All About Japan

แนะนำที่เที่ยวฮอกไกโดสุดเก๋ที่ไม่ควรพลาด

Hokkaido

ในครั้งนี้ทางเราขอแนะนำที่เที่ยวสุดเก๋บนเกาะฮอกไกโดที่ไม่ควรพลาดกันบ้าง ที่ให้กลิ่นไอบรรยากาศแตกต่างไปจากที่เที่ยวแห่งอื่นในญี่ปุ่น คาดว่าน่าจะถูกอกถูกใจสายแบกกล้องไปถ่ายรูปหรือสายเซลฟี่ภาพเก๋ๆไม่น้อยเลยแหละ อาจมีที่เที่ยวเน้นวิวธรรมชาติบ้างแต่รับรองว่าภาพที่ได้นั้นไม่เหมือนใครแน่ ถ้าคุณพร้อมสะพายกล้องเป็นเก็บภาพก็ตามไปเที่ยวกันเลยค่ะ

※หมายเหตุ บทความนี้เริ่มเผยแพร่ในช่วงวิกฤติโคโรน่าไวรัสสายพันธ์ุใหม่ (COVID-19) ในปี 2020 ไม่ว่าจะอ่านบทความนี้เมื่อไหร่ก็ตาม ผู้ที่ต้องการไปเที่ยวควรพิจารณาด้วยตัวเองหากสถานการณ์ยังไม่กลับสู่สถานะปกติ※

โกดังอิฐแดงคาเนโมริ (Kanemori Red Brick Warehouse) - Hakodate

โกดังอิฐแดงคาเนโมริ (Kanemori Red Brick Warehouse) - Hakodate

https://pixta.jp/

เปิดที่เที่ยวแห่งแรกก็คุ้นหน้าคุ้นตากันดีเลยสำหรับโกดังอิฐแดงคาเนโมริหนึ่งในที่เที่ยวดังของฮาโกะดาเตะ เป็นโกดังเก็บสินค้าหลังสีแดงรวม7หลังที่ถูกสร้างมายาวนานกว่าร้อยปีมาแล้วจากการเป็นเมืองท่าทางการค้าในอดีต ซึ่งในปัจจุบันได้กลายเป็นแหล่งรวมทั้งร้านค้า ร้านอาหาร โรงเบียร์ พิพิธภัณฑ์จัดแสดงสินค้าในอดีต เป็นต้น ถูกจัดแบ่งเป็นโซนเอาไว้อย่างชัดเจนแบบที่เรียกได้ว่าหากคุณเป็นสายช็อปสินค้าของฝากต่างๆไม่ควรพลาดเลยทีเดียว ที่นี่ไม่เสียค่าเข้าชมนะแต่สำหรับราคาสินค้านั้นอาจสูงเล็กน้อยในบางอย่างเนื่องจากเป็นที่เที่ยวดังด้วย

นอกเหนือจากที่เป็นแหล่งการค้าแล้วโกดังอิฐแดงคาเนโมริแห่งนี้ยังมีบรรยากาศโดยรอบนอกโซนนอกอาคารติดกับอ่าวฮาโกดาเตะที่สวยแปลกตาอีกด้วย ยิ่งมาเก็บภาพบรรยากาศในช่วงฤดูหนาวหิมะขาวปกคลุมตัดกับตัวโกดังสีอิฐแดงเรียงริมอ่าวก็ยิ่งได้ภาพบรรยากาศที่โรแมนติกขึ้นหลายเท่า หากใครสนใจหารายละเอียดสถานที่เพิ่มเติมสามารถคลิกตามลิ้งค์ข้างล่างนี้นะคะ

เวลาทำการ : ทุกวัน 9:30-19:00น.
**บางโซนอาจเปิดปิดแบ่งตามวันธรรมดาและเสาร์อาทิตย์ต่างกัน โปรดตรวจสอบเวลาทำการก่อนเดินทาง

วิธีการเดินทาง : จากสถานีรถไฟ Hakodate เดินทางมาขึ้นรถรางหมายเลข 5 จากสถานี Hakodate-Eki-Mae มาลงที่สถานีรถราง Suehirocho เดินเท้าอีก 4 นาทีถึงโกดังอิฐแดงคาเนโมริ

