5 กิจกรรมแปลกใหม่ที่น่าลองในญี่ปุ่น
สำหรับใครที่กำลังมองหากิจกรรมใหม่ๆ ระหว่างการท่องเที่ยวญี่ปุ่น วันนี้เราได้คัดเลือก 5 กิจกรรมจากหลากหลายสถานที่ทั่วประเทศญี่ปุ่นมาฝากกัน ไม่ว่าจะเป็นการขึ้นเครื่องร่อนชมภูเขาไฟฟูจิ ล่องเรือชมสัตว์ป่านนาชนิดที่อุทยานแห่งชาติชิเรโทโกะ สำรวจถ้ำขนาดยักษ์ที่เกาะโอกิโนเอราบุ แคนยอนนิ่ง (Canyoning) ที่ฮาคุบะ และก้าวไปบนแดนหิมะที่คาบสมุทรโนสึเคะ
1. ขึ้นเครื่องร่อนชมภูเขาไฟฟูจิ
บริเวณทะเลสาบทั้ง 5 รอบภูเขาไฟฟูจิ (Fuji 5 Lakes) ในจังหวัดยามานาชิ นอกจากจะมีกิจกรรมหลากหลายรูปแบบในการชมภูเขาไฟฟูจิไม่ว่าจะเป็นการปั่นจักรยาน ขึ้นรถบัสไปยังจุดชมวิวต่างๆ หรือเช่ารถขับแล้ว อีกหนึ่งกิจกรรมที่มีทั้งความตื่นเต้นและความแปลกใหม่ พร้อมกับยังได้มองเห็นทิวทัศน์ของภูเขาไฟฟูจิอย่างเต็มตาก็คือการขึ้นเครื่องร่อนชมภูเขาไฟฟูจิ ซึ่งให้บริการโดย Oshino Sky Sports Club ชมรมเครื่องร่อนที่ทั้งเปิดสอนการเล่นเครื่องร่อนแบบมืออาชีพ และให้บริการเครื่องร่อนสำหรับนักท่องเที่ยวพร้อมครูฝึกสอนอย่างใกล้ชิด
โดยจุดให้บริการจะอยู่บริเวณทะเลสาบยามานากะ (Lake Yamanaka) ไม่ไกลจากที่เที่ยวชื่อดังอย่างหมู่บ้านน้ำใส โฮชิโนะ ฮักไก (Oshino Hakkai Village) และเปิดให้บริการตลอดทั้งปี โดยสำหรับใครที่กลัวความสูง หรือโชคร้ายเดินทางมาในวันที่สภาพอากาศไม่ดีจนมองไม่เห็นภูเขาไฟฟูจิ หรือไม่สามารถนำเครื่องร่อนขึ้นบินได้ ทางสมาคมก็ยังมีบริการแว่นตา VR ที่จำลองบรรยากาศจากการได้ร่อนเครื่องร่อนจริงๆ เอาไว้ให้บริการด้วยเช่นกัน
การเดินทาง : โดยสารรถบัสรอบทะเลสาบฟูจิมาลงที่ป้าย “Uchino”
2. ชมหมีสีน้ำตาล และสัตว์ป่านานาชนิดที่อุทยานแห่งชาติชิเรโทโกะ
อุทยานแห่งชาติชิเรโทโกะ (Shiretoko National Park) ในจังหวัดฮอกไกโดเป็นพื้นที่ทางธรรมชาติขนาดใหญ่ที่ได้รับการยกย่องเรื่องความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติ ความสวยงามของภูมิประเทศแบบชายฝั่งทะเล และมีพืชพรรณและสัตว์ป่าหลากหลายชนิด
โดยนอกจากการออกแรงเดินป่าสำรวจธรรมชาติ หรือเช่ารถขับไปตามจุดท่องเที่ยวต่างๆ ภายในอุทยานแห่งนี้ ก็ยังมีบริการเรือนำเที่ยวที่จะใช้เวลาล่องเรือประมาณ 2 ชั่วโมงไปตามผืนน้ำรอบๆ อุทยาน และมีโอกาสที่จะได้พบกับสัตว์ป่าที่เป็นไฮไลท์อย่างหมีสีน้ำตาล รวมถึงสัตว์ชนิดอื่นๆ เช่น กวาง เหยี่ยว ไปจนถึงสัตว์น้ำอย่างวาฬเพชฌฆาต และวาฬหลังค่อมขนาดใหญ่ โดยทัวร์ล่องเรือนี้จะมีให้บริการระหว่างเดือนเมษายนถึงเดือนตุลาคม วันละสองเที่ยว และมีจุดขึ้นเรืออยู่ที่เมืองยูโทโร่ฮิกาชิ (Utorohigashi)
การเดินทาง : วิธีที่ดีที่สุดคือการเช่ารถขับ
3. สำรวจถ้ำขนาดยักษ์ที่เกาะโอกิโนเอราบุ
เกาะโอกิโนเอราบุ (Okinoerabu Island) เป็นเกาะที่อยู่ทางตอนเหนือของโอกินาว่า ซึ่งมีชื่อเสียงในฐานะเกาะที่มีทะเลและชายหาดที่สวย รวมถึงมีแนวปะการังที่อุดมสมบูรณ์เหมาะแก่การดำน้ำท่องเที่ยว และเกาะแห่งนี้ยังเป็นที่ตั้งของถ้ำหินปูนซึ่งเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ และมีรวมกันมากกว่า 300 แห่ง
