All About Japan

เที่ยวเซนได 4 ฤดู

Sendai Miyagi โทโฮคุ

มุ่งสู่เซนได เตรียมแผน เตรียมตัว เตรียมใจให้สนุก และเตรียมแพ็คกระเป๋าให้พร้อม!

Sendai Page 1

การบินไทยจะกลับมาบินตรงจากกรุงเทพมาเซนไดอีกครั้งหลังจากที่เคยเปิดเมื่อปี 2013 คนยังไม่เดินทางไปแถวโทโฮคุมากนัก

แต่ด้วยความที่โทโฮคุเริ่มบูมมากขึ้นตั้งแต่ช่วงปี 2018 เราเลยมีโอกาสไปเที่ยวแถบนี้กันสะดวกขึ้น การเลือกบินตรงมาลงเซนไดแสดงว่าที่นี่ไม่ธรรมดา ส่วนจะไม่ธรรมดายังไงนั้น ตามเราไปพิสูจน์กันกับธีม "เที่ยวเซนได 4 ฤดู" ที่เราเฟ้นหาที่ท่องเที่ยวทุกระดับที่เหมาะกับการมาเที่ยวในแต่ละฤดูกาลของเซนได และเมืองใกล้เคียงในจังหวัดมิยางิ รวมถึงในภูมิภาคโทโฮคุด้วย

ฤดูใบไม้ผลิ

ฤดูใบไม้ผลิฤดูแห่งการเริ่มต้นสิ่งใหม่ๆ และเรียกได้ว่าเป็นฤดูที่คนญี่ปุ่นรอคอยเลยก็ว่าได้ เพราะเป็นฤดูแห่งการชมดอกซากุระยังไงล่ะ สำหรับเซนไดก็มีจุดชมดอกซากุระบานสวยไม่แพ้เมืองไหนเช่นกัน

สวนสึสึจิงาโอกะ (Tsutsujigaoka Park)

สวนสึสึจิงาโอกะ (Tsutsujigaoka Park)

https://zh.wikipedia.org/wiki/File:Tsutsujigaoka_Park_in_the_cherry_blossom_season.jpg

สวนสึสึจิงาโอกะตั้งอยู่ใจกลางเมืองเซนได ไฮไลท์เด่นสุดของที่นี่คือความเป็นสีชมพูอ่อนและสีชมพูเข้มสลับกันสวยชวนตะลึงไปทั้งสวนที่มีพื้นที่ถึง 110,000 ตารางเมตร ซึ่งพระเอกและนางเอกของที่สวนนี้ก็คือดอกซากุระสายพันธุ์โซเม โยชิโนะ (Somei Yoshino) กว่า 1,000 ต้น สีชมพูอ่อนกับดอกสึสึจิ (Tsutsuji) สีชมพูเข้มกว่า 10,000 ต้นที่จะบานสะพรั่งไปด้วยกันในช่วงฤดูใบไม้ผลิ เป็นจุดชมซากุระที่สวยที่สุดอีกแห่งหนึ่งของเมืองเซนได

เวลาทำการ
เปิดตลอด
ค่าเข้าชม
ฟรีเกือบตลอดทั้งปี
ยกเว้นช่วงกลางเดือนเมษายน - ต้นเดือนพฤษภาคม เสียค่าเข้าชม 300 - 600 เยน
การเดินทาง
จากสถานี Tsutsujigaoka สาย Senseki เดินต่อไปอีกประมาณ 5 นาที

สวนฟุนาโอกะ (Funaoka Castle Ruin Park)

สวนฟุนาโอกะ (Funaoka Castle Ruin Park)

https://ja.wikipedia.org/wiki/%E3%83%95%E3%82%A1%E3%82%A4%E3%83%AB:%E4%B8%80%E7%9B%AE%E5%8D%83%E6%9C%AC%E6%A1%9C%E3%81%A8%E8%88%B9%E5%B2%A1%E5%9F%8E%E5%9D%80_Cherry_Blossoms_and_Funaoka_Castle_Ruin_-_panoramio.jpg