- hakodate-kanemori.com (ภาษาไทย)

บ่อน้ำสีฟ้า (Aoi Ike) - Biei

บ่อน้ำสีฟ้า (Aoi Ike) - Biei

https://pixta.jp/

สำหรับบ่อน้ำสีฟ้าใสแห่งนี้เป็นบ่อที่ผุดท้องถิ่นที่มีแร่ธาตุจากภูเขาไฟทำให้น้ำในบ่อกลายเป็นสีฟ้าเหมือนภาพวาดสีน้ำ แต่ว่าโทนสีของน้ำจะขึ้นอยู่กับช่วงที่ไปชมด้วยนะ ถ้าโชคดีก็จะเจอสีฟ้าใสอ่อนหรือสีฟ้าเทอร์ควอยซ์เข้มตามรูปภาพชวนท่องเที่ยว เป็นที่เที่ยวสวยทางธรรมชาติที่ให้บรรยากาศแปลกตามากๆแล้วต้องลองไปชมด้วยตนเอง (แต่ไม่สามารถลงไปในบ่อน้ำได้นะ)

เดิมทีบ่อน้ำสีฟ้าจะเป็นที่เที่ยวท้องถิ่นไม่ค่อยชาวต่างชาติหรือแม้แต่คนญี่ปุ่นเองรู้จักนัก แต่เมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมาความสวยของบ่อน้ำสีฟ้าแห่งนี้ถูกโปรโมทให้เป็นที่รู้จักมากขึ้นทำให้มีทัวร์มาแวะเยี่ยมชมกันมากขึ้นแล้วแน่นอนว่าเป็นอีกหนึ่งที่เที่ยวที่ชาวไทยหลายๆท่านเริ่มเดินทางเพื่อไปเยี่ยมชม

**เนื่องจากที่ตั้งอยู่ใจกลางป่าเขาทำให้ไม่มีร้านอาหารในบริเวณนี้หากกลัวหิวกลางทางแนะนำให้พกข้าวกล่องหรือขนมรองท้องเข้าไปรับประทานด้วยนะคะ

วิธีการเดินทาง : จากสถานี Biei มาขึ้นรถบัสที่ป้าย Asahikawa Bank มาลงที่ป้ายหน้า Shirogane blue pond
**เนื่องจากใน1วันจะมีรอบรถบัสเพียง5รอบเท่านั้น โปรดตรวจสอบรอบรถบัสก่อนเดินทาง**

หมู่บ้านน้ำแข็งชิคาริเบทซึ (Shikaribetsu Kotan) - Tokachi

หมู่บ้านน้ำแข็งชิคาริเบทซึ (Shikaribetsu Kotan) - Tokachi

https://pixta.jp/

สำหรับชาวไทยจากดินแดนที่อากาศร้อนเกือบทั้งปีอย่างเราต้องเคยดูสารคดีเมืองหนาวแล้วรู้สึกอยากลองสัมผัสอากาศและความเป็นอยู่ของชาวเอสกิโมกันที่ขั้วโลกเหนือกันบ้างแหละว่าเป็นอย่างไร แต่เราไม่ต้องไปไกลกันขนาดนั้นค่ะเพราะที่ญี่ปุ่นก็มีเหมือนกัน “หมู่บ้านน้ำแข็งชิคาริเบทซึ” ที่ตั้งอยู่ที่เขตทะเลสาบชิคาริเบทซึของตอนกลางเกาะฮอกไกโดถูกเนรมิตในช่วงฤดูหนาวประมาณเดือนมกราคม-มีนาคมของทุกปีเท่านั้น

โดยจะมีการเนรมิตทั้งหมู่บ้านน้ำแข็งแบบชาวเอสกิโม (Igloos Village) ซึ่งมีทั้งร้านอาหาร บาร์ เวทีแสดงคอนเสิร์ต และโบสถ์หิมะที่สวยงามน่าไปถ่ายรูปเป็นที่ระลึก แถมมีออนเซนกลางแจ้งให้คลายหนาวกันได้บ้างอีกด้วย (มีทั้งจุดแช่รวมทั้งชายหญิงและแบบแยกออนเซน) ฯลฯ ซึ่งมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมแตกต่างกันไปตามกิจกรรมที่เราเลือกทำค่ะ งานนี้ใครอยากวัดใจมาที่เที่ยวหนาวยะเยือกแบบติดลบหลายองศาขนาดนี้ก็ลองมาสัมผัสประสบการณ์ที่หาได้ยากแบบนี้สักครั้งนะคะ

