เที่ยวชม 5 พิพิธภัณฑ์แปลกใหม่ทั่วญี่ปุ่น
1. พิพิธภัณฑ์ฟูจิโกะ เอฟ ฟูจิโอะ (Fujiko F. Fujio Museum)
พิพิธภัณฑ์ฟูจิโกะ เอฟ ฟูจิโอะ หรือที่หลายคนเรียกว่าพิพิธภัณฑ์โดราเอม่อน เป็นพิพิธภัณฑ์ซึ่งตั้งอยู่ในเมืองคาวาซากิ จังหวัดคานางาวะ เมืองที่ฟูจิโกะ เอฟ ฟูจิโอะ ได้ใช้เวลาเขียนการ์ตูนส่วนใหญ่รวมถึงเรื่องโอราเอม่อนอันโด่งดังที่นี่ ตัวพิพิธภัณฑ์เปิดทำการในวันที่ 3 กันยายน ค.ศ. 2011 ซึ่งเป็นวันเกิดของโดราเอม่อน
และปีนี้ก็ถือเป็นโอกาสครบรอบ 10 ปีของพิพิธภัณฑ์แห่งนี้พอดี โดยนักท่องเที่ยวที่เป็นแฟนคลับของเจ้าเหมียวสีฟ้าที่มาจากโลกอนาคต หากได้มาเยือนพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ก็จะได้พบกับการจัดแสดงต้นฉบับเรื่องโดราเอม่อน โต๊ะทำงานจำลองของฟูจิโกะ เอฟ ฟูจิโอะ ได้ชมโดราเอม่อนตอนพิเศษที่มีฉายเฉพาะที่นี่เท่านั้น นอกจากนี้ยังมีมุมถ่ายรูปที่จำลองบรรยากาศมาจากในการ์ตูน รวมถึงมีคาเฟ่และร้านจำหน่ายของที่ระลึกหลากหลายรูปแบบที่ควรค่าแก่การซื้อไปสะสมและเป็นของฝากได้เป็นอย่างดี
ค่าเข้าชม: 1,000 เยน
เวลาเปิดปิด: 10.00 – 18.00 น.
การเดินทาง: สถานี Noborito แล้วขึ้นรถบัสฟรีของพิพิธภัณฑ์
2. พิพิธภัณฑ์กลางแจ้งฮาโกเน่ (Hakone Open Air Museum)
ถ้าพูดถึงพิพิธภัณฑ์ศิลปะ หลายคนอาจนึกถึงพิพิธภัณฑ์ในอาคารที่มีบรรยากาศเงียบสงบ จนทำให้บางครั้งขาดความมีชีวิตชีวาและความสนุกในการเที่ยวชมไป แต่สำหรับพิพิธภัณฑ์กลางแจ้งฮาโกเน่แห่งนี้ เป็นพิพิธภัณฑ์ศิลปะที่มีลักษณะเป็นสวนประติมากรรมกลางแจ้ง โดยมีงานประติมากรรมจำนวนมากตั้งอยู่บนเนินเขา และรายล้อมไปด้วยภูเขาและธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ของเมืองฮาโกเน่ จังหวัดคานางาวะ
ที่นี่ถือเป็นพิพิธภัณฑ์แห่งแรกในญี่ปุ่นที่สร้างเพื่อจัดแสดงประติมากรรมกลางแจ้งโดยเฉพาะ ซึ่งเปิดโอกาสให้ผู้เข้าชมได้เดินดูผลงานต่างๆ ได้อย่างสะดวกสบายและเป็นกันเอง และมีมุมถ่ายรูปสวยๆ กับผลงานประติมากรรมต่างๆ อยู่มากมาย นอกจากนี้ตัวพิพิธภัณฑ์ก็มีโซนจัดแสดงงานศิลปะในอาคารที่น่าสนใจอย่าง Picasso Pavillon ซึ่งจัดแสดงผลงานของศิลปินระดับโลกอย่างปิกัสโซ่ และมีอาคารที่เป็นไฮไลท์คือ Symphonic Sculpture ซึ่งเป็นหอคอยสูงที่ด้านในประดับด้วยกระเบื้องหลากสีสันอย่างสวยงาม และเป็นจุดชมวิวมุมสูงที่น่าประทับใจ
ค่าเข้าชม: 1,600 เยน
เวลาเปิดปิด: 09.00 – 17.00 น.
การเดินทาง: สถานี Chokoku No Mori
3. พิพิธภัณฑ์ศิลปะทราย (The Sand Museum)
เมื่อพูดถึงจังหวัดทตโตริ สถานที่ท่องเที่ยวอันดับแรกๆ ที่หลายคนนึกถึงคงเป็นเนินทรายทตโตริอันโด่งดัง แต่นอกจากเนินทรายแห่งนี้แล้ว ก็ยังมีสถานที่อีกแห่งหนึ่งซึ่งมีความเกี่ยวข้องกับทราย และมีความน่าสนใจไม่แพ้กัน และยังตั้งอยู่ในบริเวณใกล้เคียงกันอีกด้วย นั่นก็คือพิพิธภัณฑ์ศิลปะทราย ซึ่งด้านในจะมีการจัดแสดงผลงานแกะสลักทรายที่มีความสวยงามและประณีต ซึ่งเป็นฝีมือของช่างแกะสลักทรายที่มีความชำนาญจากทั่วโลก
และที่สำคัญคืองานแกะสลักทรายเหล่านี้จะเปลี่ยนไปทุกๆ ปี โดยจะเริ่มตั้งแต่กลางเดือนเมษายนไปจนถึงต้นเดือนมกราคมของปีถัดไป โดยนอกจากความสวยงามแล้ว ผลงานเหล่านี้ยังสะท้อนถึงคุณค่าของความไม่จีรังยั่งยืนจากผืนทรายที่ไม่อาจอยู่คงทนได้ตลอดไป จนกลายเป็นความงดงามที่ซ่อนอยู่ภายใต้ความเปราะบาง และทำให้มีผู้คนจำนวนมากเดินทางมาเยือนพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ตลอดทั้งปี
ค่าเข้าชม: 600 เยน
เวลาเปิดปิด: 09.00 – 18.00 น.