สวนฟุนะโอกะตั้งอยู่บนเนินเขาของชิบาตะ (Shibata) ทางตอนใต้ของเซนได เคยเป็นที่ตั้งของปราสาทซึ่งถูกทำลายลงในช่วงสงครามปี ค.ศ. 1671 ต่อมาจึงมีการปรับปรุงที่นี่เป็นสวนซากุระกว่า 1,000 ต้น ที่ได้รับการโหวตให้เป็น 1 ใน 100 จุดชมซากุระที่สวยที่สุดในญี่ปุ่น ส่วนไฮไลท์ของที่นี่ก็คือ การนั่งสโลปคาร์ (Slope Car) ลอดผ่านอุโมงค์ซากุระเป็นระยะทางประมาณ 300 เมตร เพื่อขึ้นไปชมรูปปั้นเจ้าแม่กวนอิม หรือใครอยากเดินขึ้นไปก็ย่อมได้เช่นกันจ้า นอกจากนี้ยังมีสะพานเชื่อมต่อไปยังจุดชมซากุระริมแม่น้ำชิโรอิชิ (Shiroishi) ที่เราสามารถมองเห็นซากุระตลอดสองฝั่งแม่น้ำด้วย

เวลาทำการ
09.00 - 17.00 น.
ค่าเข้าชม
ฟรี
ค่ารถ Slope Car
ผู็ใหญ่ 500 เยน
เด็ก 300 เยน
การเดินทาง
จากสถานี Sendai ขึ้นรถไฟโลคอลสาย JR Tohoku Line for SHIROISHI มาลงสถานี JR Funaoka แล้วเดินต่อไปอีกประมาณ 15 นาที

ศาลเจ้าชิโองามะ (Shiogama Shrine)

ศาลเจ้าชิโองามะ (Shiogama Shrine)

https://www.flickr.com/photos/nanako/4591705018/

ศาลเจ้าชิโองามะได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นทรัพย์สินทางวัฒนธรรมที่สำคัญของญี่ปุ่น เป็นหนึ่งในศาลเจ้าที่มีประวัติอันยาวนานตั้งแต่ประมาณช่วงปี ค.ศ. 800 เลยทีเดียว การจะเข้าถึงศาลเจ้าต้องใช้พละกำลังขาอยู่สักหน่อย เพราะมีบันไดสูงชันกว่า 200 ขั้นให้ไต่ขึ้นไป แต่ยามฤดูใบไม้ผลิ เมื่อขึ้นไปถึงก็หายเหนื่อยเป็นปลิดทิ้งทันทีที่ได้เห็นดอกซากุระกว่า 300 ต้น รวม 20 สายพันธุ์บานต้อนรับการมาเยือนของเรา

เวลาทำการ
เมษายน - กันยายน 08.30 - 17.00 น.
กุมภาพันธ์ - มีนาคม และ ตุลาคม - พฤศจิกายน 08.30 - 16.30 น.
ธันวาคม - มกราคม 08.30 - 16.00 น.
ค่าเข้าชม
ฟรี
แต่ถ้าจะเข้าไปดูในพิพิธภัณฑ์เสียค่าเข้า
ผู้ใหญ่ 200 เยน
นักเรียนมัธยม 150 เยน
นักเรียนประถม 80 เยน
การเดินทาง
จากสถานี Hon-Shiogama สาย JR Senseki เดินไปอีกประมาณ 15 นาที

สวนมิกามิเนะ (Mikamine Park)

สวนมิกามิเนะ (Mikamine Park)

https://commons.wikimedia.org/wiki/File:MikaminePark_Cherryblossoms.JPG

สวนมิกามิเนะ ตั้งอยู่ทางทิศใต้ของเซนได เป็นจุดชมซากุระที่สวยงามขึ้นชื่อแห่งหนึ่งของภูมิภาคโทโฮคุเลยเชียวล่ะ สวนนี้มักมีครอบครัวมาจับจองที่นั่งชมฮานามิกันมากมาย ไฮไลท์ของที่นี่ก็คือซากุระพันธุ์โซเม โยชิโนะ (Somei Yoshino) ซึ่งเป็นซากุระดอกสีชมพูอ่อนไปจนถึงเกือบขาว กับซากุระพันธุ์กิ่งย้อย (Shidarezakura) ที่ครอบคลุมบริเวณสวนเต็มไปหมดกว่า 750 ต้น เป็นอีกจุดชมซากุระสุดชิลที่ห้ามพลาด