**วันเวลาเทศกาลงานหมู่บ้านน้ำแข็งชิคาริเบทซึจะถูกประกาศอีกทีจากทางเว็บไซต์ของงานและทางฮอกไกโดในช่วงใกล้ฤดูหนาว โปรดตรวจสอบวันเวลาก่อนเดินทางมาท่องเที่ยวด้วยค่ะ

เวลาเปิดทำการ : ช่วงปลายเดือนมกราคม-ต้นเดือนมีนาคม

วิธีการเดินทาง : จากสถานี Obihiro นั่งรถบัสสายที่มาที่นี่โดยตรงมาลงยังหมู่บ้านน้ำแข็งโดยตรง ใช้เวลาประมาณ 1ชั่วโมง 40นาที ค่าโดยสารประมาณ 1,650 เยน/ท่าน

- kotan.jp (ภาษาญี่ปุ่น)

หมู่บ้านชาวไอนุ (Lake Akan - Ainu Kotan) - Kushiro

หมู่บ้านชาวไอนุ (Lake Akan - Ainu Kotan) - Kushiro

https://pixta.jp/

หมู่บ้านดั้งเดิมที่รวมกลุ่มชาวไอนุซึ่งเป็นชนพื้นเมืองของฮอกไกโดประเทศญี่ปุ่น มีลักษณะภายนอกของชนเผ่าที่ดูเผินๆอาจนึกถึงชาวอินเดียนแดง แต่อยู่ฝั่งเอเชียอยู่คู่กับญี่ปุ่นมานานแสนนาน ภายในหมู่บ้านเราจะพบความเป็นเอกลักษณ์ตั้งแต่สถานที่ที่ตกแต่งไปด้วยไม้แกะสลัก เครื่องหนัง และขนสัตว์โดยเฉพาะตรานกฮูกซึ่งมาจากการที่เขาบูชาเทพเจ้าและมีสัญลักษณ์ของเผ่าที่บูชาเป็นนกฮูกและหมีป่านั่นเอง ชาวไอนุเองที่แต่งกายด้วยชุดประจำชนเผ่าทั้งแบบปกติและแบบเต็มยศเพื่อแสดงการแสดงประจำเผ่าให้ผู้มาเยือนรับชม

ส่วนภายในหมู่บ้านประกอบไปด้วยบ้านเรือนไม้เรียงรายทั่วบริเวณสองข้างทาง พิพิธภัณฑ์จัดแสดงประวัติและจำลองความเป็นอยู่ในอดีตของชาวไอนุ มีจุดจัดแสดงโชว์ทางวัฒนธรรมของชาวไอนุ และมีจุดจำหน่ายอาหารอร่อยอย่างเนื้อย่างเจงกิสข่าน ซอฟครีม และของที่ระลึกสวยๆประจำหมู่บ้าน พร้อมกับวิวหมู่บ้านชาวไอนุอันเป็นเอกลักษณ์แปลกตากับวิวธรรมชาติเขตทะเลสาบอะคังซึ่งเรียกได้เต็มอิ่มไปกับทั้งวัฒนธรรมและบรรยากาศดีๆเลยค่ะ

ค่าเข้าชม : เด็กอายุต่ำกว่า 13 ปี 540เยน/ท่าน , ผู้ใหญ่ 1,080เยน/ท่าน

เวลาทำการ : ทุกวัน 10:00-22:00น.

