuo Line
5. ยูกิยานางิ (Spiraea thunbergia)
ยูกิยานางิ (Yukiyanagi) หรือชื่อภาษาอังกฤษว่า Spiraea thunbergia เป็นดอกไม้สีขาวขนาดเล็กที่มีลักษณะเป็นช่อรวมกันอยู่บนกิ่งก้านประกอบด้วยกลีบดอกสีขาว 5-6 กลีบและเกสรตรงกลางสีเหลืองเป็นดอกไม้ที่ให้ความรู้สึกเงียบสงบและสง่างาม มีถิ่นกำเนิดในประเทศจีนและภูมิภาคคันไซ (Kansai) ในญี่ปุ่น
ช่วงเวลาที่ออกดอกคือต้นฤดูใบไม้ผลิระหว่างเดือนมีนาคม-พฤศภาคม นอกจากสีขาวแล้วยังมีสายพันธุ์สีชมพูด้วย ซึ่งมีชื่อเรียกอีกชื่อว่า ฟูจิโนะ พิงค์กี้ (Fujino Pinky) เป็นดอกไม้ที่เติบโตได้เองตามธรรมชาติจึงสามารถพบเห็นได้ทั่วไป รวมทั้งตามแหล่งท่องเที่ยวที่มีการปลูกดอกยูกิยานางิเป็นดอกไม้ประดับเพื่อความสวยงาม
จุดชมดอกไม้ที่แนะนำ : สวนโชเซเอ็นคิโคคุเทอิ (Shosei-en Garden Kikoku-tei) จังหวัดเกียวโต (Kyoto) เป็นสวนสาธารณะเก่าแก่ตั้งแต่สมัยเอโดะที่อยู่ไม่ไกลจากสถานีเกียวโต มีดอกไม้ตามฤดูกาลให้ชมตลอดทั้งปีท่ามกลางบรรยากาศร่มรื่นของสวนญี่ปุ่นรวมทั้งดอกยูกิยานางิที่จะบานเต็มที่ช่วงเดือนมีนาคมด้วย
การเดินทาง : เดินประมาณ 10 นาที (Central Exit) จากสถานีเกียวโต (Kyoto Station)
เป็นอย่างไรบ้างคะกับดอกไม้สายพันธุ์แปลกๆ ที่หาชมได้ยากในประเทศญี่ปุ่น คาดว่าหลายๆ คนน่าจะไม่เคยเห็นกันมาก่อนอย่างแน่เลย ช่วงนี้ประเทศญี่ปุ่นเองก็กำลังเริ่มเข้าสู่ฤดูใบไม้ผลิ ซึ่งเป็นฤดูที่ดอกไม้เริ่มผลิบาน หากใครมีโอกาสได้ไปเที่ยวล่ะก็อย่าลืมลองแวะชมดอกไม้ที่เราแนะนำไปข้างต้นกันนะคะ
ผู้เขียน: หนึ่ง
นักอ่านและนักเขียนที่ชอบการเดินทางไปในที่ต่างๆ โดยเฉพาะญี่ปุ่น รักการดูอนิเมะญี่ปุ่นเป็นชีวิตจิตใจ :)