เวลาทำการ
เปิดตลอด
ค่าเข้าชม
ฟรี
การเดินทาง
- จากสถานี JR Sendai ขึ้นรถ City Bus ไปลงป้าย Nishitaga Itchome Nishi แล้วเดินต่อไปอีกประมาณ 5 นาที
- จากสถานีรถไฟใต้ดิน Nagamachiminami บนสาย Namboku ขึ้นรถ City Bus ไปลงป้าย Nishitaga Itchome Nishi แล้วเดินต่อไปอีกประมาณ 5 นาที

สวนนิชิ (Nishi Park)

สวนนิชิ (Nishi Park)

https://commons.wikimedia.org/wiki/File:West_Park_(Sendai)_in_the_cherry_blossom_season.jpg

เซนไดมีจุดชมซากุระเยอะเลย สวนนิชิก็เป็นอีกแห่งที่แนะนำให้มาชมซากุระกันสำหรับคนที่จะมาเซนไดช่วงฤดูใบไม้ผลิ สวนนิชิตั้งอยู่ใจกลางเมือง มีต้นซากุระอยู่ประมาณ 200 ต้น ในเดือนเมษายนของทุกปีจะมีการจัดงานเทศกาลดอกซากุระขึ้น มีโคมไฟกระดาษสไตล์ญี่ปุ่นแขวนประดับอยู่ตามต้นซากุระ มีซุ้มอาหารขายมากมาย และอย่าพลาดตั้งแต่พระอาทิตย์ตกไปจนถึง 22.00 น. จะมีการเปิดไฟไลท์อัพให้ซากุระอวดความสวยงามไปอีกแบบ บรรยากาศช่วงเทศกาลครึกครื้นน่าดู

เวลาทำการ
เปิดตลอด
ค่าเข้าชม
ฟรี
การเดินทาง
- จากสถานี JR Sendai ขึ้นรถไฟใต้ดินสาย Tozai ไปลงสถานี Omachi Nishikoen แล้วเดินต่อไปอีกประมาณ 2 นาที
- จากสถานี JR Sendai ขึ้นรถไฟใต้ดินสาย Namboku ไปลงสถานี Hirosedori แล้วเดินต่อไปอีกประมาณ 10 นาที

ฤดูร้อน

ฤดูที่มีแต่ความสดใสและพืชพันธุ์ไม้เขียวขจี มีกิจกรรมน่าทำมากมาย การท่องเที่ยวก็ดูคึกคักมีชีวิตชีวา อากาศร้อนอาจกระตุ้นความอยากอาหารให้มากขึ้นด้วยก็ได้ ที่เซนไดก็มีหลายที่ที่เราสามารถไปเที่ยวพักผ่อนคลายความร้อน และหาของอร่อยรับประทานได้มากมาย

น้ำตกอะกิอุ (Akiu Great Falls)

น้ำตกอะกิอุ (Akiu Great Falls)

https://commons.wikimedia.org/wiki/File:Akiu_Otaki_201509b.jpg

อากาศร้อนๆ แบบนี้ก็ต้องไปน้ำตกกันสิ การได้เดินเข้าไปจนถึงใต้น้ำตก สัมผัสละอองน้ำเย็นๆ ที่กระเซ็นฟุ้งจากน้ำตกอะกิอุก็ช่วยให้รู้สึกสดชื่นและคลายร้อนได้ ระยะทางเดินไปน้ำตกจากปากทางเข้า 0.9 กิโลเมตร ก็เกือบๆ กิโล ใช้เวลาเดินกันประมาณ 20 นาทีก็จะได้หายร้อนกันแล้ว น้ำตกอะกิอุนี้ติดอันดับ 1 ใน 3 น้ำตกที่งดงามที่สุดของญี่ปุ่นด้วยนะ โดยมีความสูง 55 เมตร และมีความกว้าง 6 เมตร ตอนเราเดินเข้าไปก็จะห็นสภาพแวดล้อมที่เต็มไปด้วยด้วยต้นไม้ที่อุดมสมบูรณ์ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวเซนไดเป็นอันดับต้นๆ เลยด้วย

