แน่นอน อย่างแรกเลยคือตั๋ว ที่ไม่ควรลืมด็ดขาด เพราะลืมแล้วเข้าไม่ได้แน่นอน นอกจากนี้พวกเฟสส่วนใหญ่ของญี่ปุ่นยังไม่มีตั๋วขายหน้างานด้วย จึงขอย้ำอีกครั้งว่า ห้ามลืมเด็ดขาด ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว ตั๋วรถไฟหรือรถบัสที่จะโดยสารไปก็เช็คด้วยเลยแล้วกันว่าอยู่ในกระเป๋าหรือยัง?

ไปเฟสแล้วทั้งทีก็น่าจะเอาของติดตัวไปให้น้อยที่สุดเพื่อความคล่องตัว ฉะนั้นพยายามเลือกกระเป๋าตังค์ใบเล็กๆ และถ้ากันน้ำได้ประมาณนึงก็จะยิ่งดี เพราะนอกจากจะเหงื่อไหลอย่างหนักแล้วบางทีก็ยังมีฝนอีกด้วย

แน่นอนว่าใครที่ทนได้ ก็สามารถใส่เสื้อยืดตัวเดียวตลอดทั้งวันเลยก็ได้ แต่เพื่อความสนุกสบายตัว เอาไปเผื่ออีกตัวก็ดี เพราะที่เฟสนั้นรับรองเลยว่าร้อนเหงื่อโซกแน่นอน แถมเสื้อเปียกแถมเหม็นเหงื่ออย่างนี้จะไปขึ้นรถไฟขากลับก็ค่อนข้างเกรงใจคนรอบข้างเหมือนกันว่าไหม หรือจะซื้อเสื้อยืดที่เฟสเปลี่ยนเลยก็ได้เหมือนกัน

ผ้าเช็ดเหงื่อเป็นของสำคัญอย่างยิ่ง เพราะเหงื่อไหลเป็นสายน้ำแบบนี้มองอะไรก็คงไม่สะดวก แถมถ้ามีผ้าเช็ดเหงื่อสำรองอีกผืน เผื่อผืนแรกเปียกแฉะก็จะยิ่งดี นอกจากนี้ เดี๋ยวนี้ที่ญี่ปุ่นมีผ้าเช็ดเหงื่อบางๆ เบาๆ แต่ซับน้ำดีให้เลือกมากมายด้วย

จะไม่เป็นเสื้อฝนก็ได้ แต่เตรียมเครื่องกันฝนไปด้วยจะดีที่สุด เพราะฝนมักจะตกในช่วงที่มีเฟสเสมอ (ไม่รู้ทำไม) อย่าคิดว่าตากฝนก็ได้เย็นสบายดีนะ จะเสียใจภายหลังแน่นอน เพราะตอนเปียกโชกไปทั้งตัวแล้วเหนอะหนะไม่ยอมแห้งสักทีเนี่ย มันฝันร้ายชัดๆ ที่แนะนำก็คือเสื้อฝน เพราะเล็ก เบาและพับเก็บสะดวก มีขายตามร้าน 100 เยนด้วย ใช้แล้วทิ้งก็ไม่เสียดาย

สำหรับคนที่จะไปเฟสบนภูเขา และจะอยู่ถึงกลางคืน ขอให้เตรียมเสื้อแจ็คเก็ตกันหนาว หรือผ้าคลุมง่ายๆ สักผืนไปด้วย เพราะตอนพระอาทิตย์ตกแล้วอุณหภูมิบนนั้นจะต่างจากตอนกลางวันถึง 10 องศาได้เลยทีเดียว

เฟสเป็นงานกลางแจ้งอยู่แล้ว ฉะนั้นครีมกันเด็ดเป็นอีกสิ่งสำคัญเลยที่ต้องพกไป อย่านิ่งนอนใจเด็ดขาด เพราะการตากแดดแรงๆ ทั้งวัน ไม่ใช่แค่จะทำให้ผิวจะดำเท่านั้น อาจจะทำให้ผิวลอกและแสบร้อนในวันหลังได้เลย ยิ่งเวลาเหงื่อออกแล้วครีมกันแดดก็จะหลุด ฉะนั้นนึกขึ้นได้เมื่อไหร่ก็หมั่นทาอยู่เสมอ