โดยหนึ่งในถ้ำหลักที่เปิดให้นักท่องเที่ยวทั่วไปเข้าชมคือถ้ำที่มีความยาว 1.2 กิโลเมตร ซึ่งพื้นที่ด้านในเต็มไปด้วยหินงอกหินย้อยสุดอลังการ มีบ่อน้ำสีฟ้าใสเรียงรายอยู่จำนวนมากจนเป็นบรรยากาศที่มหัศจรรย์และแปลกตา รวมถึงยังมีการประดับไฟภายในถ้ำอย่างสวยงาม โดยการเข้าไปเยือนถ้ำแห่งนี้จะมีไกด์นำทางเข้าไปด้วยทุกครั้งเพื่อช่วยแนะนำข้อมูลและดูแลปลอดภัยของนักท่องเที่ยวระหว่างการเที่ยวชม
การเดินทาง : ขึ้นเรือเฟอรี่จากโอกินาว่ามาที่เกาะโอกิโนเอราบุ จากนั้นขึ้นรถบัสบนเกาะไปลงที่ป้าย “Tokudoki”
4. ตื่นเต้นกับการแคนยอนนิ่ง (Canyoning) ที่ฮาคุบะ
ฮาคุบะ (Hakuba) เป็นหนึ่งในเมืองของจังหวัดนากาโน่ที่ขึ้นชื่อในเรื่องของธรรมชาติที่สวยงามและอุดมสมบูรณ์ในทุกฤดูกาล สำหรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเยือนในช่วงฤดูร้อน นอกจากจะมีกิจกรรมกลางแจ้งหลากหลายรูปแบบอย่างการเดินป่า ปีนเขา และตั้งแคมป์แล้ว ก็ยังมีกิจกรรมที่สนุกตื่นเต้นอย่างแคนยอนนิ่ง (Canyoning) ซึ่งเป็นชื่อเรียกกิจกรรมการผจญภัยในป่าที่มีทั้งการเดินป่า การโรยตัวจากที่สูงด้วยเชือก
และที่เป็นไฮไลท์สำคัญก็คือการกระโดดจากหน้าผาหรือน้ำตก โดยระดับความยากง่ายจะขึ้นอยู่กับสภาพภูมิประเทศ และแม้จะฟังดูน่าอันตราย แต่ก็เป็นกิจกรรมที่มีการใช้อุปกรณ์ป้องกันอย่างเต็มรูปแบบ พร้อมทั้งมีผู้ดูแล และการกระโดดจากหน้าผาก็เป็นการกระโดดลงมายังผืนน้ำเบื้องล่าง ซึ่งถือเป็นการได้ทำกิจกรรมสนุกในอีกรสชาติหนึ่งท่ามกลางธรรมชาติที่
การเดินทาง : สถานีรถไฟ Hakuba
5. ก้าวไปบนแดนหิมะกว้างสุดลูกหูลูกตาที่คาบสมุทรโนสึเคะ
คาบสมุทรโนสึเคะ (Notsuke Peninsula) เป็นคาบสมุทรความยาว 26 กม.ในฮอกไกโด มีลักษณะเป็นสันดอนทรายที่ยื่นออกไปสู่บริเวณน้ำลึกของช่องแคบเนมุโระ ซึ่งในช่วงฤดูหนาว หรือระหว่างเดือนมกราคมจนถึงกลางเดือนมีนาคม พื้นที่อ่าวที่เคยเป็นท้องทะเลจะแข็งเป็นน้ำแข็งทั้งหมด ทำให้เกิดเป็นสภาพภูมิประเทศที่เป็นพื้นน้ำแข็งสีขาวโพลนสุดลูกหูลูกตา จนกลายเป็นหนึ่งในจุดท่องเที่ยวที่มีความสวยงามแปลกตาในช่วงฤดูหนาว
โดยนักท่องเที่ยวสามารถเดินไปบนพื้นน้ำแข็ง และถ่ายรูปสวยๆ ได้เหมือนกับอยู่ในดินแดนแห่งความฝัน ซึ่งจะมีความสวยงามเป็นพิเศษในช่วงพระอาทิตย์ขึ้นหรือพระอาทิตย์ตก นอกจากนี้ยังมีโอกาสได้เจอกับกวางป่าที่ออกมาเดินหากินตามธรรมชาติบนพื้นหิมะอีกด้วย
การเดินทาง : วิธีที่ดีที่สุดคือการเช่ารถขับ
ผู้เขียน: ชินพงศ์ มุ่งศิริ
เริ่มต้นทำงานเป็นช่างภาพอิสระหลังเรียนจบ เดินทางไปถ่ายภาพที่ประเทศญี่ปุ่นบ่อยครั้งจนครบทั้ง 4 ฤดูอันสวยงาม และเกือบครบทุกภูมิภาค มีผลงานภาพถ่ายตีพิมพ์ในไกด์บุ๊คระดับโลกอย่าง Lonely Planet ถึง 3 เล่ม คือ Discovery Japan, Japan และ Kyoto รวมถึงเว็บไซต์ท่องเที่ยวชั้นนำอย่าง National Geographic Traveler UK, BBC Travel, Travel+Leisure, TIME และอีกมาก
นอกจากการถ่ายทอดความสวยงามของประเทศญี่ปุ่นผ่านภาพถ่าย ปัจจุบันยังหันมาถ่ายทอดเรื่องราวผ่านทางตัวอักษรทั้งในฐานะนักเขียนและนักแปลควบคู่กันไปอีกด้วย