เวลาทำการ
08.00 - 18.00 น.
ค่าเข้าชม
ฟรี
การเดินทาง
จากสถานี Sendai ขึ้นรถไฟสาย Senzan มาลงสถานี Ayashi แล้วต่อรถบัสสาย 87 มาลงป้าย Futakuchi

เซนได อุมิโนะโมริอควอเรี่ยม (Sendai Umino-mori Aquarium)

เซนได อุมิโนะโมริอควอเรี่ยม (Sendai Umino-mori Aquarium)

https://www.flickr.com/photos/hiko-photo/21616366956

อากาศร้อนๆ เราหลบไปเที่ยวในที่เย็นๆ และมีน้ำเยอะๆ กันดีกว่ากับเซนได อุมิโนะโมริอควอเรี่ยม เป็นอควอเรี่ยมที่เริ่ดที่สุดในเซนได ทันสมัยยิ่งใหญ่สุดในภูมิภาคโทโฮกุเลยขอบอก ตั้งอยู่บริเวณท่าเรือเซนได ภายในจัดแสดงสัตว์น้ำท้องถิ่นที่หาดูได้ยากของภูมิภาคนี้ โดยจำลองสภาพแวดล้อมชายฝั่งทะเลให้เราเข้าใจง่ายๆ นอกจากนี้ยังรวบรวมสัตว์ทะเลจากที่ต่างๆ ในโลกกว่า 100 สายพันธุ์มาไว้ให้ชมด้วย แล้วประทับใจกันต่อกับการแสดงโชว์ปลาโลมาและแมวน้ำที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคโทโฮกุ และอย่าพลาดโอกาสที่จะได้ให้อาหารเพนกวินอย่างใกล้ชิดนะ

เวลาทำการ
09.00 - 18.30 น.
มิถุนายน - สิงหาคม 09.00 - 19.30 น.
ธันวาคม - กุมภาพันธ์ 09.00 - 17.30 น.
ค่าเข้าชม
ผู้ใหญ่ 2,100 เยน
นักเรียนชั้นมัธยมต้น - ปลาย (อายุตั้งแต่ 12 - 18 ปี) 1,600 เยน
นักเรียนประถม (อายุตั้งแต่ 6 - 12 ปี) 1,100 เยน
เด็กอนุบาล (อายุตั้งแต่ 4 ปี ขึ้นไป) 600 เยน
ผู้สูงอายุ (อายุตั้งแต่ 65 ปีขึ้นไป ) 1,600 เยน
การเดินทาง
จากสถานี Sendai ขึ้นรถไฟสาย JR Senseki มาลงสถานี Nakano Sakae แล้วเดินต่อไปอีกประมาณ 15 นาทีหรือจะขึ้น Shuttle Bus ฟรีไปก็ได้

เทศกาลทานาบาตะที่เซนได (Sendai Tanabata Festival)

เทศกาลทานาบาตะที่เซนได (Sendai Tanabata Festival)