การเดินทาง: สถานี Tottori แล้วต่อรถบัสมาลงป้าย Sakyu Kita-guchi
4. พิพิธภัณฑ์แมว (The Cat Museum)
สำหรับเหล่าทาสแมว หรือนักท่องเที่ยวที่มีแผนเดินทางไปยังสถานที่เกี่ยวกับแมวในประเทศญี่ปุ่น ไม่ว่าจะเป็นคาเฟ่แมว หรือเกาะแมว อีกหนึ่งสถานที่ที่ไม่ควรพลาดเลยก็คือพิพิธภัณฑ์แมวในจังหวัดชิซุโอกะ
แต่ต้องบอกก่อนว่าพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ไม่ได้ขายความน่ารักสดใสของบรรดาแมวเพียงอย่างเดียวเท่านั้น เพราะนิทรรศการและเนื้อหาที่จัดแสดงนั้นบอกเล่าเรื่องราวในเชิงประวัติศาสตร์และวิทยาศตร์เกี่ยวกับแมวอย่างค่อนข้างครบถ้วน ตั้งแต่วิวัฒนาการของแมวตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน รวมถึงยังมีการจัดแสดงผลงานศิลปะและของเล่นที่มีความเกี่ยวข้องกับแมวหลากหลายรูปแบบ และไฮไลท์สำคัญก็คือมีห้องสำหรับให้เล่นกับเหล่าแมวกว่า 50 ตัว จากกว่า 30 สายพันธุ์
ค่าเข้าชม: 1,300 เยน
เวลาเปิดปิด: 09.00 – 17.00 น.
การเดินทาง: สถานี Izu-Kogen ต่อรถบัสไปลงป้าย Omurokogen 7-chome
5. พิพิธภัณฑ์อุนโกะ (Unko Museum TOKYO)
พิพิธภัณฑ์ในการให้ความรู้ในประเทศญี่ปุ่นนั้นมีหลากหลายรูปแบบ และเจาะลึกไปยังเรื่องต่างๆ ที่เราอาจไม่เคยรู้มาก่อนได้อย่างน่าสนใจ หนึ่งในพิพิธภัณฑ์ที่หลายคนอาจคิดไม่ถึงมาก่อนว่ามีอยู่ที่ญี่ปุ่นด้วยก็คือพิพิธภัณฑ์อุนโกะ หรือหากเรียกให้เข้าใจง่ายๆ ก็คือพิพิธภัณฑ์อุนจิ หรืออึนั่นเอง
แต่ไม่ต้องกลัวว่าพิพิธภัณฑ์แห่งนี้จะมีแต่อะไรที่น่าขยะแขยง เพราะจุดประสงค์หลักของพิพิธภัณฑ์ก็คือให้ความรู้เรื่องการขับถ่าย และทำให้อึเป็นเรื่องที่สามารถพูดคุยกันได้มากขึ้น โดยด้านในพิพิธภัณฑ์นั้นเต็มไปด้วยอึที่ถูกออกแบบมาอย่างน่ารักสดใส พร้อมกับมุมถ่ายรูปมากมาย และยังมีการนำเสนอเรื่องราวเกี่ยวกับอึจากทุกมุมโลก และพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ยังสามารถเดินทางไปเยือนได้อย่างสะดวกสบาย เพราะตั้งอยู่ที่ห้างไดเวอร์ซิตี้ (DiverCity) โอไดบะ ใจกลางกรุงโตเกียวเลย
ค่าเข้าชม: 1,600 เยน
เวลาเปิดปิด: 10.00 – 21.00 น.
การเดินทาง: สถานี Tokyo Teleport
ผู้เขียน: ชินพงศ์ มุ่งศิริ
เริ่มต้นทำงานเป็นช่างภาพอิสระหลังเรียนจบ เดินทางไปถ่ายภาพที่ประเทศญี่ปุ่นบ่อยครั้งจนครบทั้ง 4 ฤดูอันสวยงาม และเกือบครบทุกภูมิภาค มีผลงานภาพถ่ายตีพิมพ์ในไกด์บุ๊คระดับโลกอย่าง Lonely Planet ถึง 3 เล่ม คือ Discovery Japan, Japan และ Kyoto รวมถึงเว็บไซต์ท่องเที่ยวชั้นนำอย่าง National Geographic Traveler UK, BBC Travel, Travel+Leisure, TIME และอีกมาก
นอกจากการถ่ายทอดความสวยงามของประเทศญี่ปุ่นผ่านภาพถ่าย ปัจจุบันยังหันมาถ่ายทอดเรื่องราวผ่านทางตัวอักษรทั้งในฐานะนักเขียนและนักแปลควบคู่กันไปอีกด้วย