วิธีการเดินทาง : จากสถานีรถไฟ JR Kushiro ให้นั่งรถบัสประจำทางสายที่มาลง Akanko Onsen/Lake Akan มาลงที่หมู่บ้านชาวไอนุ ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 45 นาที
**สามารถเช็ครอบรถทั้งไปและกลับเป็นภาษาอังกฤษได้จากเว็บไซต์ของหมู่บ้านดังกล่าวค่ะ**

- www.akanainu.jp (อังกฤษ)

กระเช้าลอยฟ้าชมภูเขาอาซาฮิดาเกะ (Daisetsuzan Asahidake Ropeway) - Higashikawa

กระเช้าลอยฟ้าชมภูเขาอาซาฮิดาเกะ (Daisetsuzan Asahidake Ropeway) - Higashikawa

https://pixta.jp/

ภูเขาอาซาฮิดาเกะเป็นภูเขาสูงที่สุดในฮอกไกโดที่ล้อมรอบไปด้วยป่าไม้และแม่น้ำบึงธรรมชาติที่สมบูรณ์รวมถึงกำมะถันภูเขาไฟที่พวยพุ่งออกมาตลอดแต่ไม่มากพอที่จะสร้างอันตรายใดๆ จากองค์ประกอบสถานที่ดังกล่าวพอจะบอกได้ใช่ไหมคะว่าที่นี่สวยมากเหมือนภาพวาดเกินบรรยายเลย ซึ่งบรรยากาศตาม4ฤดูกาลจะสวยแตกต่างกันอีกด้วย

สำหรับเราแนะนำให้มาเดินเที่ยวและนั่งกระเช้าชมวิวในช่วงฤดูร้อน-ฤดูใบไม้ร่วง (พฤษภาคม-ตุลาคม) ซึ่งจะเป็นช่วงที่ชาวญี่ปุ่นเองก็นิยมมาปีนเขาชมทัศนียภาพโดยรอบเพราะมีต้นไม้ดอกไม้นานาพันธุ์ให้ชมสวยยิ่งกว่าฟาร์มดอกไม้ ส่วนในช่วงใบไม้แดงรอบเขตอุทยานประกอบกับกำมะถันพวยพุ่งออกมา หากได้ชมวิวสวยนี้จากบนกระเช้าลอยฟ้ารับรองได้ว่าประทับใจอย่างแน่นอน

ในส่วนของการขึ้นกระเช้าชมบรรยากาศจะใช้เวลาราว 10 นาทีบนกระเช้า โดยค่าใช้จ่ายในการขึ้นไปชมวิวนั้นจะแตกต่างกันระหว่างช่วงปกติและช่วงยอดนิยมในการชมวิวค่ะ หลังจากนั้นสามารถเดินเท้าชมตามบริเวณเส้นทางที่กั้นราวแดงโดยรอบได้ซึ่งเส้นทางจะวนกลับมาเป็นวงกลมใช้เวลาเดินเท้าชมได้ประมาณ 1ชั่วโมงเลย สามารถดาวน์โหลดรูปภาพเส้นทางการเดินเท้าและเส้นทางกระเช้าลอยฟ้าได้จากเว็บไซต์ด้านล่างนี้ค่ะ

เวลาทำการ : ทุกวัน 6:30-17:30น.(ยกเว้นฤดูหนาวอาจปรับเวลาทำการตามสภาพอากาศ)

ค่าเข้าชม :
ช่วงเวลาปกติ หรือ 8/12/2018 - 31/5/2019
Road Trip : เด็ก 950 เยน/ท่าน ผู้ใหญ่ 1,900 เยน/ท่าน
One Way : เด็ก 650 เยน/ท่าน ผู้ใหญ่ 1,300 เยน/ท่าน

ช่วงเวลายอดนิยม หรือ 1/6/2019 - 20/10/2019
Road Trip : เด็ก 1,450 เยน/ท่าน ผู้ใหญ่ 2,900 เยน/ท่าน
One Way : เด็ก 900 เยน/ท่าน ผู้ใหญ่ 1,800 เยน/ท่าน

วิธีการเดินทาง : จากสถานี JR Asahikawa นั่งรถบัสต่อมายัง Asahidake Onsen (รถบัสมี 3 รอบ/วัน) หรือ เช่ารถขับมาจาก JR Asahikawa ใช้เวลาราว 1 ชั่วโมง 10นาที

- asahidake.hokkaido.jp (ภาษาไทย)

know-before-you-go