https://commons.wikimedia.org/wiki/File:Sendai_Tanabata_Festival_2010.jpg

ถ้ามาเที่ยวเซนไดช่วงฤดูร้อน งานเทศกาลที่เราไม่ควรพลาดอย่างยิ่งคือ เซนไดทานาบาตะ ซึ่งเป็นหนึ่งในเทศกาลยิ่งใหญ๋ของภูมิภาคโทโฮกุ มีประวัติศาสตร์ของยาวนานกว่า 400 ปีแล้ว ของประดับตกแต่งที่ใช้จัดเทศกาลเซนไดทานาบาตะก็หรูหราน่าตื่นตาตื่นใจที่สุดในบรรดาหลายๆ เทศกาลของญี่ปุ่นเลยก็ว่าได้ เซนไดทานาบาตะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 6 ถึง 8 สิงหาคมของทุกปี ในสถานที่จัดงานมีกิจกรรมน่าสนใจมากมาย เช่น การเดินชมของตกแต่งทานาบาตะ ยิ่งถ้าเป็นทางด้านตะวันตกของสถานีเซนไดนะ จะมีของตกแต่งทานาบาตะหรูหราเป็น 1000 ชิ้นเลยทีเดียว นอกจากนั้นเราก็ยังได้ชมกิจกรรมบนเวที และเพลิดเพลินไปกับของกินอร่อยๆ ตามซุ้มร้านขายอาหารต่างๆ เป็นต้น แต่ความอลังการยังไม่หมดแค่นี้ เพราะถ้าเรามาก่อนเทศกาลเซนไดทานาบาตะ 1 วัน ซึ่งก็๕ือวันที่ 5 สิงหาคม เราจะได้ชมการแสดงพลุดอกไม้ไฟฤดูร้อนอีกด้วย

เวลาทำการ
วันที่ 6 - 8 สิงหาคมของทุกปี
ค่าเข้าชม
ฟรี
การเดินทาง
จากสถานี Sendai เดินมาประมาณ 5 นาที

ปราสาทเซนได (Sendai Castle)

ปราสาทเซนได (Sendai Castle)

https://www.flickr.com/photos/sendaiblog/3780460105

เราต้องไม่พลาดการมาเยือนอีกแลนด์มาร์คสำคัญของเซนได ปราสาทเซนได หรือที่เรียกกันว่าปราสาทอาโอบะ (Aoba Castle) เดินชมซากปราสาทและรูปปั้นดาเตะ มาซามุเนะ (Date Masamune) ที่ถือว่าเป็นฮีโร่คนสำคัญกำลังทรงม้า ปราสาทถูกสร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1600 โดยดาเตะ มาซามุเนะคนนี้เอง แต่ปัจจุบันเหลือเพียงกำแพงหินที่ได้รับการบูรณะขึ้นใหม่ ส่วนตัวปราสาทถูกทำลายไปตั้งแต่เมื่อครั้งสงครามแล้ว

การเดินทาง
จากป้ายรถบัส Site of Sendai Castle เดินต่อไปอีกประมาณ 5 นาที

ลิ้นวัวย่างที่ร้านริคิว กิวตง (Rikyu Gyutan)

ลิ้นวัวย่างที่ร้านริคิว กิวตง (Rikyu Gyutan)

http://photozou.jp/photo/show/216071/148871114

มาถึงเซนได เมืองแห่งลิ้นวัวย่างทั้งที ถ้าจะไม่กินลิ้นวัวย่าง อาหารจานเด็ดของที่นี่แล้วจะเสียดาย เราเลยจะพาไปลองสักหน่อย ในบรรดาร้านที่มีอยู่มากมาย ร้าน Rikyu Gyutan ได้รับการแนะนำมามากที่สุด ร้านริคืวนี้เปิดดำเนินกิจการมานานกว่า 28 ปีแล้ว สาขาแรกที่เปิดทำการก็คือที่เมืองเซนไดนี้เอง หลังจากสร้างชื่อเสียงไปจนโด่งดัง ก็มีการขยายสาขาออกไปอีกหลายแห่ง ในเมืองเซนไดเองมีถึง 6 สาขาด้วยกัน สำหรับสาขาที่แนะนำเดินทางไปชิมกันสะดวกมาก นั่นคือสาขาสถานีรถไฟ JR Sendai เมนูลิ้นวัวของที่นี่ก็มีหลากหลาย มีความสดใหม่ กรอบ ร้อน เพราะเชฟจะไม่ย่างทิ้งไว้ จะอร่อยยังไงต้องลองไปพิสูจน์กันดู

เวลาทำการ
10.00 - 22.30 น.
การเดินทาง
สถานีรถไฟ JR Sendai เดินขึ้นไปที่ชั้น 3 ซึ่งเป็นชั้นเดียวกับทางออกจาก Shinkansen

  • 1
  • 2
  • 1
  • 2
  • 1
  • 2
know-before-you-go